ทรัมป์ ทิ้งทวน กลับลำแนวทางปกป้องสิ่งแวดล้อม เปิดป่าสงวนแห่งชาติทอนกาส

เมื่อฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศ (28 ตุลาคม 2020) ว่าจะดึงป่าออกจากการได้รับการคุ้มครองโดยพระราชบัญญัติกฎไร้ถนนปี 2001 ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มขัดขวางการสร้างถนนใหม่ เพื่อหยุดการตัดไม้ในพื้นที่ที่ไม่มีถนนในป่าสงวนแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา

การตัดสินใจดังกล่าว ถือว่ากลับลำจากแนวทางการปกป้องป่าฝนเขตหนาวแห่งนี้ และในปัจจุบันยังคงสภาพสมบูรณ์ มีพื้นที่ป่าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จึงอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนที่ต้องพึ่งพาป่าแห่งนี้

การเปิดป่าสงวนแห่งชาติ Tongass ในอลาสกากว่าเก้าล้านเอเคอร์ให้กับคนตัดไม้นั้นจะทำให้เกิดการสร้างถนนผ่านป่าฝนซึ่งมีโอกาสสูงที่จะโค่นต้นซีดาร์สีแดงและสีเหลือง ต้นไม้โบราณอายุนับพันปี รวมถึงต้นซิตกา (Sitka Spruce) และต้นเฮมล็อกตะวันตก (Western Hemlock) รวมถึงยังเป็นที่อยู่อาศัยที่สำคัญของปลาแซลมอนแปซิฟิกและหมีกริซลี่

นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในป่าฝนเขตหนาวที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาเกือบสองทศวรรษ ในฐานะอ่างคาร์บอนขนาดใหญ่ของประเทศสหรัฐฯ เพราะมันดูดซับคาร์บอนอย่างน้อย 8 เปอร์เซ็นต์ที่เก็บไว้ในป่าตอนล่างของ 48 รัฐ

พระราชบัญญัติกฎไร้ถนนซึ่งส่งผ่านมาตั้งแต่ปี 2001 ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางในหมู่นักอนุรักษ์และนักวิทยาศาสตร์ และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้ช่วยปกป้องผืนป่ากว่า 16.7 ล้านเอเคอร์ (ขนาดประมาณเวสต์เวอร์จิเนีย)

ดอมินิก เดลลาซาลา หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของโครงการมรดกป่าของ Earth Island Institute กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ The Washington Post ว่าในขณะที่เราถือว่าป่าฝนเขตร้อนเป็นปอดของโลก ป่าทอนแกสก็ถือเป็นปอดของอเมริกาเหนือ มันคือพื้นที่แห่งสุดท้ายของอเมริกาที่ถูกปกป้องไว้เพื่อรักษาสภาพภูมิอากาศโลก

ข้อมูลอ้างอิง
https://www.washingtonpost.com/climate-environment/2020/10/28/trump-tongass-national-forest-alaska/
https://www.seattletimes.com/nation-world/nation/trump-to-strip-protections-from-tongass-national-forest-among-worlds-biggest-intact-temperate-rainforests/