อาสาสมัครทีเอ็มบี ร่วมกับชุมชนและสมาชิกสภาเทศบาลเมืองปรกฟ้า เปิด “ลานค้าชุมชนบ้านปรกฟ้า บนพื้นที่อำเภอเกาะจันทร์ จ.ชลบุรี” ให้เป็นพื้นที่ลานค้าตามวิถีชุมชนและจุดพักชิม ช็อป แชะแห่งใหม่ ย่านอ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลทร จ.ชลบุรี เพื่อส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ให้ชาวชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนที่ดิน ซึ่งเป็น 1 ใน 37 โครงการเปลี่ยนชุมชนเพื่อความยั่งยืนปี 2560 โดยอาสาสมัครทีเอ็มบี ทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด TMB Make THE Difference
โดยลานค้าชุมชนบ้านปรกฟ้าเปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อขายอาหารขนมพื้นบ้าน และผลิตภัณฑ์แปรรูปของกลุ่มแม่บ้านต่างๆ เช่น น้ำจิ้มซอสสับปะรด น้ำพริกสับปะรด ปลาร้า ปลาส้มฯลฯ เพียง 4 กม.จากทางหัวเขื่อนของอ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลทรไปยังบ้านปรกฟ้า
ชมภูนุช ปฐมพร หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจสาขา ทีเอ็มบี เผยว่า โครงการลานค้าชุมชนบ้าน ปรกฟ้า เป็นหนึ่งในกิจกรรมเปลี่ยนชุมชนเพื่อความยั่งยืน ที่ทีเอ็มบีจัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อจุดประกายคนในชุมชนให้ร่วมกัน “เปลี่ยน”เพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น สำหรับโครงการนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมรายได้ การดำรงชีวิตแบบพอเพียงแก่ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากการถูกเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างอ่างเก็บน้ำฯ ให้ชุมชนสามารถช่วยเหลือตนเองได้ โดยมีลานค้าชุมชนเป็นหลักแหล่ง ทั้งนี้เพราะเล็งเห็นว่าพื้นที่อ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลทร มีจุดเด่นในเรื่องของการเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์มากพอสมควร
เกียรติณรงค์ชัย ฉิมพลีกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ชุมชนบ้านปรกฟ้า เล่าว่า เดิมเป็นชุมชนเกษตรกรรม เมื่อถูกเวนคืนที่ดิน ก็มีการพัฒนาอาชีพให้กลุ่มแม่บ้าน สร้างรายได้ พึ่งพาตนเองได้ นอกจากงานรับจ้างทั่วไป การพัฒนาเป็นลานค้าและจุดแวะ จะเป็นการเชื่อมโยงชุมชนและนักท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน นอกจากการเที่ยวชมธรรมชาติที่อ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลทรแล้ว ยังสามารถเดินทางไปยังวัด พระพุทธบาทเขานางนม วัดพุทธศาสตร์ สุเหร่าฮารุนมุตตอฟา ในระยะทางเพียง 3-4 กิโลเมตร
โดยบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่นำผลผลิตมาขาย ณ ลานค้าชุมชนปรกฟ้า ต่างร่วมเผยทรรศนะ อาทิ สุรีย์พร ทรายทอก วัย 50 ปี หนึ่งในกลุ่มแปรรูปสับปะรดบ้านเนินตะแบก ต.เกาะจันทร์ เผยว่า “ที่นี่ปลูกสับปะรดกันเยอะ มีทีมพัฒนาฯ มาช่วยสอนให้คิดผลิตภัณฑ์แปรรูป เราคิดซอสสับปะรดและน้ำพริกสับปะรด ที่ขึ้นชื่อเป็นสูตรของต.เกาะจันทร์ ได้ทานต้องติดใจ นำสับปะรดมาผสมกับน้ำส้ม พริก น้ำตาล เกลือ ทานคู่กับลูกชิ้น ไก่ย่าง หรือเป็นซอสราดเป็นเมนูปลาสามรส ถ้าเรามีลานขายของเอง แน่นอนว่าต้องมีรายได้เพิ่มขึ้น”
ส่วน ไพรินทร์ อรุณสวัสดิ์ ที่นำผลิตภัณฑ์ขนุนกรอบแปรรูป 3 รสชาติ หวาน เค็มและบาร์บีคิว เล่าว่า “แต่ก่อนรับจ้างบ้าง ทำสวนบ้าง แบ่งเบาภาระสามี เมื่อ 2 ปีก่อน ค่อยๆ เรียนรู้ปรับตัวเอง คิดแปรรูปขนุนร่วมกับกลุ่มแม่บ้านมี 5 คน ช่วงแรกทั้งแจกทั้งแถมในงานเทศกาลต่างๆ ในที่สุดปากต่อปาก ก็รู้จักของเราว่าใหม่และอร่อย มีฝากขายตามร้านค้าบ้าง ตอนนี้มีลานค้า ที่เรานำของมาขาย น่าจะมีรายได้เสริมอย่างน้อย 1,000 -2,000 บาทต่อเดือน”
พิชญ์อานันต์ญา วัฒนะปภาวงศ์ ผู้จัดการเขตธุรกิจสาขาชลบุรี หัวหน้าอาสาสมัครทีเอ็มบี ผู้ริเริ่มจุดประกายโครงการลานค้าชุมชนบ้านปรกฟ้าเผยว่า “แนวทางการสร้างลานค้าชุมชนบ้านปรกฟ้าอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งผลิตภัณฑ์ที่ดี จุดถ่ายรูป มีกิจกรรม เพราะนักท่องเที่ยวสมัยนี้ ชอบถ่ายรูปและโพสต์ ที่นี่ทีมอาสาสมัครร่วมกันสร้างทุ่งทานตะวันผืนน้อยๆ ฟาร์มเลี้ยงแพะแกะที่ให้อาหารโดยธรรมชาติ กินหญ้า ใบกระถิน แค ฯลฯ ทำให้คนที่มาแวะรู้สึกประทับใจแม้เป็นช่วงสั้นๆ มีการบอกต่อ หรือกลับมาอีกครั้งเมื่อมีโอกาส”