xs
xsm
sm
md
lg

ประกาศปักหมุดเป็นฮับสตาร์ทอัพอาเซียน กระทรวงวิทย์ฯ โต้โผใหญ่ 12 หน่วยงานสานพลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เผยไทยพร้อมเป็นประเทศเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม ร่วมกับ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวม 12 หน่วยงาน จัดงาน Startup Thailand 2016 ระหว่างวันที่ 28 เมษายน 2559 -1 พฤษภาคม 2559 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
หน่วยงานต่างๆ ที่เข้าร่วมประกอบด้วย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เครือข่ายประชารัฐ และประชาคมสตาร์ทอัพไทย โดยได้มีการแถลงความร่วมมือเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่าการจัดงานดังกล่าวสืบเนื่องจาก คณะกรรมการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศ (คพน.) เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2559 ซึ่งมีท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน มีมติมอบหมายให้กระทรวงวิทย์ฯ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จัดทำโครงการ National Campaign เรื่อง Startup Thailand เพื่อเป็นการระดมผู้ประกอบการสตาร์ทอัพของประเทศให้มารวมตัวกัน จึงนำไปสู่ความร่วมมือของทั้ง 12 หน่วยงานในครั้งนี้ โดยการจัดงานครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อแสดงจุดยืนและความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการก้าวสู่การเป็นประเทศเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม ด้วยการส่งเสริม สนับสนุนและสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ประกอบการธุรกิจสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพในการขยายธุรกิจและสร้างตลาดใหม่ สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด

“การจัดงานครั้งนี้ จะระดมผู้ประกอบการสตาร์ทอัพของประเทศให้มารวมตัวกัน เพื่อพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ รวมถึงกลุ่มนักลงทุนที่พร้อมให้การสนับสนุนทางการเงิน ตลอดจนสร้างความตระหนักและความตื่นตัวในวงกว้างในการเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนธุรกิจ โดยเฉพาะ นักเรียน นักศึกษา นักเรียนอาชีวะ ผู้ที่จบการศึกษาและทำงานมาระยะหนึ่ง เกษตรกรยุคใหม่ ผู้บริหารองค์กร บริษัท หน่วยงานภาครัฐต่างๆ รวมทั้งมหาวิทยาลัยที่มีการบ่มเพาะ ให้บริการหรือมีกิจกรรมส่งเสริมสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอันจะช่วยผลักดันให้เกิดสังคมแห่งผู้ประกอบการขึ้นในประเทศไทยและส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยขณะนี้นายกรัฐมนตรีตอบรับมาร่วมงานพร้อมกับแสดงปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “วิสัยทัศน์และพลังสร้างชาติด้วยสตาร์อัพไทยแลนด์” และรองนายกรัฐมนตรี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จะมาพูดถึงการขับเคลื่อนสตาร์ทอัพในประเทศไทย” ดร.พิเชฐ กล่าว
นอกจากนี้ ยังเชิญบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลก มาร่วมงานและปาฐกถาพิเศษ เช่น นายแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้ง อาลีบาบา อี-คอมเมิร์ซรายใหญ่สุดของประเทศจีน โดยอยู่ระหว่างการติดต่อ รวมทั้ง เชิญประเทศที่ประสบความสำเร็จด้านสตาร์ทอัพมาร่วมงาน 10ประเทศ รวมถึงการจัดนิทรรศการแสดงผลงานจากสตาร์ทอัพทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคการเงิน การธนาคาร มหาวิทยาลัย รวมทั้งการนำเสนอของต่างประเทศ และนิทรรศการ Future of industries ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้รับความรู้อย่างเต็มที่ และเกิดแรงบันดาลใจสร้างธุรกิจให้ก้าวหน้าและสร้างรายได้ ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ขณะเดียวกันกำลังพิจารณาพื้นที่ในการเปิดเป็นย่านสตาร์ทอัพ (สตาร์ทอัพ ดิสตริค) เพื่อให้เป็นแหล่งรวมผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในไทย เบื้องต้นพิจารณาใน กทม. ทั้งที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เอกมัย หรือย่านทองหล่อ พื้นที่หัวเมืองทั้ง จ.เชียงใหม่ ถนนนิมมานเหมินท์ จ.ขอนแก่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ จ.สงขลา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งในไทยมีสตาร์ทอัพประมาณ1,000-2,000 บริษัท
“ท่านนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ท่านต้องการให้ปีนี้เป็นปีแห่งสตาร์ทอัพ และสามารถพัฒนาแบบก้าวกระโดดไปเป็นฮับของอาเซียน เนื่องจากเห็นช่องทางการเติบโตเป็นอุตสาหกรรมสร้างรายได้ของประเทศ ถือเป็นจุดเริ่มของฐานเศรษฐกิจใหม่ ขณะนี้มีเป้าหมายที่จะเปิดพื้นที่สตาร์ทอัพกลางกรุง ซึ่งกำลังดูทำเลย่านสยามสแคว์ เพื่อเป็นเวทีให้คนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ความคิดดี ๆ ได้มารวมตัวกันบริหารธุรกิจที่ทรงพลัง นำไปสู่ความสำเร็จเนื่องจากอุตสาหกรรมสตาร์ทอัพเป็นช่องทางในการสร้างผลกำไรได้อย่างมหาศาล ยกตัวอย่าง Grab ได้รับการระดมทุนจากทั่วโลกและเติบโตอย่างมากในตลาดอาเซียนซึ่งมี สตาร์ทอัพไทยหลายรายที่สามารถโตและขยายตลาดได้อย่างก้าวกระโดดในอาเซียน เช่น OokBee และ aCommerceเป็นต้น” ดร.พิเชฐ กล่าว
กานต์ ตระกูลฮุน
ด้าน กานต์ ตระกูลฮุน หัวหน้าทีมภาคเอกชน คณะทำงานร่วมประชารัฐ ด้านการยกระดับนวัตกรรมและผลิตภาพ กล่าวว่า การส่งเสริมผู้ประกอบการสตาร์ทอัพที่ดีคือ มีผู้ที่เชี่ยวชาญแต่ละสาขามาแนะนำและให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการที่กำลังเริ่มทำธุรกิจ หลายประเทศทั่วโลกก็ให้ความสำคัญกับธุรกิจสตาร์ทอัพ ประเทศไทยเองก็พร้อมที่จะเดินหน้าในเรื่องนี้ และมีคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์อีกเป็นจำนวนมากที่รอการสนับสนุน
กำลังโหลดความคิดเห็น