xs
xsm
sm
md
lg

ชี้เป้า ! โซลาร์รูฟท็อปภาคครัวเรือน ไม่คืบหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ภาคประชาสังคม เรียกร้อง รัฐบาล ทลายกฎเกณฑ์ที่เป็นตัวขัดขวางการติดตั้งโซลาร์เซลล์ของประชาชน เพราะพลังงานแสงอาทิตย์เป็นของทุกคน ที่ต้องได้รับโอกาสการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม ตอกย้ำข้อสั่งการของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2565 ไปไม่ถึงไหน


จากงานเสวนาออนไลน์ “ล้านหลังคา ล้านโซลาร์เซลล์ พลังผู้บริโภค สู่พลังงานหมุนเวียน” เนื่องในโอกาสวันผู้บริโภคสากลปี 2566 (World Consumers Right Day) เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมกับ สภาองค์กรของผู้บริโภค (สมาชิกสหพันธ์ผู้บริโภคสากล) สมาคมสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค และกองทุนแสงอาทิตย์

ซึ่งเป็นเวลาที่ผ่านมาราว 6 เดือน ภายหลังจากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้มีข้อสั่งการในที่ประชุม ครม. ให้การไฟฟ้าฝ่ายภูมิภาค (กฟภ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และกระทรวงมหาดไทย พิจารณาดำเนินการเรื่องการส่งเสริมระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) เพื่อแบ่งเบาภาระค่าไฟฟ้าระดับครัวเรือนให้ประชาชน โดยทุกครัวเรือนสามารถติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพื่อใช้งานเองได้ และสามารถส่งไฟฟ้าเข้าในระบบเพื่อนำหน่วยไฟฟ้าไปหักลบกับหน่วยไฟฟ้าที่ครัวเรือนต้องซื้อจากการไฟฟ้าในเวลากลางคืน หรือที่เรียกว่า การคิดค่าไฟฟ้าแบบหักลบกลบหน่วยตามจริง (Net metering)

ข้อสรุปจากเสวนาชี้ว่า ถึงเวลานี้ ภาคครัวเรือน ยังถูกปิดกั้นการติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้าน โดยชี้เหตุ ภาครัฐยังยึดผลกำไรของอุตสาหกรรมพลังงานทั้งระบบเอาไว้ เพราะนับตั้งแต่โซลาร์เซลล์เข้ามามีบทบาททางด้านพลังงานทดแทน ทำให้มีการนำแผงโซลาร์เซลล์มาประยุกต์ใช้งานกันมากขึ้น ในระบบโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนหลังคาบ้านที่เห็นทั่วไปนั้น มีอยู่ 2 ระบบใหญ่ๆ คือ Ongrid System กับ Hybrid System

ระบบโซลาร์แบบออนกริด (Ongrid Solar System) เป็นระบบผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของ การไฟฟ้านครหลวง หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยสัดส่วนขึ้นอยู่กับกำลังการผลิต และจำนวนโหลดเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ใช้ในบ้าน

ส่วน ระบบโซลาร์แบบไฮบริด (Hybrid Solar System) พัฒนาขึ้นมาจากระบบออนกริดโดยแก้ไขข้อด้อยที่ไม่สามารถจ่ายไฟในเวลากลางคืน และต้องหยุดการทำงานขณะที่ไฟฟ้าดับ นั่นคือสามารถทำงานได้ในขณะที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง แก้ปัญหาไฟดับ-ไฟตก

แต่ด้วยความยุ่งยากของกฏหมาย ที่กำหนดให้การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ ทั้งแบบ ออนกริด และ ไฮบริด ต้องขออนุญาตจากหน่วยงาน ของภาครัฐ ถึง 3 หน่วยงาน ได้แก่ 1.คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ( กกพ.) กระทรวงพลังงาน
2.การไฟฟ้านครหลวง ( กฟน . ) และ 3.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) รวมถึง หน่วยงาน สำนักงานเขต/อำเภอ/ หน่วยงานท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต.

เมื่อประชาชนต้องแจ้งถึง 3 หน่วยงานภาครัฐ เพื่อขอติดตั้งโซลาร์เซลล์ ทำให้ไม่มีใครอยากดำเนินการ ที่สำคัญ ยังมีกฎกระทรวงมหาดไทย ยิ่งทำให้วุ่นวายเข้าไปอีก เพราะกำหนดให้การติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้านเรือน จะต้องมีผลการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง ที่จัดทำและรับรองโดยวิศวกรโยธา จากนั้นให้แจ้งต่อเทศบาลท้องถิ่น ให้ทราบก่อนดำเนินการ ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ ออกเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2558 ลงนามโดย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ออกกฎกระทรวงฉบับที่ 65 ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 โดยปัญหาที่ตามมา นั่นคือ ประชาชน ต้องจ่ายเงินเป็นค่าวิศวกร รับรองแบบ รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการจดแจ้ง ซึ่งจนถึงปัจจุบัน ( พ.ศ. 2566 ) เงื่อนไขที่สร้างภาระให้กับประชาชน ยังคงอยู่ โดยไม่มีมาตรการใดๆ จากรัฐบาลมาอุดหนุน หรือเอื้อประโยชน์ให้กับประชาชนที่ต้องการติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ชี้ให้เห็นปัญหานี้ นั่นก็เพราะภาครัฐ สร้างมาตรฐานการติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่ซับซ้อน อีกทั้งยังสร้างภาระด้านค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่เห็นความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องมีวิศวกรรับรองแบบ ในเมื่อโครงสร้างหลังคา ไม่ได้เป็นสาระสำคัญกับน้ำหนักของโซลาร์เซลล์ เพียงแค่ 3-5 กิโลวัตต์

อีกประเด็นที่ภาครัฐ พยายามปิดกั้นประชาชนขอติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ ได้โดยสะดวก นั่นก็คือ “ระบบการรับซื้อไฟฟ้าบนหลังคา หรือ Net Metering ซึ่งเป็น ระบบหักลบกลบหน่วยอัตโนมัติ จากไฟฟ้าที่ผลิตใช้เองจากโซลาร์เซลล์บนหลังคา กับ ไฟฟ้าที่ใช้จากการไฟฟ้าฯ ซึ่งผู้ใช้ไฟฟ้าจะจ่ายค่าไฟฟ้าตามจำนวนหน่วยไฟฟ้าที่หักลบแล้ว”

ดังนั้น ระบบ Net Metering จึงถือเป็น “ กระดูกชิ้นโต “ ที่ภาครัฐ ต้องการเก็บเอาไว้เอง เพื่อให้สายพลังงานหมุนเวียน เติบโต ในวงจำกัดมากที่สุด โดยไม่ให้ไหลย้อนกลับเข้าระบบในทุกกรณี เพื่อให้สามารถกอบโกยผลกำไรจากอุตสาหกรรมพลังงานทั้งระบบอย่างไม่สิ้นสุด

นางสาวกชนุช แสงแถลง ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ระบบ Net Metering ยังถูกปิดกั้น จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ( กกพ.) ถึงแม้ภาคประชาสังคมพยายามผลักดัน รวมถึงยื่นข้อเสนอผ่าน “กองทุนแสงอาทิตย์” เพื่อเปิดทางให้ประชาชนรายย่อย แต่กลับยังเพิกเฉยมาจนถึงบัดนี้ ดังนั้น ภาคประชาสังคม จึงร่วมมือผนึกกำลังให้เกิดพลังพลเมืองเพื่อขับเคลื่อน-ผลักดันให้รัฐบาลทลายกฎเกณฑ์ที่เป็นตัวขัดขวางการติดตั้งโซลาร์เซลล์ของประชาชน รวมทั้ง ออกนโยบายสนับสนุน งบประมาณการติดตั้ง และ มาตรการลดหย่อนภาษี ถือเป็นการแสดงความจริงใจ ที่ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงประโยชน์ด้านพลังงาน ในฐานะพลเมืองของประเทศ

อย่างไรก็ตาม เวลานี้ใกล้เลือกตั้ง มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ในฐานะเป็นสมาชิกสหพันธ์ผู้บริโภคสากล และภาคประชาสังคม ได้แก่ สภาองค์กรของผู้บริโภค สมาคมสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค และกองทุนแสงอาทิตย์ จึงร่วมมือกัน ทำข้อเสนอต่อทุกพรรคการเมือง โดยทำการยื่นแล้วเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา บน เวทีนำเสนอและแลกเปลี่ยน นโยบายคุ้มครองผู้บริโภคต่อพรรคการเมือง เพื่อขับเคลื่อน "ล้านหลังคา ล้านโซลาร์เซลล์" ให้เป็นรูปธรรมซึ่งประชาชนจะได้เห็นว่า พรรคการเมืองใดยึดประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นหลัก

ซึ่งก่อนหน้านี้ ผศ.ประสาท มีแต้ม กรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม สภาองค์กรของผู้บริโภค เคยให้ข้อสังเกตแต่แรกๆ ว่า “นโยบายการคิดค่าไฟฟ้าแบบหักลบกลบหน่วยตามจริง (Net metering) ของรัฐบาล จากการประชุม ครม.ยังเป็นเพียงข้อสั่งการเท่านั้น จึงเสนอว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ควรนำนโยบายนี้มาสั่งการและกำหนดเป็นมติอีกครั้งในการประชุม กพช. เพื่อให้มีความชัดเจนทางนโยบาย ที่จะนำไปสู่ประชาธิปไตยทางพลังงาน (energy democracy) และยกระดับเศรษฐกิจครัวเรือนและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมอย่างแท้จริง”


การคิดค่าไฟฟ้า แบบ ‘Net metering’

‘การคิดค่าไฟฟ้าแบบหักลบกลบหน่วยตามจริง’ หรือ ‘Net metering’ เป็นการคิดค่าไฟฟ้า โดยคำนวนจากจำนวนหน่วยไฟฟ้าที่บ้านเราใช้หักลบกับจำนวนหน่วยไฟฟ้าที่บ้านเราผลิตได้ เช่น บ้านของเราเสียค่าไฟฟ้าในเดือนพฤศจิกายนใช้ไฟฟ้าจำนวน 548 หน่วย (หากค่าไฟฟ้าหน่วยละ 4 บาท ประมาณ 2,192 บาท เมื่อบ้านดังกล่าวติดตั้งแผงโซลาเซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ในบ้านได้ 355หน่วย (หากค่าไฟฟ้าหน่วยละ 4 บาท คิดเป็นเงิน 1,420บาท)

เมื่อติดตั้งแผงโซลล่าเซลล์บนหลังคาไฟฟ้าจะผลิตได้ในเวลากลางวัน กระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ดังกล่าวจะไหลผ่านมิเตอร์เข้าสู่สายส่งหากเหลือจากที่บ้านเราใช้ พอตอนค่ำเราก็จะใช้ไฟฟ้าจากสายส่งซึ่งไฟฟ้าดังกล่าวก็จะไหลผ่านมิเตอร์เข้าบ้านเหมือนปกติ

ดังนั้น เมื่อนำไฟฟ้าที่ใช้จำนวน 548 หน่วย ลบออกจากไฟฟ้าที่บ้านเราผลิตได้เอง 355 หน่วย ดังนั้นบ้านหลังนี้จึงจ่ายค่าไฟฟ้าเดือนดังกล่าวเพียงจำนวน 193 หน่วย ทั้งนี้จะต้องจ่ายกี่บาทขึ้นอยู่กับราคาค่าไฟฟ้าต่อหน่วย ณ ช่วงเวลาดังกล่าว

ชมข้อมูลเพิ่มเติม
1. วิดีโอ Net metering องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน
https://www.youtube.com/watch?v=NG3h53xO3Fc
2. วิดีโอ Net metering กรีนพีซ ประเทศไทย
https://www.youtube.com/watch?v=3HQiv2HXm8k


กำลังโหลดความคิดเห็น