เมื่อวานนี้ (16 พ.ย.63) เพจเฟซบุ๊ค Chinapoj Chinapan ได้โพสต์ภาพถ่ายสุนัขเลี้ยง บริเวณริมอ่างเก็บน้ำสายศร อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมชี้เป้าให้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จับจริงปรับจริงกับกลุ่มที่ฝ่าฝืนระเบียบ
จากโพสต์ระบุว่า เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 15 พย.2563 ริมอ่างเก็บน้ำสายศร อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ การนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในอุทยานแล้วปล่อยให้เดินฉี่เดินอึไปทั่วอย่างนี้ นอกจากผิดกฏของอุทยานแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าด้วยนะครับ ดูจากกล้องวงจรปิดตรงที่จอดรถน่าจะหาตัวผู้กระทำผิดได้ไม่ยากครับ
ก่อนหน้านี้ (เมื่อ 7 ก.ค.2563) ก็เคยเกิดเหตุในทำนองนี้ ตอนนั้นอุทยานแห่งชาติ กลับมาเปิดใหม่ได้เพียง 5 วัน เนื่องจากปิดไปเพราะการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั้งที่อุทยานฯ เขาใหญ่ ติดป้ายข้อห้ามไว้ชัดเจน ซึ่งส่วนมากประชาชนทราบดีว่า ห้ามนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเขาใหญ่ แต่ก็ยังมีคนแอบเอาขึ้นกัน อย่างรายนั้นเอาลงมาเดินจูงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จุดยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวมักจะนำ่สัตว์เลี้ยงไปถ่ายรูปและเดินเล่น อยู่แถวอ่างเก็บน้ำสายศร ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ต้นมะม่วง เพราะบริเวณนี้มีชายป่า และพื้นที่ให้สุนัขเดินเล่นได้ ซึ่งนอกจากจะมีสุนัขแล้ว ในช่วงวันหยุดยาว มักพบพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่ฝ่าฝืนแนวทางการปฎิบัติในการเที่ยวอุทยานฯ เช่น การลงไปถ่ายรูปในโป่ง แถวพื้นที่โป่งทุ่งกวาง และโป่งชมรมเพื่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ เพราะโป่ง เป็นพื้นที่มีสัตว์ป่า เช่น ช้าง เก้ง และสัตว์อื่นๆ จะลงมากินเกลือแร่ในโป่ง หากมีคนเข้าไปจะทำให้มีกลิ่นคน แปลกปลอมเข้าไปจนสัตว์ป่าไม่กล้าเข้ามาใช้พื้นที่
จากเหตุนำสัตว์เลี้ยงเข้าอุทยานฯ ว่าที่ พ.ต.นรินทร์ ปิ่นสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เตือนว่ามีความผิดข้อหาฝ่าฝืนนำสัตว์เข้าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ถือว่าจงใจแอบลักลอบพาสัตว์เลี้ยงเข้าพื้นที่ ทั้งที่มีการเตือนอยู่แล้ว ทั้งนี้หากนักท่องเที่ยวที่รู้ตัวเองว่าอยู่ในภาพที่ปรากฎในสื่อสังคมออนไลน์ ขอให้มารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนด้วย สำหรับโทษของการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ตามมาตรา 21 มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 47 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
การละเมิดของนักท่องเที่ยว แม้บางคนจะอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่สัตวแพทย์ ระบุว่าการนำสัตว์เลี้ยงขึ้นไปอุทยาน เช่น หากไปถ่ายมูลไว้ และมีสัตว์ป่ามากิน อาจเสี่ยงจะติดโรคจากสัตว์เลี้ยง และทำให้สัตว์ป่ามีสุขภาพอ่อนแอ โดยเฉพาะสุนัขและแมว มักเจอบ่อยครั้ง ถือเป็นเรื่องอันตรายมากต่อการนำโรคติดต่อจากสัตว์เลี้ยงไปสู่สัตว์ป่าในกลุ่มสายพันธุ์ใกล้เคียงกัน
ทั้งนี้ ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีสัตว์ป่าหลายชนิดที่ใกล้เคียงกับหมาแมวเลี้ยง เช่น หมาจิ้งจอก หมาใน กลุ่มแมวดาว เสือโคร่ง เสือลายเมฆ จึงสุ่มเสี่ยงมาก เพราะในตัวสุนัข และแมวจะมีโรคพยาธิในทางเดินอาหาร และปรสิตนอก เช่น เห็บ หมัด และพยาธิในเม็ดเลือดที่นำโดยตัวเห็บ
ปัจจุบันกรมอุทยานฯ แก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการต้องมีการตั้งกรงรับฝากหน้าด่าน เพราะในแต่ละเดือนมีการพบนักท่องเที่ยวลักลอบนำสัตว์ไปด้วยไม่ต่ำกว่า 5-6 ครั้ง ส่วนใหญ่บอกว่าจากการรุ้เท่าไม่ถึงการณ์ และบางคนรู้แต่ยังฝ่าฝืน และสำนักอุทยานแห่งชาติมีมาตรการในการตรวจยานพาหนะ เช่น เปิดกระจกทุกบาน เจ้าหน้าที่ใช้การดมกลิ่นของสุนัข สังเกตขนสัตว์ตามเบาะรถ หรือถามตรงๆ ว่ามีการนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาด้วยหรือไม่
ทั้งนี้ส่วนอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เผยแพร่ข้อห้าม ดังนี้
•ห้ามให้อาหารสัตว์
•ห้ามนำภาชนะที่ทำด้วยโฟมเข้าในเขตอุทยาน
•ห้ามเก็บพันธุ์ไม้/ดอกไม้
•ห้ามขีดเขียนในอุทยานแห่งชาติ
•ห้ามล่าสัตว์ป่า
•ห้ามก่อกองไฟ
•ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าภายในอุทยานแห่งชาติ
•ห้ามส่งเสียงดัง
•ห้ามนำสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ต่างถิ่นเข้า
•ห้ามพกพาอาวุธเข้าอุทยานแห่งชาติ
•ห้ามเดินออกนอกเส้นทาง
•ห้ามทิ้งขยะ
•ไม่นำสารเคมีอันตรายเข้าป่า
•ไม่ขับรถเร็วเกินที่กำหนด