บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ลงนามร่วมกับสำนักงานการค้าและการพัฒนาแห่งสหรัฐอเมริกา (USTDA) เพื่อการศึกษาและพัฒนาแผนงานสำหรับธุรกิจยานยนต์พลังงานไฟฟ้า นำร่องศึกษาการใช้งานสำหรับธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี
โดยความร่วมมือดังกล่าว สำนักงานการค้าและการพัฒนาแห่งสหรัฐอเมริกา (USTDA) จะมอบทุนสนับสนุนแบบให้เปล่าแก่ บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี เพื่อศึกษาและพัฒนาแผนงานการใช้พลังงานไฟฟ้าของยานพาหนะสำหรับธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี รวมถึงการติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานของระบบการชาร์จยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย โดย เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ได้แต่งตั้งบริษัท Black & Veatch Management Consulting (Black & Veatch) เพื่อทำการศึกษาในครั้งนี้
“การร่วมมือกันระหว่าง USTDA กับ เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล จะช่วยกระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชน เพื่อผลักดันให้เกิดเศรษฐกิจสีเขียวขึ้นในประเทศไทย ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่ง และยังช่วยพัฒนาคุณภาพอากาศให้ดีขึ้นด้วย” นายเอโนห์ เอบาง ผู้อำนวยการ (รักษาการ) สำนักงานการค้าและการพัฒนาแห่งสหรัฐอเมริกา (USTDA) กล่าว “ด้วยการสนับสนุนของเรา จะเป็นการขยายโอกาสสำหรับบริษัทในสหรัฐอเมริกา ในการเป็นพันธมิตรกับประเทศไทย เพื่อช่วยในการแสวงหาโซลูชันให้กับยานยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูง รองรับการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศเป็นสำคัญ”
การศึกษาในครั้งนี้ จะช่วยวางแผนและวิเคราะห์รายละเอียดเชิงลึก เพื่อเร่งการนำยานยนต์ไฟฟ้ามาประยุกต์ใช้และศึกษาความเป็นไปได้ในการติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานแบบบูรณาการสำหรับพลังงานทดแทน หลายร้อยแห่งในประเทศไทยสำหรับธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ทั้งนี้การศึกษาจะครอบคลุมถึงการออกแบบในโครงการนำร่อง 3 โครงการของ เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อทดสอบประสิทธิภาพยานยนต์ไฟฟ้าของระบบรถขนส่งสินค้า รถขนส่งบุคลากร และรถโม่ขนส่งคอนกรีต
“โครงการร่วมกับ เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล นี้ เป็นการผสานนวัตกรรมของสหรัฐอเมริกากับความมุ่งมั่นของประเทศไทย ในการร่วมกันรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ” นายไมเคิล ฮีท อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าว “ในขณะเดียวกัน โครงการนี้แสดงให้เห็นว่าการร่วมกันรับมือกับความท้าทายในการแก้ไขปัญหา ยังเปิดโอกาสทางธุรกิจมากมายให้กับองค์กรไทยและสหรัฐอเมริกาด้วย”
“ประเทศไทยและสหรัฐอเมริกามีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการสร้างเศรษฐกิจสีเขียวและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่และนวัตกรรมต่างๆ" นายวิชชุ เวชชาชีวะ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าว "ความร่วมมือระหว่าง USTDA และเอสซีจี จะครอบคลุมเรื่องการพัฒนาธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าและระบบที่เกี่ยวเนื่องในประเทศไทย ซึ่งจะตอกย้ำความพยายามของเราในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและการเติบโตที่ควบคู่ไปกับสิ่งแวดล้อม ผมหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือต่อไประหว่าง USTDA กับภาคเอกชนไทย สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนของประเทศไทย รวมทั้งขยายผลไปยังภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงต่อไป"
นายอบิจิต ดัดต้า กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวเสริมว่า “เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล มุ่งมั่นดำเนินงานตามนโยบายของ เอสซีจี ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ โดยตั้งเป้าสู่องค์กรที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ผมขอขอบคุณ USTDA และ Black & Veatch ที่ให้การสนับสนุน ให้คำแนะนำ รวมทั้งมีความตั้งใจที่จะทำให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วงได้ และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเกิดความร่วมมือที่ดีเช่นนี้อีกในอนาคต”
โครงการนี้ถือเป็นการผลักดันความร่วมมือระดับนานาชาติด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Global Partnership for Climate-Smart Infrastructure) ตามความตั้งใจของ USTDA ซึ่งจะเชื่อมโยงอุตสาหกรรมของสหรัฐอเมริกากับโครงการพื้นฐานด้านพลังงานสะอาดและการขนส่งในตลาดเกิดใหม่