กระทรวงอุตสาหกรรมต่อยอดแนวคิดการบริหารจัดการแบบลีนเพื่อสิ่งแวดล้อม (Lean Management for Environment) เฟส 3 ในโครงการ “ดาว เคมิคอล เพื่ออุตสาหกรรมยั่งยืน” หวังขยายองค์ความรู้ให้กว้างและเร็วขึ้น ด้วยการติดอาวุธให้กับ "คน" โดยการปั้นบุคลากรให้เป็นที่ปรึกษาและพัฒนาลีนเพื่อสิ่งแวดล้อม เล็งเป้าใหญ่ช่วยพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
ปลายเดือนที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานภายต่างๆ ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม รวมทั้งหุ้นส่วนเชิงสร้างสรรค์ไทย-สหรัฐฯ พร้อมหน่วยที่เข้าร่วมโครงการดาว เคมิคอล เพื่ออุตสาหกรรมยั่งยืน 14 แห่ง แสดงจุดยืนในการผสานความร่วมมือซึ่งเป็นการต่อยอดเพื่อช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) มีศักยภาพทางการแข่งขันสูงขึ้น
ดร.สมชาย หาญหิรัฐ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า อุตสาหกรรม 4.0 นั้นเป็นการบูรณาการโลกของการผลิตเข้ากับการเชื่อมต่อทางเครือข่ายในรูปแบบ Internet of Things (IoT) ซึ่งทำให้โรงงานอัจฉริยะ ระบบโลจิสติกส์ และลูกค้าสามารถติดต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลการผลิตได้แบบเรียลไทม์ เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ โดยในประเทศไทยผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีถือเป็นกลุ่มสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของเอสเอ็มอี (GDP SMEs) ในไตรมาสแรกของปี 2559 ขยายตัวถึงร้อยละ 5.1 ซึ่งเป็นการขยายตัว 7 ไตรมาสติดต่อกัน มีมูลค่ามากถึง 1.49 ล้านบาท และมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 41.1 ในปี 2558 เป็นร้อยละ 42.3 จากความสำคัญของเอสเอ็มอีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ทุกภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชนจึงร่วมมือกันจัดตั้งโครงการเพื่อสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพเอสเอ็มอี ให้เป็นพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
ดร.สมชายกล่าวต่อว่า ทุกวันนี้โลกกำลังก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ประเทศไทยก็พยายามขับเคลื่อนนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจในหลายๆ ด้าน เน้นเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับมาตรฐานของผู้ประกอบการอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเอสเอ็มอี ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ และหมายรวมถึงสถาบันการศึกษาที่จะต้องทำงานเชื่อมโยงรับกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต
“โครงการดาว เคมิคอล เพื่ออุตสาหกรรมยั่งยืน มีแนวทางการดำเนินงานชัดเจน สอดคล้องตามนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรม โดยให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอีไทยด้วยการพัฒนาองค์กรตามหลักการลีนเพื่อสิ่งแวดล้อมและผลักดันให้เกิดระบบการขึ้นทะเบียนบุคลากรด้านลีนเพื่อสิ่งแวดล้อมขึ้นมาเป็นรูปธรรม ทำให้การบริหารจัดการภายในองค์กรและกระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มในทุกมิติ ซึ่งถือว่าเตรียมพร้อมให้เอสเอ็มอีไทยแข่งขันได้อย่างยั่งยืน และก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ในอนาคต ตามที่ก.อุตฯ วางนโยบายไว้”
แนวทางลีน เฟส 3
โครงการนี้เริ่มต้นเมื่อปี 2554 ด้วยการจัดทำคู่มือ Lean Management for Environment ที่เหมาะสมกับประเทศไทย พร้อมกับให้ความรู้แก่บุคลากรในภาคอุตสาหกรรมและสถาบันการศึกษากว่า 2,300 คน และเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของการดำเนินงาน จึงขยายมาสู่การทำเฟส 2 ด้วยการโค้ชชิ่งให้กับผู้ประกอบการ ทางโครงการได้ส่งทีมที่ปรึกษาด้านลีนเข้าไปช่วยปรับกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยซึ่งจะไปตรวจสอบว่าโรงงานควรปรับปรุงด้านใดบ้าง
แต่เพราะต้องการขยายองค์ความรู้ให้กว้างและเร็วขึ้น ทำให้ดาว เคมิคอล ก้าวมาสู่การติดอาวุธให้กับ "คน" ด้วยการปั้นบุคลากรให้สามารถเป็นที่ปรึกษาและพัฒนา Lean Management for Environment อันเป็นแนวทางหลักของการดำเนินโครงการในเฟส 3 ในปีนี้
ความชัดเจนของเฟส 3 คือ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อกำกับและดูแลโครงการ ดาว เคมิคอล เพื่ออุตสาหกรรมยั่งยืน สำหรับส่งเสริมและขยายองค์ความรู้การบริหารจัดการลีนเพื่อสิ่งแวดล้อมให้กับภาคอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รวมถึงผลักดันให้เกิดการสร้างผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านลีนเพื่อสิ่งแวดล้อมอันครอบคลุมถึงกลุ่มนักศึกษา และผู้ที่กำลังจะก้าวสู่อาชีพภาคอุตสาหกรรมให้มีความรู้ ความเข้าใจหลักการลีนเพื่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากจะให้คำปรึกษาเชิงลึกแก่โรงงานที่เข้าร่วมโครงการอย่างเห็นผลภายใน 8 เดือน ยังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยจำนวน 7 แห่งในการจัดทำหลักสูตรเพื่อสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีองค์ความรู้ด้านลีนเพื่อสิ่งแวดล้อมเข้าสู่ตลาดแรงงานอุตสาหกรรม โดยได้มีการจัดฝึกอบรมหลักสูตรเทคนิคการจัดการด้านลีนเพื่อสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีให้แก่บุคลากรทั่วประเทศไปแล้วกว่า 300 คน และหลักสูตรเตรียมความพร้อมสร้างคนรุ่นใหม่ด้านลีนเพื่อสิ่งแวดล้อมให้แก่นิสิตนักศึกษาไปแล้ว 40 คน
ทั้งนี้ เพื่อจะได้นำองค์ความรู้ไปใช้ในโรงงานและหน่วยงานต่างๆ ในการปรับปรุงกระบวนการผลิต หรือการให้บริการให้มีประสิทธิภาพสูง เป็นการลดต้นทุนด้วยการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ อันจะทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนและมีศักยภาพในการแข่งขัน
จิรศักดิ์ สิงห์มณีชัย กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “หลายปีที่ผ่านมา ดาวได้ปรับเปลี่ยนตัวเองจากผู้ขายสินค้ามาเป็นพันธมิตรผู้ร่วมคิดค้นนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า (Solution Provider) ที่ดาว เรามีนักวิจัยเกือบ 7,000 คน ในศูนย์วิจัยและพัฒนาทั่วโลก ทำการคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเราทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และตอบโจทย์ต้านทุน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม”