สำนักข่าว เอเอฟพี (AFP) รายงานว่า สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เตรียมเข้ามาดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงหลังจากมีการเปิดเผยว่าการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า คัพ เมื่อฤดูกาลที่แล้วอาจจะมีการติดสินบนเพื่อกำหนดผลการแข่งขันโดยมี บาเยิร์น มิวนิค และ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สองทีมดังแห่งทวีปยุโรปเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
เรื่องอื้อฉาวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากทางการประเทศสเปนสามารถจับกุมตัวหัวหน้ากลุ่มอาชญากรรมของรัสเซียที่เข้ามาหลบตัวภายในประเทศได้และในการพิจารณาคดีผู้ต้องหาคนดังกล่าวในชั้นศาลมีการเปิดเผยเทปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจดักฟังพบว่ามีการกล่าวถึงการจ่ายเงินสินบนเพื่อกำหนดผลการแข่งขันในการแข่งรอบรองชนะเลิศของศึกยูฟ่า คัพ
โดยรอบรองชนะเลิศดังกล่าวเป็นการพบกันระหว่าง เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก และ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งผลปรากฏว่าในการแข่งเลกที่สอง เซนิตฯ พลิกล็อกเอาชนะ บาเยิร์น ไปถึง 4-0 ประตูจนผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศและเอาชนะ กลาสโกว์ เรนเจอร์ 2-0 ประตูจนคว้าแชมป์มาครองได้
หนังสือพิมพ์ El Pais ของสเปน รายงานว่าคำพูดที่ถูกบันทึกในเทปลับโดยมีตอนหนึ่งกล่าวถึงการจ่ายเงินเป็นจำนวน 50 ล้านให้กับ บาเยิร์น แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นเงินสกุลใดซึ่งอาจเป็นได้ทั้ง เงินเหรียญสหรัฐฯ , เงินยูโร หรือเงินรูเบิลของรัสเซีย
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจสเปนก็ยังไม่สามารถสืบได้อย่างชัดเจนว่ากลุ่มผิดกฎหมายดังกล่าวได้ทำการติดต่อกับผู้เล่นหรือเจ้าหน้าที่คนใดจาก บาเยิร์น มิวนิค หรือแม้แต่ กลาสโกว์ เรนเจอร์
ขณะที่ วิลเลียม เกลลาร์ด โฆษกของยูฟ่า ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "เมื่อมีข่าวลือแบบนี้เกิดขึ้น คณะกรรมการตรวจสอบวินัยจะเข้ามาสอบสวนและเราจะติดตามกรณีนี้อย่างใกล้ชิด"
ส่วน บาเยิร์น ออกแถลงการณ์ทันทีโดยมีข้อความตอนหนึ่งว่า "ทางสโมสรไม่ทราบเกี่ยวกับข้อสงสัยนี้ แต่เราจะพยายามและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ได้"
นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ El Pais ยังรายงานอีกว่า บัลตาซาร์ การ์ซอน หัวหน้าคณะผู้ไต่สวนในคดีนี้ได้ร้องขอไปยังเจ้าหน้าที่ทางการเยอรมนีเพื่อให้ช่วยเหลือในการหาหลักฐานเกี่ยวกับคดีนี้ด้วย
องค์กรผิดกฎหมายนี้มีแหล่งซ่องสุมอยู่ที่กรุง เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก และใช้ประเทศสเปนเป็นที่หลบซ่อนของหัวหน้ากลุ่มรวมถึงเป็นแหล่งฟอกเงินจากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในรัสเซียและกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต นอกจากนี้ยังไม่ชัดเจนว่าคนร้ายกลุ่มนี้หาประโยชน์จากการติดสินบนดังกล่าวอย่างไร