“ขยะหน้ากากอนามัย แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง” (Single use plastic) ในแต่ละวันทั่วโลกมีปริมาณการใช้จำนวนหลายล้านชิ้น และจนถึงตอนนี้ยังมีอัตราการใช้เพิ่มมากขึ้นไม่หยุด ปริมาณมากตามการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ยิ่งถ้านับจากตอนเริ่มต้นแพร่ระบาดในประเทศจีน ยิ่งมีปริมาณมหาศาลจนหลายหน่วยงานหวั่นว่าจะก่อปัญหาซ้ำเติม หากผู้ใช้ทิ้งปะปนกับขยะทั่วไปอย่างไม่ถูกต้อง เนื่องจากเป็นขยะติดเชื้อ (Infectious waste)
ขยะติดเชื้อ หมายถึงขยะที่มีเชื้อโรคปะปนอยู่ด้วย เช่นเดียวกับขยะจากโรงพยาบาล คลินิก สถานอนามัย เช่น เข็มฉีดยา สำลี ผ้าก๊อซ หน้ากากอนามัยที่บุคลากรทางการแพทย์ / คนไข้สวม ดังนั้น หลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มหาวิทยาลัยต่างๆ ที่พยายามรณรงค์ให้คนตระหนักถึงการทิ้งอย่างถูกต้องด้วย ก็เพื่อความปลอดภัยของทั้งคนและสิ่งแวดล้อม
อย่างกทม. จะมีรถสำหรับเก็บขยะติดเชื้อโดยเฉพาะมารับขยะตามสถานพยาบาล เป็นรถที่มีการควบคุมอุณหภูมิและปิดอย่างมิดชิดเพื่อให้มั่นใจว่าเชื้อโรคไม่แพร่กระจายแน่นอน ส่วนเจ้าหน้าที่ก็จะใส่ชุดป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) อย่างดีเพื่อป้องกันเชื้อโรค มีทั้งแว่นตา มาสก์ ถุงมือยาง รองเท้าบูตครบ และจะเก็บขยะไปเข้าเตาเผาขยะติดเชื้อ
การกำจัดขยะติดเชื้อ ทั้งหน้ากากอนามัย เข็มฉีดยา และอุปกรณ์การแพทย์ โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 โรงงานกำจัดมูลฝอย อ่อนนุช และหนองแขมเป็นที่รับขยะติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่มีมาตรการเข้มงวดมากขึ้น โดยให้เจ้าหน้าที่สวมชุดป้องกันทุกส่วน ฉีดยาฆ่าเชื้อ ทุกขั้นตอน แล้วนำไปเผาด้วยความร้อน 760 - 900 องศา จากนั้นเข้าห้องเผาที่ 2 กำจัดควันและสารเคมี ใช้ความร้อน 1,000 องศา เพื่อยืนยันว่าไม่มีหลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อม
กรณีที่เราไม่ป่วย แต่ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตัวเองเฉยๆ และไม่ได้ทำงานในโรงพยาบาล คลินิก สถานพยาบาลต่างๆ หน้ากากที่เราใส่จะไม่นับเป็นขยะติดเชื้อแต่เป็นขยะทั่วไป เราต้องรวมหน้ากากอนามัยใส่ถุงแยกจากขยะอื่นๆ ถ้าเป็นถุงใสได้ยิ่งดีเพราะจะมองเห็นว่ามีอะไรอยู่ข้างใน หรือเขียนไว้ที่ถุงว่าเป็นหน้ากากอนามัยก็ได้ มัดถุงให้แน่นแล้วทิ้งในถังขยะทั่วไป หรือถังขยะที่มีฝาปิด ทำให้เจ้าหน้าที่ที่มาเก็บขยะก็จะได้แยกไว้ในถังขยะท้ายรถและเอาไปกำจัดอย่างถูกวิธีต่อไป
เพราะการทิ้งหน้ากากอนามัยให้ถูกวิธี ก็ช่วยให้พี่ๆ เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายและปลอดภัยมากขึ้น และยังเป็นวิธีง่ายๆ ที่ทุกคนทำได้เพื่อลดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ด้วย
นาทีนี้หลายๆ คนคงต้องใส่หน้ากากอนามัยกันแทบตลอดเวลาเพื่อป้องกันตัวเองจาก COVID-19 แต่สงสัยไหมว่า ใช้เสร็จแล้วจะทิ้งยังไงดีถึงจะปลอดภัย 100% รวมถึงมั่นใจได้ว่าไม่สะสมเชื้อโรคและไม่หลุดรอดไปเป็นขยะในทะเลด้วย
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า หน้ากากอนามัยไม่ใช่ขยะอันตรายนะ! อย่าไปทิ้งถังนั้นละ เพราะขยะอันตราย (Solid hazardous waste) คือขยะที่มีสารเคมี สารไวไฟ สารพิษอยู่ เช่น ถ่านไฟฉาย กระป๋องสเปรย์ หลอดฟลูออเรสเซนต์ ขวดน้ำยาทำความสะอาด
ส่วนขยะติดเชื้อ (Infectious waste) คือขยะที่มีเชื้อโรคปะปนอยู่ ส่วนมากเป็นขยะจากโรงพยาบาล คลินิก สถานอนามัย เช่น เข็มฉีดยา สำลี ผ้าก๊อซ หน้ากากอนามัยที่บุคลากรทางการแพทย์ / คนไข้สวม
เพราะฉะนั้นถ้าเป็นหน้ากากอนามัยที่ใช้ในโรงพยาบาล คลินิก สถานพยาบาลต่างๆ หรือเราป่วยแล้วใส่หน้ากากอนามัย ก็จะจัดเป็นขยะติดเชื้อ พอถอดแล้วให้ทิ้งลงถังขยะติดเชื้อเลย (วิธีถอดคือเอามือจับที่ห่วงคล้องหู ไม่จับตัวหน้ากาก หรือถ้าจำเป็นต้องจับจริงๆ ให้จับแค่ขอบหน้ากาก) หรือบ้านใครไม่มีถังขยะติดเชื้อก็รวมไปส่งได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านหรือโรงพยาบาล
ยิ่งในช่วงวิกฤติไวรัส COVID-19 มากขึ้นเท่าไหร่ วิธีการป้องกันตัวเองเบื้องต้นที่หน่วยงานกระทรวงสาธารณสุขแนะนำ คือ การสวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องออกจากบ้าน ไปในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน และไม่ควรใช้หน้ากากอนามัยซ้ำ หรือควรใช้เพียงวันต่อวันเท่านั้น ทำให้แต่ละวันเราผลิตขยะติดเชื้อเหล่านั้นกันอย่างต่ำคนละ 1 ชิ้นต่อวัน
ช่วงที่ผ่านมา OceansAsia ได้รายผลสำรวจปัญหาขยะทะเลและไมโครพลาสติก บริเวณหมู่เกาะโซโคฮ่องกง เนื่องจากพบว่ามีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และน่ากังวลว่าจะกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศทางทะเล
ในเรื่องนี้ วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ออกมาย้ำให้ประชาชนทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว ในที่ที่จัดเตรียมไว้ให้ เพื่อป้องกันปัญหาขยะตกค้างในสิ่งแวดล้อม เนื่องจากหน้ากากอนามัยที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ทั้งรูปแบบทั่วไป และแบบ N95 มีองค์ประกอบที่ทำจากวัสดุที่ย่อยสลายบาก เช่น ผ้า คาร์บอน รวมถึง พอลิโพรไพลีน โดยจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี
ทั้งนี้ในไทยเอง ก็มีกฎหมายในการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อที่ประกาศใช้อยู่แล้ว คือ กฎกระทรวง ว่าด้วยการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ พ.ศ.2545 มีการนิยามความหมาย การอธิบายวิธีการเก็บมูลฝอยติดเชื้อ มีข้อกำหนดการขนมูลฝอยติดเชื้อ รวมถึงมีการระบุถึงการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อว่ามีอยู่ 4 วิธี คือ เผาในเตาเผาทำลายเชื้อด้วยไอน้ำ ทำลายเชื้อด้วยความร้อน และวิธีอื่นตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
แน่นอนว่าไทยเรามีตัวบทกฎหมายที่ครอบคลุมตั้งแต่นิยามไปจนถึงการกำจัดอย่างถูกต้อง แต่สิ่งสำคัญคือ ประชาชนทั่วไปจะต้องเรียนรู้วิธีการทิ้งขยะติดเชื้อเหล่านี้ด้วย เพราะถือว่าเป็นต้นทางของการก่อเกิดขยะ และเป็นส่วนหนึ่งในการหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายเชื้อโรค
ด้าน ประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ได้ทำข้อเสนอแนะไปยังกรุงเทพมหานครและกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับการควบคุมการทิ้งและกำจัดขยะติดเชื้ออย่างหน้ากากอนามัย ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อป้องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เนื่องจากเทียบจากอัตรากำลังการผลิตหน้ากากอนามัยของประเทศต่อวันอยู่ที่ 1.2 - 1.3 ล้านชิ้น และจากการนำเข้าจากต่างประเทศ จะทำให้เกิดขยะติดเชื้อจากหน้ากากอนามัยใช้แล้วประมาณ 1-2 ล้านชิ้นต่อวัน
และเมื่อเร็วๆ นี้ กทม.ส่งถังขยะแดงเพื่อรองรับขยะติดเชื้อ โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยที่มีเพิ่มขึ้นถึงวันละ 1-2 ล้านชิ้น โดยกระจายในรพ.สังกัดกทม.สำนักงานเขต ศาลาว่ากทม.และสวนสาธารณะเพื่อรวมไปกำจัดถูกวิธี
โดยเพจเฟซบุ๊ก ผู้ว่าฯอัศวิน ของพ.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร ได้ระบุว่าหน้ากากอนามัยใช้แล้ว ทิ้งแยกใส่ถุงพลาสติก มัดปากถุงให้มิดชิด ก่อนทิ้งลงถัง “หน้ากากอนามัย รวมถึงกระดาษทิชชูที่ใช้แล้ว อย่านำไปทิ้งรวมกับขยะประเภทอื่นนะ โปรดแยกใส่ถุงต่างหาก มัดปากถุงให้แน่น และทำสัญลักษณ์หรือเขียนบอกสักนิดก็ดี เพื่อที่เจ้าหน้าที่เก็บขยะจะได้คัดแยกเป็นขยะติดเชื้อ และแยกไปเผาทำลายที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยติดเชื้อหนองแขม และที่อ่อนนุช เพื่อร่วมกันป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19”
หรืออย่างที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพจเฟซบุ๊ก chula zero waste โพสต์ว่าตอนนี้ได้ตั้งถังขยะรับทิ้งหน้ากากอนามัยไว้แล้วโดยเฉพาะจนถึงวันที่สถานการณ์ดีขึ้นเพื่อให้นิสิต อาจารย์ และบุคลากรที่อยู่ที่บ้านตอนนี้ สามารถรวบรวมมาฝากทิ้งได้ตลอดเวลา หน้ากากทั้งหมดจะถูกส่งไปกำจัดอย่างถูกต้องและปลอดภัย ตำแหน่งที่ตั้งถัง ได้แก่ อาคารจุฬาพัฒน์ 14 ศาลาพระเกี้ยว หอสมุดกลาง และอาคารจามจุรี 9
"เมื่อตอนปีใหม่งดแจกถุงกันใหญ่ แต่ทำไมวันนี้ถึงทิ้งหน้ากากเป็นขยะกันหลายล้านชิ้น"
ก็เป็นอีกคำถามให้ทุกคนได้ตระหนักทิ้งขยะหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้งอย่างถูกต้องและปลอดภัยทั้งต่อคนและสิ่งแวดล้อม