xs
xsm
sm
md
lg

รณรงค์ “สงกรานต์ปลอดภัย” ทำไมอุบัติเหตุไม่เป็นใจ/ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ใครได้ดูมิวสิควิดีโอ “คิดถึงบ้าน”สงกรานต์กลับบ้านปลอดภัย น่าจะซึ้งใจจนหลายคนน้ำตาซึม ทำเอาสถิติคนดูพรุ่งพรวด เฉพาะดูใน YouTube 7 วัน ก็มีกว่า 160,543 views ถือว่าเป็นความสำเร็จของการได้”สื่อ” ให้รับรู้และบอกต่อ

แต่จะเกิดผลลัพธ์ต่อกลุ่มเป้าหมายคือผู้ใช้รถใช้ถนนที่ เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุให้ปลี่ยนพฤติกรรมกลายเป็นคนมีสติก่อนสตาร์ท และมีการป้องกัน ที่ ต้นเหตุ หรือไม่เพียงไร ก็ต้องดูสรุปสถิติการเกิดอุบัติเหตุตอนหมดฤดูกาล

เพราะช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปีเป็นวันหยุดยาว ไม่น้อยกว่า 5 วัน มีผู้คนนับล้าน ที่พากันเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อไม่พบดนในครอบครัว ไปกราบไหว้พ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ หรือทำบุญให้บรรพบุรุษ ในเทศกาลไทย

ภาพของลูกหรือพ่อแม่ที่ได้กลับไป พบกันพร้อมหน้า ได้สะท้อนความซาบซึ้งที่มีความหมาย และความผูกพันผ่านมิวสิควีดีโอ ที่สสส. ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขจัดทำขึ้น เพื่อเป็นกำลังใจคนเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยและมีความสุขกับครอบครัวในช่วงนี้

การบอกเล่า ถึงการเตรียมความพร้อมทั้งสภาพรถ และตัวคนขับ ที่กำลังเดินทาง ไปกับผู้คนทีตั้งใจอยาก พบหน้าคนที่รอคอยอยู่ที่บ้าน เป็นบรรยากาศ ที่เร้าอารมณ์ ไปกับเสียงเพลง ด้วยคำร้องกินใจ และทำนองอันไพเราะ ของพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ที่ขับร้องใหม่โดย”ไข่มุก The Voice 4 “ในเวอร์ชั่น คิดถึงบ้าน สงกรานต์กลับบ้านปลอดภัย

ก่อนดนตรี นำเพลง จะเริ่มขึ้น มีเสียงอบอุ่นจากแม่ที่โทรศัพท์ ย้ำบอกลูกรักว่า “กลับมากินข้าวที่บ้านนะลูก พ่อเขาบ่นคิดถึง... ไว้เจอกันนะจ๊ะ” สอดคล้องกับเนื้อเพลงท่อนแรก…

“ จากมานานคิดถึงจังเลย
หอม เจ้าเอยละอองท้องถิ่น
อยากกลับไปแนบซบไอดิน
บ้าน รำพึงคิดถึงเสมอ…..”




เราได้เห็นภาพของคนต่างวัยหลายครอบครัวเตรียมเดินทางอย่างปลอดภัย

ลูกชายวัยรุ่น รับปากแม่จะรีบกลับไปกินข้าวที่บ้าน ก็ไม่ลืมสวมหมวกนิรภัยก่อนขี่จักรยานยนต์ออกไปจากที่พัก

หนุ่มใหญ่ที่มาสร้างครอบครัวใหม่ในกรุงเทพไม่สนใจข้อความของเพื่อนที่เร่งเร้าให้ไปร่วมวงเหล้า เพราะตั้งใจจัดเตรียมสิ่งของขึ้นรถพร้อมลูกเมีย ที่ยิ้มแย้มร่าเริง พร้อมจะเดินทางไปคืนสู่เหย้าหาญาติผู้ใหญ่

แม้แต่ แม่วัยกลางคนที่รอรถโดยสารที่สถานีขนส่ง ก็บอกความรู้สึก ด้วยน้ำตาคลอว่า...คิดถึงลูก

โดยเฉพาะคนขับรถบขสที่ต้องเป่าเครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์ พร้อมกับมีอักษรบรรยายว่า “ตรวจสอบความพร้อมคนขับ”

ผลงานครั้งนี้ สสส.ผลิต”สื่อ” เผยแพร่ผ่าน Social Media เป็นหลัก และเสริมด้วยช่องทางโทรทัศน์ที่ให้ความร่วมมือ ด้วย“สาร”ที่ใช้ ภาพบอกเล่า ความรู้สึกถึงคุณค่าความรักความผูกพัน ของคนในครอบครัว จึงปรารถนาให้ทุกคนกลับไปพบพ่อแม่และญาติมิตรที่รออยู่ ให้สมกับที่ต้อง อยู่ห่างไกลเพราะความจำเป็นทางอาชีพการงาน

ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข ก็มีแผนรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินเพราะอุบัติเหตุจากการจราจรช่วงสงกรานต์ตลอด 24 ชั่วโมงที่มีทีมแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่ พร้อมอุปกรณ์ในห้องฉุกเฉิน ที่ร่วมมือกันทั้งภาครัฐและเอกชนถึง 14,576 ทีม มีบุคลากรรวม 164,939 คน ในท้องที่ต่างๆ พร้อมเข้าช่วยเหลือภายใน 10 นาทีหลังรับแจ้งเหตุ

ส่วนด้านการป้องกัน ก็ได้ให้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและอำเภอ จัดเจ้าหน้าที่อสม. ตั้งด่านควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงและมีหน่วยออกตรวจเตือนและประชาสัมพันธ์สู่ผู้เกี่ยวข้อง และผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ให้ทำผิดกฎหมายควบคุม

กระทรวงสาธารณสุขยังได้กำหนดให้การป้องกันการบาดเจ็บจากการจราจรเป็นวาระสำคัญที่จะทำไปตลอดปี และเน้นมาตรการป้องกันทั้งการแก้ไขจุดเสี่ยงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสนับสนุนการตั้งด่านชุมชน และจุดสกัด

ข้อคิด….
บทบาทของกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.ที่กระตุ้นให้สังคมตระหนัก ในการลดปัจจัยเสี่ยงเพื่อการขับขี่ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย เพื่อให้ทุกคนจะได้ไปพบกับครอบครัวอย่างมีความสุขในเทศกาลสงกรานต์

หลายปีที่ผ่านมาการรณรงค์ด้วยคำขวัญและ คำเตือนใจ เช่นเมาไม่ขับ ง่วงไม่ขับ ตั้งสติก่อนสตาร์ท เคารพกฎจราจร ล้วนเป็นวลีที่ทุกคนคุ้นเคย

แต่ครั้งนี้จัดทำเป็นมิวสิควีดีโอเรื่อง”คิดถึงบ้าน”เป็นการสื่อสารที่เข้าถึงจิตใจผ่านตัวคนที่มีความผูกพันและนึกถึงได้เป็นรูปธรรม

แม้วิธีการต่างกันแต่ก็มีเป้าหมายเหมือนกันคือหวังให้คนเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย

ความรู้สึกซึ้งใจที่เห็นภาพประกอบไปกับเพลงอันไพเราะ จึงเป็นผลให้จำนวนคนดูเฉพาะ ใน YouTube และที่ส่งต่อกันรวมแล้วฤดูกาลนี้มีหลายแสนวิวแน่

เมื่อดูสรุปสถิติอุบัติเหตุ ช่วงสงกรานต์ปีนี้  7 วัน(11-17 เมษายน) เกิดเหตุทางถนนรวมแล้ว 3,447 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวม 442 ราย และบาดเจ็บ 3,656 ราย สาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 34.09 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 32.93 โดยยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 80.67 รถปิกอัพ ร้อยละ 8.85 แต่ก็ยังมี 4 จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตในช่วงดังกล่าว คือ ตราด ยะลา ระนอง และหนองบัวลำพู ซึ่งน่าชื่นชม

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ถึงกับบอกว่า ปีนี้อุบัติเหตุรุนแรงมาก มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุถึง 64 % และสาเหตุ ที่เกิดจาก “เมาแล้วขับ” เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ร้อยละ 13 ขณะที่คนขับรถเร็วเกินกำหนดมีถึง 24 %

สถิติอุบัติเหตุปีนี้ก็คงมากกว่าปีที่ผ่านมา แม้หน่วยราชการ หลายแห่งจะตั้งเป้าหมายในการลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ ปริมาณจังหวัดหวังจะให้เป็นอัตรา 0 ด้วยซ้ำไป แถมปีนี้มีมาตรการตรวจจับที่เข้มข้นขึ้น แต่ก็มีการหลบเลี่ยง การใช้รถจากเส้นทางหลัก ไปใช้เส้นทางรอง ซึ่งก็เกิดปัญหาเช่นกัน

ทั้งๆที่อุบัติเหตุจากการใช้ถนน นอกจาก สร้างความเสียหายต่อร่างกาย ทำลายชีวิต และทรัพย์สินตัวเองแล้ว คนที่เดือดร้อนก็อาจจะเป็นคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงที่ร่วมโดยสาร รวมทั้งรถคันอื่นที่มาร่วมเคราะห์กรรมอีกด้วย สังคมก็ดู เหมือน รับรู้และไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุอยู่แล้งว แต่ปัญหาก็ยังเกิด จึงต้อง มีวิธีควบคุมและป้องกันให้ได้ผลกันต่อไป

ขนาด Music Video เพลงดังกล่าวมี ผู้ซาบซึ้งสนใจมากมาย แต่ผลลัพธ์ก็ยังไม่เป็นใจ ก็ เพราะมีคนที่ไม่ตระหนักเรื่องความปลอดภัย และคนที่ดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับ หรือง่วงจนคุมสภาพคนขับที่ดีไม่ได้แถมมีคนที่ขับรถเร็วด้วยความประมาท ก็ยิ่งอันตราย

จิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ไม่จำเพาะเป็นเรื่อง ขององค์กร (Corporate) เท่านั้น และหลักการ อยู่ที่S=Social คือสังคม และR=Responsibility คือความรับผิดชอบ ซึ่งควรมีความตระหนักทั้งตัวบุคคล ที่เป็นคนขับ ซึ่งต้อง รับผิดชอบต่อผู้โดยสาร ด้วยความห่วงใย ในความปลอดภัย จึงต้องเอาใจใส่ให้ สมบูรณ์ดีพร้อมทั้งคนและ ทั้งรถ

ขณะที่ ระดับองค์กร คือหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ก็ทำหน้าที่ ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม อย่างมีคุณภาพ และคุณธรรม โดยเฉพาะจะให้เกิดผลที่ยั่งยืนน่าจะมีบทบาท ในการสร้างเสริม ให้สังคมไทย เกิดค่านิยมให้ความสำคัญ เรื่องความปลอดภัย ในการดำเนินชีวิต และการเดินทาง

 
 
กำลังโหลดความคิดเห็น