xs
xsm
sm
md
lg

ทำจริง Zero Waste ต่อยอดยุทธศาสตร์ EASE Excise เดินหน้า ESG ทั้งระบบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




กรมสรรพสามิต เดินหน้า ESG ทั้งระบบ ยกระดับการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายที่มีการลักลอบนำเข้าโดยไม่ได้เสียภาษี สู่นโยบายในการจัดการของกลางที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ นำนวัตกรรมเข้าจัดการใช้ทุกส่วนของบุหรี่ ทั้งใบยา ก้นกรอง ซองกระดาษ และพลาสติก ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามแนวคิด “Zero Waste” ทั้งยังลดปัญหาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และมลพิษ


ส่งมอบของกลางยาสูบ จำนวน 3.4 ตัน และนวัตกรรมองค์ความรู้ให้กับโรงเรียนทหารการสัตว์ จังหวัดนครนายก
เมื่อเร็วๆ นี้ ส่งมอบของกลางยาสูบ จำนวน 3.4 ตัน และให้นวัตกรรมองค์ความรู้กับโรงเรียนทหารการสัตว์ จังหวัดนครนายก เพื่อนำไปแปรรูปเป็นน้ำหมักชีวภาพไล่แมลงศัตรูพืช และส่งต่อให้ชุมชนได้ใช้ประโยชน์

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า “ตามที่กรมสรรพสามิตได้เปิดศูนย์ปราบปราบสินค้าผิดกฎหมายออนไลน์ นำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการทำงาน ตามยุทธศาสตร์ EASE Excise ในการยกระดับเดินหน้าปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายที่มีการลักลอบนำเข้าโดยไม่ได้เสียภาษี ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่ค้าขายอย่างสุจริตให้ได้รับความเป็นธรรม รวมถึงยังเป็นการดูแลผู้บริโภคในเรื่องความปลอดภัยและได้สินค้าที่มีคุณภาพ ทำให้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึง 31 มีนาคม 2566) กรมสรรพสามิตสามารถจับกุมคดีสินค้ายาสูบจากทั่วประเทศได้จำนวนมากถึง 4,809 คดี จำนวน 638,519 ซอง เปรียบเทียบปรับ เป็นเงิน 130,000,000 บาท ส่งผลให้มีปริมาณของกลางยาสูบเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังจากคดีสิ้นสุดแล้ว จะต้องมีการดำเนินการทำลายของกลางให้ไม่สามารถนำกลับมาบริโภคได้อีก

อย่างไรก็ดี ในการทำลายยาสูบของกลางนั้น ต้องคำนึงวิธีการที่จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน ไม่เพียงแค่ควันบุหรี่ที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพ แต่ส่วนอื่น ๆ ของบุหรี่ยังส่งผลกระทบ ด้วยเช่นกัน

เครื่องทำลายของกลางยาสูบต้นทุนต่ำ

แปรรูปเป็นน้ำหมักชีวภาพ มอบให้ชุมชน

แปรรูปเป็นสารไล่แมลงชีวภาพ
จากที่กล่าวข้างต้น ด้วยยุทธศาสตร์ของกรมสรรพสามิต EASE Excise ที่มุ่งเน้นสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) กรมสรรพสามิตจึงมีแนวคิดที่นำของกลางยาสูบมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมองในมิติต่าง ๆ ดังนี้

1) มิติด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) ในการลดมลภาวะ จากเดิมในการจัดการของกลางยาสูบ ด้วยวิธีการเผาทำลาย ซึ่งในบุหรี่ 1 มวน ประกอบด้วย ใบยาสูบ กระดาษที่ใช้มวน และสารเคมีหลายร้อยชนิด เมื่อเกิดการเผาไหม้จะทำให้เกิดสารเคมีที่ส่งผลเสียต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย และปัญหาการเผาทำลายนำมาซึ่งการเพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อนอีกด้วย จึงได้มีการนำนวัตกรรม การจัดการของกลางยาสูบมาใช้ ด้วยการสร้าง “เครื่องทำลายของกลางยาสูบต้นทุนต่ำ” หนึ่งในตัวอย่างจากสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สระแก้ว ซึ่งได้นำมาสาธิตให้กับโรงเรียนทหารการสัตว์ จังหวัดนครนายก โดยนำเลื่อยวงเดือนมาติดตั้งบนโต๊ะเพื่อตัดทำลายพร้อมคัดแยกก้นกรองและยาสูบออกจากกัน มีการติดตั้งเครื่องดูดและถังกักเก็บฝุ่นละออง เพื่อลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถตัดทำลายของกลางยาสูบทั้งแบบซองแข็งและซองอ่อนได้ทั้ง carton อย่างต่อเนื่อง ใช้แรงงานควบคุมเพียง 1 คน และใช้เวลาในการตัดทำลาย เพียง 3 วินาที ต่อ 1 carton มีประสิทธิภาพกว่าเดิมที่ใช้แรงงานจำนวนมาก ตัดทำลายได้คราวละ 1 ซอง ใช้เวลาในการตัดทำลาย 10 นาที ต่อ 1 carton เพื่อบรรเทาปัญหาและอุปสรรคในการจัดการของกลางยาสูบ (การทำลายให้สิ้นสภาพ) และเพื่อปรับปรุงคุณภาพของกระบวนการจัดการของกลางยาสูบให้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดผ่านแนวคิด Zero Waste ในการนำทุกส่วนประกอบของยาสูบไปใช้ประโยชน์ดังนี้

(1) ยาสูบ นำไปใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตยากำจัดศัตรูพืช (ชีวภาพ)
(2) ก้นกรอง สามารถใช้ทดแทนมะพร้าวสำหรับปลูกไม้ดอกไม้ประดับ สร้างพื้นที่สีเขียว
(3) บรรจุภัณฑ์ที่เป็นกระดาษ นำเข้าสู่กระบวนการ Recycle
(4) ซองและพลาสติก สู่กระบวนการคัดแยกขยะเพื่อนำไปกำจัดให้ถูกวิธีต่อไป

2) มิติด้านสังคม (Social)การส่งมอบของกลางยาสูบให้กับโรงเรียนทหารการสัตว์ เพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ไล่ศัตรูพืช ส่งเสริมการทำเกษตรปลอดภัยแก่บุคลากรในโรงเรียนและประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งยังเป็น การสร้างอาชีพ สร้างรายได้จากการเรียนรู้ และสามารถจัดจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรในราคาถูกแก่ชุมชนอีกด้วย

3) มิติด้านธรรมาภิบาล (Governance) การบริหารจัดการสินค้ายาสูบของกลางซึ่งมีจำนวนมากให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ อีกทั้งยังเป็นการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย การสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน รวมถึงยังเป็นการสร้างความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ตามหลักธรรมาภิบาล

“การนำบุหรี่ของกลางที่คดีสิ้นสุดแล้วมาแปรรูปเป็นน้ำหมักชีวภาพเพื่อใช้ในการไล่ศัตรูพืชนี้ เป็นโมเดลเศรษฐกิจ BCG ในการแปรรูปเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านเกษตรกรรม ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมทดแทนการใช้สารเคมี (B: Bio) ถือเป็นการนำของเหลือใช้มาหมุนเวียนสร้างคุณค่า (Circular) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้เกิดการพัฒนาภาคเกษตรสู่การเติบโตสีเขียว (Green) ทั้งยังเป็นการลดต้นทุนในการทำเกษตรให้กับเกษตรกรเป็นการต่อยอดนวัตกรรมและองค์ความรู้การทำลายยาสูบของกลาง ให้เป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของกรมฯ EASE Excise ที่กรมฯ มุ่งเน้นในเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ซึ่งเห็นเป็นรูปธรรมในการดำเนินการ ให้เป็นไปตามนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ของกรมฯ ในการให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นทั้งภารกิจหลักของกรมฯ และยังเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกัน โดยทางสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สระแก้ว มีการสาธิตนวัตกรรมเครื่องตัดทำลายของกลางยาสูบ และมอบองค์ความรู้แลกเปลี่ยนสูตรการทำน้ำหมักเพื่อใช้ใน การไล่ศัตรูพืช กับทางโรงเรียนทหารการสัตว์ เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชนทั้งในด้านองค์ความรู้ในภาคการเกษตร การนำมาแปรรูปเพื่อเป็นยาไล่แมลงศัตรูพืช เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เชื่อมโยงสู่เศรษฐกิจพอเพียง และสร้างประโยชน์ให้ต่อชุมชนและพี่น้องประชาชนต่อไป” อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวทิ้งท้าย




กำลังโหลดความคิดเห็น