-ภายใต้โรดแมปซีเอสอาร์ 4 ปี พีที สานต่อโครงการ “พีที เติมพลังสัมมาชีพ ปีที่ 3”
-จัดตั้งโครงการวิสาหกิจจำลอง “ช่างสัมมาชีพ พระดาบส” 8 สาขา มุ่งให้เรียนรู้แผนธุรกิจและลงมือปฏิบัติจริง
ความน่าสนใจของโครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ ปีที่ 3 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างมูลนิธิพระดาบส และบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ก็คือการสร้างแรงขับเคลื่อนให้มูลนิธิพระดาบสสามารถพัฒนาการเรียนการสอนและมอบโอกาสให้แก่ผู้ที่ขาดโอกาสได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังช่วยประชาสัมพันธ์โรงเรียนพระดาบสให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
ท่านองคมนตรี พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิพระดาบส กล่าวว่าตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ภายใต้โครงการ “พีที เติมพลังสัมมาชีพ” อย่างในปีที่ผ่านมานั้นมีผู้สนใจสมัครเข้าเรียนมากที่สุด กว่า 700 คน ทำให้ทางโรงเรียนสามารถคัดเลือกนักเรียนที่มีคุณภาพ และตรงตามเกณฑ์คุณสมบัติอย่างครบถ้วน
“จึงนับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ไปช่วยส่งเสริมให้ศิษย์พระดาบสนำความรู้วิชาชีพติดตัวไปประกอบสัมมาอาชีพ และเป็นกำลังในการพัฒนาชาติต่อไป”
มูลนิธิพระดาบสดำเนินงานสนองตามโครงการพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมี ”โรงเรียนพระดาบส” ทำหน้าที่ฝึกอบรมความรู้ ทักษะวิชาชีพ และทักษะชีวิตให้แก่ผู้ยากจนด้อยโอกาสทางการศึกษาที่ตั้งใจแสวงหาความรู้ เพื่อนำไปประกอบสัมมาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยดำเนินชีวิตตามหลักคุณธรรมและความพอเพียงด้วยการเปิดสอนในรูปแบบการศึกษานอกระบบ หลักสูตร 1 ปี ทั้งหมด 8 สาขาวิชาชีพ ได้แก่ ช่างยนต์, ช่างไฟฟ้า, ช่างอิเล็กทรอนิกส์, ช่างซ่อมบำรุง, การเกษตรพอเพียง, ช่างไม้เครื่องเรือน, ช่างเชื่อม และเคหบริบาล ปัจจุบันโรงเรียนพระดาบสสามารถผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพไปแล้วกว่า 39 รุ่น
พิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้โครงการ “พีที เติมพลังสัมมาชีพ ปีที่ 3” ดำเนินการภายใต้แนวคิด “การเรียนรู้ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ในโรงเรียน แต่เป็นการเรียนรู้ชีวิตด้วยการลงมือทำจริงที่ไม่มีวันสิ้นสุด” เราจึงจัดตั้ง โครงการวิสาหกิจจำลอง “ช่างสัมมาชีพ พระดาบส” ร่วมกับโรงเรียนพระดาบส เพื่อให้นักเรียนที่กำลังจบการศึกษาได้ใช้ทักษะและฝีมือจากวิชาชีพที่ได้ร่ำเรียน นำมาสร้างเป็นธุรกิจรายย่อยจำลอง เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้และแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการบริหารจัดการธุรกิจ การบริหารต้นทุนและการวางแผนระบบการเงินด้วยการลงมือปฏิบัติจริง โดยเราตั้งเป้าหมายว่าเมื่อนักเรียนจบการศึกษาแล้วจะสามารถประกอบธุรกิจและเป็นเจ้าของกิจการหาเลี้ยงชีพได้ จะช้าหรือเร็วไม่สำคัญ”
การจัดตั้งโครงการวิสาหกิจจำลอง “ช่างสัมมาชีพ พระดาบส” อยู่ภายใต้โครงการ “พีที เติมพลังสัมมาชีพ ปีที่ 3” ทางพีทีได้ดำเนินการสนับสนุนเงินทุนในด้านต่างๆ อาทิ การจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์ที่สำคัญในการประกอบธุรกิจ ทุนค่าอาหาร รวมถึงการจัดหาบุคลากรที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจแต่ละสาขาวิชาชีพมาเป็นครูพี่เลี้ยงคอยถ่ายทอดประสบการณ์และให้คำแนะนำในการทำธุรกิจอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้เรายังทำการทำประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อออนไลน์เป็นหลัก
นอกจากนี้ ยังมีการประชาสัมพันธ์ผ่านทางโทรทัศน์ วิทยุ และอีกหลากหลายช่องทาง เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนได้รับทราบถึงโครงการ ซึ่งผู้ที่สนใจก็สามารถมีส่วนร่วมในการสนับสนุนโครงการนี้ได้ผ่านการเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันพีที โดยทุก 5 สตางค์ต่อลิตร เราจะนำสมทบทุนมอบแก่มูลนิธิพระดาบส ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ตุลาคม 2558
พิทักษ์ บอกว่า “ที่ผ่านมาเราพบว่าส่วนใหญ่ผู้มีวิชาชีพที่มีความสามารถทั้งด้านทักษะและฝีมือ ยังคงขาดความรู้ความเข้าใจและขาดประสบการณ์ทางธุรกิจ เราจึงมองเห็นโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของกลุ่มคนเหล่านี้ให้สามารถนำความรู้ความสามารถด้านวิชาชีพไปประกอบธุรกิจของตัวเอง เพื่อสร้างรายได้เลี้ยงดูครอบครัวตามแนววิถีพอเพียงและยั่งยืน”
เพราะการสร้างอาชีพเปรียบเสมือนการเติมพลังให้กับแผ่นดิน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญต่อการขับเคลื่อนธุรกิจภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังใช้เป็นใบเบิกทางสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจในอนาคตได้อีกด้วย
“สำหรับการวางแนวทางการดำเนินโครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ ในปีที่ 4 เราวางแผนที่จะมอบโอกาสให้ศิษย์พระดาบสได้ประกอบธุรกิจร้านค้าในพื้นที่ของสถานีบริการน้ำมันที่พีทีเป็นเจ้าของและเป็นผู้บริหารงานเอง (CO-CO) เพื่อสานต่อโครงการระยะยาวให้ดำเนินไปอย่างยั่งยืน สร้างอาชีพ สร้างอนาคต และสร้างประโยชน์แก่สังคมได้อย่างแท้จริง” พิทักษ์ กล่าวย้ำ
ด้าน ดร.สมยศ เจตน์เจริญรักษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพระดาบส กล่าวว่า “นับตั้งแต่ที่ทางโรงเรียนได้ร่วมมือกับโครงการ พีที เติมพลังสัมมาชีพ ตั้งแต่ปีแรกจนถึงปัจจุบัน ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งเห็นได้จากจำนวนผู้ที่มีความตั้งใจในการเรียนรู้แต่ยังขาดโอกาสเข้ามาสมัครเรียนที่โรงเรียนพระดาบสที่เพิ่มขึ้นทุกปี
ส่วนโครงการวิสาหกิจจำลอง “ช่างสัมมาชีพ พระดาบส” ภายใต้ โครงการนี้ ผมมองว่าช่วยนำร่องภายหลังจบการศึกษาซึ่งจะทำให้ประชาชนทั่วไปมองเห็นความสามารถและศักยภาพของศิษย์พระดาบส ในด้านการประกอบอาชีพภายใต้สาขาวิชาที่เรียนมา รวมทั้งให้เด็กเหล่านี้ได้เรียนรู้การดำเนินธุรกิจจากประสบการณ์จริง
“โครงการนี้ศิษย์พระดาบสรุ่นที่ 38 จำนวน 22 คน ได้รวมตัวกันทดลองเปิดร้านรับซ่อมและบริการต่างๆ ภายในพื้นที่ของโรงเรียนพระดาบส จำนวน 12 ร้าน จาก 8 สาขาวิชาชีพ ได้แก่ งานช่างยนต์ (ซ่อมมอเตอร์ไซค์และเครื่องจักรทางการเกษตร), งานช่างไม้เครื่องเรือน (รับออกแบบและทำเฟอร์นิเจอร์), งานช่างไฟฟ้า (รับเดินระบบไฟฟ้า), งานช่างแอร์ (ซ่อม ติดตั้งและล้างแอร์), งานการเกษตร (ติดตา ตอนกิ่งไม้), งานช่างเชื่อม (เชื่อมเหล็กและโลหะ), งานช่างมุ้งลวดและเหล็กดัด (ซ่อมและติดตั้งมุ้งลวดเหล็กดัด), งานช่างอิเล็กทรอนิกส์ (รับทำวิทยุทรานซิสเตอร์), งานช่างพื้นฐาน (ตะไบเหล็ก), งานเคหบริบาล (จัดดอกไม้และเย็บเสื้อผ้า), งานช่างแกะสลักน้ำแข็ง (ออกแบบและแกะสลักน้ำแข็ง) และงานซ่อมอุปกรณ์และเครื่องมือไฟฟ้า สำหรับผู้ที่สนใจต้องใช้บริการก็ สามารถติดต่อได้ที่โรงเรียนพระดาบส ถนนสามเสน ทุกวันจันทร์ - วันเสาร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.”