xs
xsm
sm
md
lg

อิเกีย หนุนขับเคลื่อนซีเอสอาร์ระยะยาว ชูสองโครงการใหญ่ ช่วยเหลือเด็กทั่วโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โจนาธาน สแปมปินาโต และ ศุภฤกษ์ วิเชียรโชติ
-มูลนิธิอิเกีย และ อิเกีย ประเทศไทย แจงบทบาทงานซีเอสอาร์ เน้นช่วยเหลือเด็กๆ ที่ยั่งยืน
-ผนึกพันธมิตรแกร่ง UNHCR หนุน 2 โครงการระดับโลกต่อเนื่อง โครงการตุ๊กตาผ้าเพื่อการศึกษาและ โครงการอนาคตที่สดใสกว่าของผู้ลี้ภัย
ทุกๆ ปี มูลนิธิอิเกีย (IKEA Foundation) จะบริจาคเงินหลายสิบล้านยูโรผ่านกองทุนต่างๆ จากการแบ่งสรรผลกำไรมาจากการดำเนินธุรกิจของอิเกีย เพื่อขับเคลื่อน 2 โครงการเพื่อสังคมระดับโลก คือ โครงการตุ๊กตาผ้าเพื่อการศึกษา และโครงการอนาคตที่สดใสกว่าของผู้ลี้ภัย ทั้งนี้ ประเทศที่มีสโตร์อิเกียจะร่วมมือกับอิเกียของแต่ละประเทศ ส่วนประเทศใดไม่มีสโตร์อิเกีย ทางมูลนิธิอิเกียก็จะเป็นแกนนำขับเคลื่อนโดยร่วมกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งในโครงการ เช่น องค์การยูนิเซฟ ยูเอ็นเอชซีอาร์ หรือสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ องค์การเฟรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางการขับเคลื่อนโครงการเพื่อสังคมในระยะยาวให้กับสโตร์อิเกียทั่วโลก
ล่าสุด โจนาธาน สแปมปินาโต ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารและวางแผนกลยุทธ์ มูลนิธิเกีย (IKEA Foundation) เดินทางมาเยือนสโตร์อิเกียในประเทศไทยเป็นครั้งแรก และกล่าวถึงจุดยืนของมูลนิธิอิเกีย ว่ามุ่งพัฒนาโอกาสของเด็กและเยาวชนในประเทศกำลังพัฒนา โดยการมอบความช่วยเหลือผ่านโครงการระยะยาว เนื่องจากเราต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
มูลนิธิฯ จะเข้าไปร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งทั่วโลก ล่าสุดมีอยู่ประมาณ 40 แห่ง ที่ร่วมมือในโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ โครงการระดับโลกที่เข้าไปช่วยเหลือเด็กทั่วโลก เรามี 2 โครงการหลัก คือ โครงการตุ๊กตาผ้าเพื่อการศึกษา และ โครงการอนาคตที่สดใสกว่าของผู้ลี้ภัย
ปีที่ผ่านมา มูลนิธิอิเกีย ได้บริจาคเงินผ่านกองทุนต่างๆ รวม 104 ล้านยูโร ใน 46 ประเทศทั่วโลก โดยเป็นการช่วยเหลือประเทศในทวีปเอเชีย 33.3 ล้านยูโร เช่น อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ เนปาล ศรีลังกา อินโดนีเซีย เวียดนาม พม่า ฟิลิปปินส์ กัมพูชา เป็นต้น
“เพราะเราเห็นว่าเด็กคือคนสำคัญที่จะต้องปกป้องและดูแล มูลนิธิฯ จึงทำทุกสิ่งที่ทำได้เพื่อให้เด็กๆ ได้รับประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ และการขจัดปัญหาแรงงานเด็ก อย่างในเรื่องการต่อต้านการใช้แรงงานเด็ก อิเกียทุกแห่งร่วมกับมูลนิธิ Save the Children และองค์การ UNICEF มานานกว่าทศวรรษ ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา และได้บริจาคเงินกว่า 80 ล้านยูโร เพื่อแก้ไขและป้องกันปัญหาการใช้แรงงานเด็กในอินเดียและปากีสถาน ซึ่งในปัจจุบันโครงการของเราช่วยเหลือเด็กๆ ไปแล้วมากกว่า 12 ล้านคน ให้ได้รับการศึกษาที่ดีขึ้น และสามารถปกป้องพวกเขาจากการใช้แรงงานเด็ก” โจนาธาน สแปมปินาโต กล่าวและว่า
มูลนิธิฯ มุ่งพัฒนาโอกาสของเด็กในประเทศกำลังพัฒนา โดยการมอบความช่วยเหลือร่วมกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งเพื่อนำวิธีการใหม่ๆ ไปใช้พัฒนาคุณภาพชีวิตพื้นฐาน 4 ประการหลัก คือ 1)ให้เด็กมีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม ปลอดภัย 2)ให้เด็กได้มีชีวิตวัยเด็กที่ดี 3)ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ และ 4)เสริมสร้างรายได้ครอบครัวที่ยั่งยืนได้ ทั้งนี้ คาดว่าโครงการในปัจจุบันจะให้ความช่วยเหลือให้แก่เด็กๆ กว่า 100 ล้านคนภายในปี 2558
ด้าน ศุภฤกษ์ วิเชียรโชติ ผู้จัดการแผนกการพัฒนาอย่างยั่งยืน อิเกีย บางนา กล่าวเสริมว่าทั้งสองโครงการนี้เป็นการร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมระดับโลกและระดับประเทศ เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ที่ขาดแคลน ยากไร้ รวมถึงเด็กๆ ในค่ายผู้ลี้ภัยซึ่งถูกจำกัดพื้นที่ได้มีโอกาสเติบโตอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผมสนับสนุนความเชื่อของมูลนิธิอิเกียที่ว่า เด็กทุกคนควรมีสิทธิอย่างเท่าเทียมที่จะอยู่อย่างปลอดภัยในที่ที่เรียกว่า “บ้าน” อย่างการซื้อหลอดไฟ LED รุ่น LEDARE/ เลียดดาเร่ ที่สโตร์อิเกีย บางนา ซึ่งใช้ได้ทนทานและประหยัดไฟกว่าหลอดอินแคนเดสเซนต์แบบเก่าถึง 85% ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ส่งเสริมให้ลูกค้าคำนึงถึงการอยู่ร่วมโดยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น


มอบแสงสว่างที่ยั่งยืนในค่ายผู้ลี้ภัย
อิเกีย ประเทศไทย เปิดตัวโครงการ “อนาคตที่สดใสกว่าของผู้ลี้ภัย” ในปีที่ผ่านมา โดยให้ลูกค้ามีส่วนร่วม เมื่อซื้อหลอดไฟ LED รุ่น LEDARE/ เลียดดาเร่ ที่สโตร์อิเกีย บางนา ตั้งแต่วันนี้ถึง 29 มี.ค.2558 มูลนิธิอิเกียจะบริจาคเงิน 1 ยูโร (41 บาท) เพื่อมอบแสงสว่างให้แก่ค่ายผู้ลี้ภัย ผ่านสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR)
โดยจะนำไปใช้ติดตั้งไฟถนนพลังงานแสงอาทิตย์ ตะเกียงพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้ในที่พักอาศัย รวมถึงเตาปรุงอาหารประหยัดพลังงาน ให้แก่ค่ายผู้ลี้ภัยของ UNHCR ใน 5 ประเทศ ประมาณ 1.6 ล้านคน ได้แก่ บังคลาเทศ สาธารณรัฐชาด เอธิโอเปีย จอร์แดน และซูดาน
ทั้งนี้ ปัจจุบัน มีจำนวนผู้ลี้ภัยทั่วโลกมากถึง 10.5 ล้านคน ซึ่งรวมถึงผู้ลี้ภัยประมาณ 130,000 คน ที่อาศัยในค่ายผู้ลี้ภัย 9 แห่ง บริเวณชายแดนไทย-พม่า โดยประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ลี้ภัยทั่วโลกเป็นเด็ก จำต้องอาศัยอยู่ในค่ายที่ไม่มีแสงสว่างในตอนกลางคืน ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน


ตุ๊กตาผ้าเพื่อการศึกษาของเด็ก
อิเกีย เริ่มโครงการระดับโลกนี้ มาตั้งแต่ปี 2546 ช่วยบริจาคเงินกว่า 67 ล้านยูโร พร้อมสนับสนุนโครงการต่างๆ อีกกว่า 99 โครงการ ใน 46 ประเทศทั่วโลก โดยสามารถช่วยเหลือเด็กๆ ไปแล้วกว่า 11 ล้านคน
ขณะที่ อิเกีย ประเทศไทย เริ่มโครงการนี้ ปี 2555 บริจาคเงินกว่า 230,000 ยูโร แก่องค์การยูนิเซฟ และ มูลนิธิ Save the Children เพื่อช่วยเหลือโครงการด้านการศึกษาเด็กทั่วโลก ในโครงการด้านการศึกษาสำหรับเด็กทั่วโลกขององค์การยูนิเซฟ และมูลนิธิ Save the Children ลูกค้าร่วมบริจาคได้โดยการซื้อตุ๊กตาผ้า 1 ตัว ทางมูลนิธิอิเกียจะบริจาคเงินให้ 1 ยูโร (41 บาท) และปีที่ผ่านมา อิเกีย ประเทศไทย จัดกิจกรรม 2 โครงการร่วมด้วย คือ การประกวดวาดภาพระบายสีตุ๊กตาในฝันสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี และโครงการเติมความสุขคูณสอง
ตลอด 2 ปี ที่อิเกีย ประเทศไทย เข้าร่วมโครงการนี้ ลูกค้าอิเกียได้บริจาคตุ๊กตาผ้าไปแล้วกว่า 3,000 ตัวให้กับเด็กด้อยโอกาสที่อาศัยอยู่ในภาคใต้ และภาคเหนือของประเทศไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น