คืบหน้าโครงการ ‘Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต’ โดย บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ให้การสนับสนุน ภายใต้ความร่วมมือของ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และสถาบันคีนันแห่งเอเซีย เดินหน้าจัดกิจกรรมในโครงการ “มหาวิทยาลัยเด็ก ประเทศไทย 2559” ตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้แนวคิด “สนุกวิทย์ ปลูกแนวคิดวิทยาศาสตร์สู่เยาวชน”
นับว่าเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้และความสนใจของเยาวชนระดับประถมศึกษาตอนปลายและมัธยมศึกษาตอนต้นในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ หรือ สะเต็ม (STEM) ผ่านกิจกรรมฐานวิทยาศาสตร์แสนสนุก ณ งาน มศว วิชาการ
ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
กล่าวว่า “โครงการมหาวิทยาลัยเด็ก จัดขึ้นเป็นโครงการนำร่องในประเทศไทยครั้งแรกในปี พ.ศ. 2554
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวางรากฐานที่ดีให้แก่นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลายถึงมัธยมศึกษาตอนต้นของไทยให้ได้แรงบันดาลใจและประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์ผ่านกระบวนการลงมือทำและการฝึกฝน
ผ่านการทดลองกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ โดยมีการปรับใช้หลักสูตรจากโครงการ ‘มหาวิทยาลัยเด็ก’ ของมหาวิทยาลัยบีเลเฟลด์ ประเทศเยอรมนี ให้เหมาะสมกับบริบทของสังคมไทย ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาเห็นว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องสนุกไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เกิดความรักและความสนใจที่จะศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมและประกอบอาชีพนี้ต่อไปในอนาคตเพื่อจุดประกายให้เกิดความสนใจและสามารถเรียนรู้วิทยาศาสตร์รอบๆ
ตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งภายหลังที่เชฟรอนประเทศไทยได้ให้การสนับสนุนภายใต้ โครงการ ‘Chevron
Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต’ โครงการมหาวิทยาลัยเด็กก็ได้ขยายความร่วมมือจนในปัจจุบันมีหน่วยงานเครือข่าย 20 หน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ ในการจัดกิจกรรมให้เข้าถึงนักเรียนในภูมิภาคต่างๆ
ทั่วประเทศ”
ด้าน รศ. ดร.สมชาย สันติวัฒนกุล รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยฯ ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการจัดการเรียนรู้และการพัฒนาครูทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามแนวนโยบายของรัฐบาลในเรื่องการสอนสะเต็ม โดยจัดกิจกรรมภายใต้ชื่อโครงการ‘มหาวิทยาลัยเด็ก ประเทศไทย’
สืบเนื่องจากการที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒเป็น 1 ใน 20 หน่วยงานเครือข่าย ที่ประกอบไปด้วยองค์กรภาครัฐ 2 องค์กร และสถาบันการศึกษา 18 แห่งเพื่อจุดประกายความคิดให้เด็กและเยาวชนเกิดแรงบันดาลใจและมีทัศนคติที่ดีในการทดลองวิทยาศาสตร์ที่สนุก และมีความสุขด้วยบรรยากาศเสมือนอยู่ในห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัย โดยได้เชิญ Prof. Dr. Rudolf Herbers ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยบีเลเฟลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี มาให้ความรู้เรื่องรูปแบบของการจัดการเรียนรู้แนวใหม่ที่สอดแทรกความรู้ด้านคณิตศาสตร์เทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้าไปกับการเรียนรู้ของเด็ก รวมถึงการจัดแสดงโครงงานทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ อย่างสร้างสรรค์ทำให้วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่สนุกและน่าติดตามซึ่งจะเกิดประโยชน์เป็นอย่างมากต่อผู้เข้าร่วมงาน รวมถึงครู และอาจารย์ในการไปปรับใช้เพื่อการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ให้กับเด็กไทยที่เป็นอนาคตของประเทศต่อไป”
ขณะที่ อาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวเสริมว่า “การดำเนินโครงการมหาวิทยาลัยเด็ก ประเทศไทย 2559 นั้น สอดคล้องกับเป้าหมายในการดำเนินการโครงการ ‘Chevron Enjoy Science:สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต’ที่เชฟรอนร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนส่งเสริมการศึกษาในสาขาสะเต็มให้เยาวชนเห็นว่าการศึกษาในสาขานี้เป็นเรื่องสนุก น่าสนใจเพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจและสนใจในการศึกษาต่อด้านนี้เพิ่มมากขึ้นอันจะช่วยส่งเสริมขีดความสามารถของประเทศได้อย่างยั่งยืนโดยเชฟรอนประเทศไทยได้ร่วมดำเนินงานในโครงการมหาวิทยาลัยเด็กประเทศไทยนี้ และได้ขยายความร่วมมือในการจัดกิจกรรมไปสู่จังหวัดอื่นๆ โดยประสานงานกับมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาเครือข่ายในจังหวัดพื้นที่ของ Enjoy Science ในจังหวัดต่างๆ อาทิ สมุทรปราการ สงขลา เชียงใหม่และขอนแก่น และได้สถาบันการศึกษามาเข้าร่วมโครงการฯ เพิ่มเติมอีก 10 แห่ง จากเดิมที่มีหน่วยงานเครือข่ายจัดกิจกรรมนำร่อง 10 หน่วยงานในกรุงเทพมหานคร และคาดว่าจะสามารถจัดกิจกรรมให้นักเรียนเข้าร่วมได้กว่า 10,000 คนทั่วประเทศ ภายในปี 2560 นี้”
ด้าน ปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานสถาบันคีนันแห่งเอเชีย ในฐานะผู้บริหารโครงการ Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิดเพื่ออนาคต กล่าวว่า “ปัจจุบันความต้องการบุคลากรในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งโครงการมหาวิทยาลัยเด็ก ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่จะช่วยเพิ่มบุคลากรในสาขาสะเต็มได้เป็นอย่างดีโดยแต่ละมหาวิทยาลัยและองค์กรเครือข่ายได้ดำเนินการจัดกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่เน้นกระบวนการลงมือปฎิบัติไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 24 กิจกรรม มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมทั้งจากโรงเรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและในจังหวัดสงขลาจำนวน 5,308 คน โดยคาดว่ากิจกรรมดังกล่าวจะสามารถสร้างความตระหนักไปสู่เยาวชนเหล่านั้นให้เห็นถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ จนเกิดแรงบันดาลใจในการประกอบอาชีพสาขาสะเต็มในอนาคต”
อนึ่ง กิจกรรมโครงการ “มหาวิทยาลัยเด็ก ประเทศไทย” ณ งาน มศว วิชาการ ประกอบด้วยฐานวิทยาศาสตร์แสนสนุก อาทิ ฐานไฟฟ้าชีวภาพฐานสนุกคิดกับวิทยาศาสตร์หรรษา และฐานตามรอยเท้าพ่อซึ่งมีแต่ละฐานกิจกรรมจะเปิดโอกาสให้เยาวชนได้สัมผัสกับแง่มุมและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่แตกต่างกันไป โดยมีนิสิตของ มศว.ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงและให้คำแนะนำแก่เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมซึ่งมหาวิทยาลัยและหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ จะจัดกิจกรรมตลอดทั้งปี โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารการจัดกิจกรรมได้ที่เวบไซต์ www.childrensuniversity.in.th
ทั้งนี้ โครงการมหาวิทยาลัยเด็ก ประเทศไทย 2559 เปิดตัวไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนมีการจัดกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยและองค์กรเครือข่ายแต่ละแห่งซึ่งเปิดโอกาสให้นักเรียนลงมือทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่หลากหลายและสัมผัสกับบรรยากาศเสมือนได้เรียนในรั้วมหาวิทยาลัยจริงเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพในสาขาสะเต็มในอนาคตเพื่อวางรากฐานในการผลิตบุคลากรในสาขาสะเต็มอันเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยอย่างยั่งยืนโดยจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ประเทศเยอรมนี ก่อนจัดตั้งขึ้นในประเทศไทยภายหลังที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมชมโครงการนี้ ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน