ซูเปอร์มาร์เก็ตในเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ชื่อว่า SirPlus กำลังรับมือกับความท้าทายในการลดขยะอาหารโดยการขายผลิตภัณฑ์ที่ใกล้หมดอายุ บรรจุภัณฑ์มีตำหนิหรือไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งร้านค้า ซูเปอร์มาร์เก็ตแทบทั้งหมดจะปฏิเสธ หรือคัดออก
ภายในซูเปอร์มาร์เก็ต SirPlus มีชั้นวางผลิตภัณฑ์อาหารไม่ได้แตกต่างจากที่อื่น แต่ที่แตกต่างผลิตภัณฑ์อาหารทั้งหมดภายในร้าน ล้วนเป็นผลิตภัณฑ์ใกล้หมดอายุ หรือไม่ได้มาตรฐานการผลิต ถ้าดูจากภายนอกย่อมจะมองเห็นว่าบรรจุภัณฑ์มีตำหนิ รูปร่างแปลกไปสักหน่อย ไม่ก็ใกล้หมดอายุ หรือหมดอายุแล้ว แต่คุณภาพของอาหารภายในบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวยังสามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย พร้อมตั้งราคาขายไว้ต่ำกว่าราคาปกติของซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปถึง 80%
หลายคนสงสัยว่าเมื่ออาหารใกล้หมดอายุแล้ว หรือหมดไปแล้วจะไม่เป็นปัญหาหรือ? คำตอบ..ก่อนจะไปถึงชั้นวางของจำหน่าย SirPlus นั้นจะมีการตรวจสอบรายการอาหารอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างปลอดภัยที่จะรับประทาน และหากมีข้อสงสัยจะเรียกห้องแล็บเข้ามาตรวจสอบ อีกอย่างในเยอรมนีมีกฎว่าหากสินค้าที่หมดอายุแล้วแต่ยังสามารถบริโภคได้ ก็ยังสามารถนำขายได้อย่างถูกกฎหมายโดยทางผู้จำหน่ายต้องแจ้งลูกค้าก่อนว่าสินค้าหมดอายุแล้ว
Timo Schmitt ผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันคุณภาพของ SirPlus และทีมงานของเขามีการตรวจสอบทุกวัน อย่างสินค้าที่พ้นวันหมดอายุจะได้รับการตรวจสอบอย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย “เราตรวจสอบกลิ่นรสชาติความสม่ำเสมอและบรรจุภัณฑ์ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามไปที่ห้องปฏิบัติการ”
ตราบใดที่เห็นว่าอาหารปลอดภัยที่จะบริโภค และลูกค้าเข้าใจถึงความเสี่ยงที่มีอยู่ในสิ่งที่พวกเขากำลังจะซื้อ ไม่ว่าบิสกิตที่หมดอายุ โยเกิร์ต หรือเนื้อสัตว์ที่ถูกทิ้งก็ถูกกฎหมายที่จะขายภายใต้กฎหมายของเยอรมนี
การทำธุรกิจของ SirPlus ถือว่าเป็นแนวทางลดขยะอาหารที่มักถูกทิ้งโดยสูญเปล่า ซึ่งตามข้อมูลที่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ ระบุว่าแต่ละปีทั่วโลกมีอาหาร 1.3 พันล้านตันถูกทิ้ง คิดเป็นปริมาณมากถึงหนึ่งในสามของอาหารทั้งหมดที่ผลิตได้ทั่วโลก ในขณะเดียวกันกับหลุมฝังกลบขยะอาหารกำลังเต็มอย่างรวดเร็ว สำหรับปริมาณของขยะอาหารทั่วโลกส่วนใหญ่มาจากยุโรปและอเมริกาเหนือ โดยเฉลี่ยชาวยุโรปทิ้งอาหารคิดเป็นปริมาณ 210 ถึง 254 ปอนด์ต่อคนต่อปี (95 ถึง 115 กิโลกรัม)
เมื่อปี 2019 SirPlus สามารถประหยัดอาหารได้ 2,000 ตัน (คิดเป็นมูลค่าถึง 4.4 ล้านปอนด์) ส่วนในปี 2020 มีแผนธุรกิจที่ต้องการขยายไปยังเมืองอื่นๆ และเปิดตัวสายผลิตภัณฑ์ของตัวเองด้วยฉลาก SirPlus ที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะจากอาหารที่ได้รับการช่วยเหลือ และสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์
“เมื่อซื้อหรือซื้อขายส่วนเกินผ่านตลาดของเรา เราช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการกำจัดลงอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างแหล่งรายได้ใหม่"
เมื่อ 4 ปีฝรั่งเศสผ่านกฎหมายซูเปอร์มาร์เก็ตจะต้องไม่ทิ้งอาหารก่อนถึงวันหมดอายุ ซึ่งก็ต้องมีการบริจาคให้กับธนาคารอาหารเพื่อนำไปทำปุ๋ยหมัก หรือรีไซเคิลเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์เลี้ยง หรือเชื้อเพลิงชีวภาพ แต่ทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนต้องเสียใช้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงกว่าการขายเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ SirPlus ยังมีบริการสมัครสมาชิกที่เรียกว่า“ Retterbox” (Rescue Box) ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ควบคุมคุณภาพแบบสุ่มซึ่งได้รับการบันทึกจากถังขยะและจัดส่งไปยังบ้านของคุณเป็นประจำทุกเดือนพร้อมจัดส่งฟรีทั่วประเทศเยอรมนี
การดำเนินการของ SirPlus ยังช่วยเติมช่องว่างใก้กับงานการกุศลด้วย แต่ละปีธนาคารอาหารและองค์การที่ทำงานแจกอาหารฟรีไม่สามารถแบกรับอาหารเหลือจากบริษัทต่างๆ ได้ทันเพราะมันมีมากเหลือเกิน SirPlus จึงเข้ามาเสริมในจุดนี้เพราะมีศักยภาพในการจัดเก็บมากและยังจำหน่ายออกไปได้ด้วย
ข้อมูลอ้างอิง https://www.goodnewsnetwork.org/german-supermarket-resells-ugly-food-from-other-markets/
CREDIT CLIP The Hack
