เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา สมาคมการค้าชาวไร่ยาสูบเตอร์กีซ จาก 5 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ได้แก่ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม สกลนคร และนครพนม) ได้จัดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ขึ้น ณ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด โดยมีชาวไร่ยาสูบกว่า 105 คน พร้อมด้วยผู้รับซื้อใบยาสูบในพื้นที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ โดยชาวไร่ยาสูบชี้ว่าโครงสร้างภาษีสรรพสามิตบุหรี่ทำอุตสาหกรรมย่ำแย่ แต่บุหรี่เถื่อนโต วอนผู้สมัคร ส.ส.แก้ปัญหาเพื่อรักษาอาชีพยาสูบและรายได้ภาษีรัฐบาล
ภายในงาน สมาคมฯ ได้จัดทำกิจกรรมสอบถามความคิดเห็นของสมาชิกสมาคมฯ ที่เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับปัญหาอุตสาหกรรมยาสูบที่ต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างเร่งด่วน พบว่าปัญหาบุหรี่เถื่อนและการขึ้นภาษีบุหรี่เป็นสองปัญหาหลักที่ชาวไร่ยาสูบในภาคอีสานเห็นพ้องว่าควรได้รับการดูแลจากภาครัฐ สืบเนื่องจากการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ทั้งระบบเป็นแบบ 2 อัตราในปี 2560 และการเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตอีกครั้งในเดือนตุลาคม 2564 ทำให้ราคาค้าปลีกของบุหรี่ในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้น เปิดช่องให้มีการลักลอบนำเข้าบุหรี่เถื่อนผ่านทางแนวชายแดนอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งบุหรี่เถื่อนที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทยกระทบต่อยอดขายบุหรี่ในประเทศ ทำให้ความต้องการใบยาสูบเพื่อนำไปผลิตบุหรี่ลดลง และส่งผลให้ชาวไร่ยาสูบถูกตัดโควตากว่า 50% เป็นเวลาถึง 5 ปีติดต่อกัน
นายสัน หารสุโพธ์ นายกสมาคมการค้าชาวไร่ยาสูบเตอร์กีซ กล่าวว่า “ปัญหาบุหรี่เถื่อนในประเทศไทยไม่ได้มีแค่ในพื้นที่ภาคใต้เท่านั้น แต่ความจริงแล้วสามารถพบได้ทั่วไป โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งภาคอีสานเองก็เป็นพื้นที่ที่พบบุหรี่เถื่อนได้อย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีพรมแดนติดกับประเทศกัมพูชาที่ราคาบุหรี่ต่อซองถูกกว่าไทยเกือบเท่าตัว ขณะที่คนสูบบุหรี่ในพื้นที่นี้ก็ไม่ได้มีกำลังซื้อมาก จึงนิยมซื้อบุหรี่เถื่อนกัน ยิ่งบุหรี่เถื่อนเติบโตขึ้นมาก รายได้ภาษีรัฐก็ลดลง”
“รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาด้วยการขึ้นภาษีบุหรี่ เพื่อให้ได้รายได้ภาษีมากขึ้น แต่ยิ่งขึ้นภาษี บุหรี่เถื่อนก็ยิ่งเพิ่มขึ้น วนกันไปไม่จบสิ้น และสุดท้ายชาวไร่ยาสูบกว่า 14,331 ครอบครัวในภาคอีสาน และกว่า 30,000 ครอบครัวทั่วประเทศต้องกลายเป็นผู้ได้รับผลกระทบ เพราะโดนตัดโควตารับซื้อใบยาจากการยาสูบแห่งประเทศไทย รัฐบาลจึงควรต้องแก้ปัญหาที่ต้นตอคือทำโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ ให้สามารถเก็บภาษีได้ และไม่กระทบวิถีชีวิตของชาวไร่ยาสูบด้วย”
ปาริฉัตร นุสนทรา ตัวแทนชาวไร่ยาสูบจากจังหวัดร้อยเอ็ด ให้ความเห็นว่า ทุกวันนี้มีต้นทุนในการประกอบอาชีพเพาะปลูกยาสูบเพิ่มสูงขึ้น ซ้ำยังมีปัญหาบุหรี่เถื่อนที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อโควตาการปลูก ทำให้รายรับน้อยลงไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในครอบครัว จึงอยากขอร้องให้ผู้สมัคร ส.ส. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมองปัญหาบุหรี่เถื่อนเป็นปัญหาเร่งด่วน และแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงใจ บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวไร่ยาสูบ