ม.มหิดล ได้ที่ 1 ของไทย และหนึ่งเดียวในไทยที่มีคะแนนรวมติดอันดับ Top 500 ของโลก จากการจัดอันดับของ The Applied Higher Education Rankometer World University Rankings 2021 ประเทศสิงคโปร์
เมื่อเร็วๆ นี้ The Applied Higher Education Rankometer World University Rankings 2021 ประเทศสิงคโปร์ ได้ประกาศให้ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้อันดับที่ 1 ของประเทศไทย และเป็นมหาวิทยาลัยไทยเพียงแห่งเดียวที่มีคะแนนรวมติดอันดับ Top 500 มหาวิทยาลัยโลก โดยเป็นการประกาศอย่างเป็นทางการในงาน The Applied Higher Education Rankometer World University Rankings Symplified ที่จัดขึ้นทางออนไลน์
การจัดอันดับครั้งนี้พิจารณาจากผลคะแนนรวมที่ผ่านมาของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกใน 5 กระดานหลัก คือ QS-WUR (สหราชอาณาจักร), ARWU (สาธารณรัฐประชาชนจีน) THE-WUR (สหราชอาณาจักร), CWTS Leiden (ประเทศเนเธอร์แลนด์) และ Webometrics (ประเทศสเปน) ที่แสดงถึงความมีชื่อเสียง ศักยภาพ และความเป็นเลิศของมหาวิทยาลัยในภาพรวม ซึ่งส่งผลให้มหาวิทยาลัยมหิดลได้อันดับที่ 1 ของประเทศไทย อันดับที่ 90 ของเอเชีย และอันดับที่ 489 ของโลก (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://appliedhe.com/rankometer/)
การได้รับการจัดอันดับโดยใช้คะแนนรวมจากผลของการจัดอันดับใน 5 กระดานหลักข้างต้น สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพในองค์รวมของมหาวิทยาลัยมหิดล เนื่องจากตัวชี้วัดย่อยในกระดานหลักๆ ดังกล่าว มีการวัดทั้งคุณภาพการเรียนการสอน การวิจัย การต่อยอดเชิงนวัตกรรม และการส่งเสริมความเป็นนานาชาติ รวมทั้งภาพลักษณ์ในระดับโลก
อย่างไรก็ตาม วิกฤติ COVID-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมถึงการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาสู่มหาวิทยาลัยคุณภาพระดับโลก ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ทุกมหาวิทยาลัยได้รับผลกระทบจากวิกฤติ COVID-19 เพราะจำนวนนักศึกษาต่างชาติน้อยลงเนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทาง ซึ่งยังคงต้องรอดูสถานการณ์กันต่อไปในระยะยาว เนื่องจากการพิจารณามหาวิทยาลัยอันดับโลกส่วนใหญ่เป็นการเก็บคะแนนในระยะ 5 ปี
แต่ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน คือ แนวโน้มงานวิจัยและนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ มีการเน้นเป้าหมายที่ชัดเจน และเป็นไปในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเร่งด่วนที่เกิดขึ้น ซึ่ง "มหาวิทยาลัยที่ยิ่งใหญ่ คือ มหาวิทยาลัยที่สามารถต่อยอดองค์ความรู้จากห้องทดลอง และนำไปทำประโยชน์ให้แก่สังคมและมวลมนุษยชาติในวงกว้าง