มจธ. จับมือกระทรวงวิทย์ฯ และบจ.ตะวันออกซินเทค เปิดตัว “กังหันลมแนวนอนขนาด 1 กิโลวัตต์” เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากความเร็วลมต่ำทดแทนการนำเข้ารายแรกของไทย ชี้คุณสมบัติพิเศษออกแบบเหมาะสมกับสภาพลมในประเทศไทยที่มีความเร็วลมต่ำและลมแปรปรวน รับลมได้ทุกทิศทุกทาง เหมาะกับโรงเรือนปศุสัตว์ที่ปล่อยลมทิ้งและดาดฟ้าของตึกสูง สามารถเคลื่อนย้ายสะดวกรวดเร็ว
ผศ.นิธิ บุรณจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวท.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวว่า โครงการพัฒนาสร้างกังหันลมแนวนอนขนาด 1 กิโลวัตต์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้านี้เป็นโครงการที่มหาวิทยาลัยโดย สวท. ร่วมกับบริษัท ตะวันออกซินเทค จำกัด ดำเนินการวิจัยและพัฒนาขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการทำวิจัยจากสำนักส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร้อยละ 50 ของงบประมาณโครงการทั้งหมด เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ และด้วยแต่ละพื้นที่ที่มีความเร็วลมแตกต่างกันจึงเป็นข้อจำกัดของการใช้กังหันแนวตั้งที่อาจไม่เหมาะสมกับพื้นที่ที่มีปริมาณของลมไม่มากและบนอาคารสูง
สำหรับการพัฒนากังหันลมแนวนอนนี้ มีขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 6 เมตร ออกแบบและสร้างโดยใช้กังหันลม ESCO Wind Turbine จึงมีคุณสมบัติพิเศษคือการออกแบบเหมาะสมกับสภาพลมในประเทศไทยที่มีความเร็วลมต่ำและลมแปรปรวน สามารถรับลมได้ทุกทิศทุกทาง ซึ่งจะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อรับลมจากด้านหน้าและหลัง วัสดุที่ใช้สามารถทนต่อสภาพการกัดกร่อนของกรดและไม่เป็นสนิม ( Engineering Composite Polymer ) และผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยต่อสัตว์ปีก เช่น นก เป็นต้น มีเสียงจากการหมุนของกังหันลมที่ต่ำ น้อยกว่า 20 db/5 meter เหมาะกับโรงเรือนปศุสัตว์ที่ปล่อยลมทิ้งและดาดฟ้าของตึกสูง สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกรวดเร็ว
แนวคิดการออกแบบ
กังหันลมแนวนอนนี้เน้นการใช้งานบนพื้นราบของอาคารสูงเป็นหลัก โดยใช้พื้นที่ติดตั้งเป็นแนวยาว สูงจากพื้นอาคาร 2-3 เมตร และวัตถุประสงค์อีกประเด็นหนึ่งคือออกแบบเพื่อนำไปใช้รับลมหมุนเวียนที่ปล่อยทิ้งมาจากโรงเรือนปศุสัตว์ ซึ่งจะสามารถติดตั้ง generator ได้ด้วย
ทั้งนี้ กังหันลมแนวนอนที่ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อน ติดตั้งง่ายและสามารถขยายผลโดยการส่งเสริมให้มีการใช้ในครัวเรือน ชุมชนขนาดเล็ก ผู้ประกอบการ และฟาร์มกังหันลมที่ใช้พลังงานลมในการผลิตไฟฟ้าใช้ในกิจกรรมต่างๆ ของตนเอง เพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนในการจัดหาพลังงานให้กับประเทศ