สวนสามพราน ปลุกตลาดออร์กานิก ชูจุดขาย มาตรฐานสากล “สดจากไร่ ตัดใหม่จากสวน”

โรงแรมสามพรานริเวอร์ไซด์ มูลนิธิสังคมสุขใจ ภายใต้โครงการ สามพรานโมเดล โดยการสนับสนุนของสำนักงานสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เดินหน้าจัดตลาดสุขใจสัญจร เป็นปีที่2 ล่าสุดประเดิมจัดบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ ณ สำนักงานใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ยืนยันมาตรฐานอินทรีย์สากล ( IFOAM - International Federation of Organic Agriculture) ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่รักษ์สุขภาพ



เดินหน้า “ตลาดสุขใจสัญจร” ปีที่ 2
ภายใต้โครงการสามพรานโมเด็ล เริ่มจัดตลาดสุขใจสัญจรขึ้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ด้วยการนำเอา พืช ผัก ผลไม้อินทรีย์ของเกษตรกรในโครงการฯ ออกไปวางจำหน่ายตามหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ย่านธุรกิจในกรุงเทพจนเกิดผลสำเร็จที่ดีเกินคาด สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นกอบเป็นกำ ขณะเดียวกันสะท้อนความตื่นตัวของผู้บริโภคที่ต้องการอาหารปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น
“เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการอาหารปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะคนเมืองที่รักษ์สุขภาพ สามารถได้พบปะพูดคุยและเลือกซื้อสินค้าออร์แกนิก “สดจากไร่ ตัดใหม่จากสวน” ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงจากเกษตรกรอินทรีย์ และยังยืนยันถึงที่มาที่ไปจากมาตรฐานอินทรีย์สากล ( IFOAM - International Federation of Organic Agriculture ตรงนี้ผมคิดว่ามันตอบโจทย์ผู้บริโภค” อรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ โรงแรมสามพรานริเวอร์ไซด์ และเลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ กล่าว
ตลาดสุขใจสัญจร มีเกษตรกรอินทรีย์ ในโครงการสามพรานโมเดล 5 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มเครือข่ายพี่น้องสองตำบล+สาม, กลุ่มพัฒนายั่งยืนคลองจินดา, กลุ่มไทยทวีนครชัยศรี, กลุ่มไร่ขิง และกลุ่มบางช้าง ให้นำผลิตภัณฑ์อินทรีย์ ทั้งสดและแปรรูปเข้ามาจำหน่ายตามหน่วยงาน องค์กร ต่างๆ ย่านธุรกิจในกรุงเทพมหานคร
เมื่อปีที่ผ่านมาจัดไป 4 ครั้ง เช่นที่ SCB PARK PLAZA ถนนรัชโยธิน จัดพื้นที่ให้จำหน่ายฟรีๆ ซึ่งได้รับตอบรับจากคนทำงานออฟฟิศเป็นอย่างมาก สินค้าขายดิบขายดี และยังมีกระแสเรียกร้องให้เราไปจัดตลาดสุขใจสัญจรตามที่ต่างๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
อรุษ นวราช กล่าวว่าครั้งแรกในปีนี้ได้จัดที่ธนาคารกรุงไทย สำนักงานใหญ่ ก็ได้ผลตอบรับที่ดีเช่นกัน ซึ่งการจัดตลาดสุขใจสัญจรทุกครั้ง ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดี สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรสูงกว่าขายที่ตลาดสุขใจถึง 3 เท่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้บริโภคตื่นตัวเรื่องสุขภาพ ต้องการอาหารปลอดภัยมากขึ้น และเกิดความเชื่อมั่นเมื่อได้พบปะพูดคุยและเลือกซื้อสินค้าจากเกษตรกรโดยตรง อีกทั้งยังได้ของดีในราคาที่ยุติธรรม
“ในปีนี้เรามีแผนจะจัดตลาดสุขใจสัญจรหมุนเวียนไปตามสถานที่ต่างๆ ให้ได้เดือนละ 4 ครั้ง เพื่อกระตุ้นให้คนเมืองหันมาใส่ใจสุขภาพ และหันมาให้ความสำคัญกับสินค้าเกษตรอินทรีย์ ขณะเดียวกันเป็นการสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรเคมี หันมาทำเกษตรอินทรีย์เพิ่มมากขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย”
จุดเด่นของ ตลาดสุขใจสัญจร เป็นตลาดขายตรงที่ผู้บริโภคได้พบกับเกษตรกร โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง มีสินค้าอินทรีย์หลากหลายชนิดให้เลือก เช่น ข้าวอินทรีย์ชนิดต่างๆ พืชผัก ผลไม้อินทรีย์ เก็บสดจากสวน ผักกระถางพร้อมปลูกเช่น พริก อัญชัน ยี่หร่า นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกแบรนด์ “ปฐม” ชนิดต่างๆ อาทิ โลชั่นกุหลาบ สบู่กุหลาบ ชาสมุนไพร โดยภายในงานยังมี กิจกรรม Workshop สอนปลูกผักออร์แกนิก ให้ความรู้เรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ และยังมีบริการตรวจเลือดเพื่อหาสารเคมีตกค้างในร่างกาย โดยทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอีกด้วย
ในด้านราคาขายแยกตามแต่ละชนิด อาทิ ข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวหอมนิล ข้าวหอมนครชัยศรี ราคากิโลกรัมละ 70-120 บาท ผักสด เช่น ตำลึง กวางตุ้ง คะน้า กำละ 15-20 บาท ส่วนผลไม้ ฝรั่ง กิโลกรัมละ 40 บาท กล้วยหวีละ 15-25 บาท ส้มโอ มะเฟือง เป็นต้น และยังมีผักกระถางพร้อมปลูกเช่น พริก อัญชัน ยี่หร่า ขายต้นละ 20 บาท เป็นต้น
สำหรับ "ตลาดสุขใจ" นับว่าเป็นตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ของเกษตรกรในโครงการสามพรานโมเดล ที่เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ จากฐานข้อมูลเก็บตัวเลขของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปีแรกวันละ 200 คน ปัจจุบันเฉลี่ยวันละ 1,200-1,400 คน ผนวกกับตัวเลขของผู้เข้าร่วมงาน มหกรรมวันสังคมสุขใจ ครั้งที่ 1 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 7,000 คน โดยลูกค้าทั้ง 2 กลุ่มนี้ ครึ่งหนึ่งเดินทางมาจากกรุงเทพ จากตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการอาหารที่ปลอดภัยและสนใจสินค้าเกษตรอินทรีย์ ทำให้เรามองเห็นโอกาสเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับเกษตรกร เหตุนี้จึงจัดตลาดสุขใจสัญจรขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา 


วิถีเกษตรกรอินทรีย์ จากตลาดสุขใจสัญจร
อรุณี พุทธรักษา หนึ่งในเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ จากกลุ่มเครือข่ายพี่น้องสองตำบล+สาม...ต.ทัพหลวง อ.เมือง จ.นครปฐม บอกว่า เขาเองไปมา 3 ครั้งแล้ว สินค้าที่นำไปขายก็มี ผัก ฟักข้าว ข้าวหอมปทุม ข้าวหอมนครชัยศรี โดยเฉพาะผักชนิดต่างๆ แต่ละคนซื้อกันคนละหลายๆ ถุง ขายดีมาก ทำให้มีรายได้ต่อครั้งประมาณ 14,000 กว่าบาท ซึ่งถือเป็นรายได้ที่เยอะมากสำหรับแม่ค้าขายผัก แต่สิ่งที่เราได้มากกว่าคือความสุขใจที่ได้มอบสิ่งดีๆ ให้กับผู้บริโภค สุขใจที่ผลผลิตเรามีคุณค่า
“อาจจะเป็นเพราะคนรู้จักชื่อ ตลาดสุขใจ อยู่แล้ว บวกกับความต้องการสินค้าเกษตรอินทรีย์ ยิ่งการได้พบกับเกษตรกรโดยตรงยิ่งทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจ ไม่ลังเลเรื่องราคา ไม่ถามเรื่องสารเคมี ทำให้สินค้าเราขายดิบขายดี ทุกครั้งที่ไปก็ได้รับการตอบรับที่ดี ลูกค้าบางคนอยากให้เราไปขายทุกวัน บางคนก็ตามเราไปที่ตลาดสุขใจ” นางอรุณี กล่าว
ด้าน สถาพร เยาวพงษ์อารีย์ หนึ่งในผู้บริโภคที่เข้ามาเลือกซื้อสินค้าในตลาดบอกว่า เขาเองซื้อข้าวอินทรีย์รวมเกือบ 10 กิโลกรัม ซึ่งครอบครัวให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพ เน้นบริโภคสินค้าออร์แกนิก ที่ผ่านมาต้องซื้อข้าวอินทรีย์แถวภาคอีสาน อยากให้มีการจัดตลาดนัดอินทรีย์เดือนละหลายๆ ครั้ง เพราะเดี๋ยวนี้คนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ขณะเดียวกันสินค้าออร์แกนิกราคาก็สูง บางชนิดยังหาซื้อยาก ตลาดสุขใจสัญจร ถือว่าจอบโจทย์คนเมืองที่รักษ์สุขภาพจริงๆ ทั้งในเรื่องราคา และคุณภาพสินค้า