อิเกีย ประกาศผลิตพลังงานทดแทนใช้เองทั่วโลก ลุยลงทุนโซล่าร์ เซลล์ พลังงานลม เผยมีนโยบายใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดภาระสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณขยะ ลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
พาทริซ ดรีอาโน่ ผู้จัดการสโตร์อิเกีย บางนา เปิดเผยว่า อิเกียมีนโยบายที่จะผลิตพลังงานทดแทนใช้เองภายในสโตร์ ทั่วโลก โดยจะลงทุนสร้างพลังงานลม และโซล่าร์ เซลล์ในทุกประเทศที่มีสาขาของอิเกียตั้งอยู่ทั่วโลกทั้ง 44 ประเทศ โดยในต่างประเทศที่สามารถลงทุนผลิตพลังงานลม และโซล่าร์ ฟาร์ม ก็จะผลิตพลังงานใช้เองทั้งหมด โดยมีเป้าหมายผลิตพลังงานเพื่อใช้เองให้ได้ 100% ขณะที่ประเทศไม่สามารถผลิตพลังงานทดแทนใช้ได้ทั้งหมด ก็จะมีเป้าหมายลดการใช้พลังงานลง
โดยในประเทศไทย จะติดตั้งแผงโซล่าร์ เซลล์ บนหลังคาเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่ติดตั้งแผงโซล่าร์ เซลล์บนหลังคาสโตร์ บางนา ซึ่งสามารถผลิตพลังงานได้เพียง 20-25% ของพลังงานที่ใช้ แต่ในอนาคตอาจจะขยายการติดตั้งแผงโซล่าร์ เซลล์ ไปยังหลังคาอาคารจอดรถด้วย เพื่อเพิ่มพื้นที่ผลิตพลังงาน ขณะเดียวกัน ก็มีแผนที่จะลดปริมาณขยะ รวมถึงนำวัสดุเหลือใช้มีรีไซเคิล รวมถึงนำเศษอาหารมาแปลงเป็นพลังงานด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา อิเกียมีนโยบายใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด และนำของเหลือใช้กลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชนสูงสุด รวมทั้งหาแหล่งอาหารและวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงยังพยายามเปลี่ยนมาใช้พลังงานที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ อิเกีย ยังต้องการลดภาระต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยสร้างอาคารและสโตร์ให้มีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อลดการใช้พลังงาน และลงทุนด้านพลังงานที่มีประสิทธิภาพและนำมาหมุนเวียนใช้ใหม่ได้ รวมถึงในช่วงที่ผ่านมาได้บริหารจัดการส่งสินค้าต่อรอบได้มากขึ้น จัดส่งสินค้าไปทั่วโลกด้วยการหลีกเลี่ยงการขนส่ง “อากาศ” หรือพื้นที่ว่างที่ไร้ประโยชน์ นั่นคือที่มาของคำว่า “fill rate” ซึ่งหมายถึง อัตราการบรรจุสินค้าในรถขนส่งหรือตู้คอนเทนเนอร์ ยิ่งขนส่งสินค้าต่อรอบได้จำนวนมากเท่าใด ก็ยิ่งลดจำนวนยานพาหนะที่ใช้ขนส่งได้มากเท่านั้น ตลอดจนลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเปลี่ยนจากการใช้พาเลทไม้มาเป็นพาเลทกระดาษ ช่วยให้สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งสินค้าอิเกียได้มากถึง 75,000 ตัน/ปี
ก่อนหน้านี้ ผู้ผลิตสิ่งทอรายใหญ่ของอิเกียในบังกลาเทศใช้น้ำปริมาณมากถึง 1.7 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ในปี 2011/2012 อิเกียจึงเปิดตัวโครงการซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพัฒนาซัปพลายเออร์ (Supplier Development Process) เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำลงถึง 20% และทดสอบแนวทางการรีไซเคิลน้ำจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ โดยซัปพลายเออร์ ได้ติดตั้งมิเตอร์น้ำ 30 ตัว รอบโรงงาน เพื่อตรวจสอบว่ากระบวนการผลิตใดใช้ปริมาณน้ำมากที่สุด โดยคาดว่าจะสามารถลดปริมาณการใช้น้ำลงได้ถึง 292,000 ลูกบาศก์เมตร (ประมาณ 292 ล้านลิตร) ต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับปริมาณน้ำที่ชาวบังกลาเทศจำนวน 10,256 คนใช้อุปโภคบริโภคต่อปี โดยดูอัตราการใช้น้ำ และกำหนดเป้าหมายการลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต นับตั้งแต่การฟอกสี พิมพ์ลาย และย้อมสี นอกจากนั้นยังคิดหาวิธีให้นำน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่ได้ในโรงงาน และริเริ่มโครงการนำร่องเพื่อทดลองวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ และประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก
ล่าสุด ได้เปิดศูนย์บริการสั่งซื้อและรับสินค้าอิเกียแห่งแรกในเอเชีย และแห่งที่ 21 ของโลก ที่บายพาส บิชทาวน์ ภูเก็ต บนพื้นที่ 2,615 ตารางเมตร ด้วยงบลงทุน 175 ล้านบาท
สำหรับวิธีการชอปปิ้งที่ศูนย์บริการสั่งซื้อและรับสินค้ามี 3 ขั้นตอน
1) เลือกสินค้าและไอเดียหลากหลายได้จากแคตตาล็อกอิเกีย หรือเว็บไซต์อิเกีย และสามารถทำชอปปิ้งลิสต์ล่วงหน้า ผ่านเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่น IKEA STORE ทั้งในระบบ Google Play และ Android
2) เดินทางมายังศูนย์บริการสั่งซื้อและรับสินค้าอิเกียเพื่อสั่งซื้อ ชำระเงินค่าสินค้าและค่าธรรมเนียมการหยิบสินค้า 200 บาท พร้อมนัดวันรับสินค้า
3) รับสินค้าที่ศูนย์บริการสั่งซื้อและรับสินค้าอิเกีย 5 วัน หลังจากวันสั่งซื้อ หรือใช้บริการจัดส่งสินค้า ทั้งนี้ ค่าบริการจะขึ้นอยู่กับระยะทาง จากศูนย์บริการสั่งซื้อและรับสินค้าไปยังที่บ้านหรือสถานที่ที่ลูกค้าต้องการให้จัดส่ง โดยราคาเริ่มต้นที่ 590 บาท
การเปิดศูนย์บริการดังกล่าว ถือเป็นการช่วยลดโลกร้อนอีกทางหนึ่งด้วย เพราะเป็นการบริหารจัดการเรื่องโลจิสติกส์ให้คุ้มค่า ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลงด้วย จากการขนส่งสินค้าในปริมาณมากขึ้น
