เมื่อวานก่อน (19 ส.ค.2564) ทางเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนที่ 3 ของอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง รายงานว่าขณะกำลังปฏิบัติภารกิจเดินลาดตระเวนคุณภาพ (smart patrol) เพื่อป้องกันภัยคุกคามในพื้นที่ ได้เข้าไปช่วยเหลือเสือไฟติดบ่วงเเร้วอย่างปลอดภัย (ชมคลิปการปลดบ่วงแร้ว)
ทางเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า อช.แก่งกรุง เผยอาการแผลที่ถูกบ่วงรัด ว่าไม่ทำให้ขาหัก ซึ่งภายหลังปลดบ่วงเสือไฟสามารถเดินเข้าป่าไปได้อย่างปลอดภัย โดยตอนแรกที่ช่วยเหลือพบมีอาการอ่อนเพลีย บาดเจ็บที่ขาเล็กน้อย โชคดีว่าเจ้าหน้าที่มาช่วยไว้ได้เร็ว คาดว่าติดมาประมาณ 1 วัน
ทั้งนี้ เสือไฟ (Catopuma temminckii) คือเเมวป่าขนาดกลาง มีขนาดตัวเล็กกว่าเสือลายเมฆ เเต่ใหญ่กว่าเเมวลายหินอ่อน สีขนมีความหลากหลาย ตั้งเเต่สีน้ำตาลแดงจนไปถึงสีส้ม ลักษณะเด่นคือ มีเเถบขนสีขาวบนใบหน้า
เสือไฟ สามารถปรับตัวให้อยู่ในป่าได้ทุกสภาพ เช่นป่า ดิบเเล้ว ดิบชื้น เบญจพรรณ สามารถปีนต้นไม้ได้อย่างคล่องแคล่ว เหยื่อของเสือไฟส่วนใหญ่เป็น หนู กระต่าย ลูกเก้งเเละนกเล็กๆ บางครั้งอาจล่าเหยื่อขนาดใหญ่กว่าตัวได้
ปัจจุบัน เสือไฟ เป็นสัตว์ป่าหายากและใกล้สูญพันธุ์ โดยมีสถานะการอนุรักษ์ ใกล้ถูกคุกคาม NT (Near Threatend)เสือไฟ จึงประสบปัญหาถูกคุกคามจากหลายด้านภัยที่ร้ายเเรงที่สุดคือ การสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัยเเละการล่าเพื่อเอาหนังเเละกระดูก “เมื่อพวกเขาเป็นสัตว์นักล่า ถ้าได้รับบาดเจ็บก็ไม่สามารถที่จะล่าได้ เมื่อล่าไม่ได้ก็เท่ากับตาย"
สำหรับบทลงโทษผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ฐานกระทำต่อสัตว์สงวน โทษจำคุก 3-15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 300,000-1,500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และฐานครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่า โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข้อมูลอ้างอิง
อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง-Kaeng Krung National Park
ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช