กูเกิล (Google) เสิร์ชเอนจินที่ไม่มีนักค้นหาคนไหนไม่รู้จัก หลังจากที่เข้ามาดำเนินธุรกิจอย่างจริงจังเมื่อปี 2554 วันนี้กูเกิลเปิดออฟฟิศอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทยบนชั้น 14 ของตึกปาร์คเวนเชอร์ อีโค่เพล็กซ์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นอาคารสีเขียวที่เป็นพันธมิตรกับสิ่งแวดล้อม จากจุดเริ่มต้นด้วยพนักงานหรือที่เรียกว่า Googlers เพียง 3 คน ปัจจุบัน มี Googlers ทั้งสิ้น 50 คน
เปิดประตูทางเข้าออฟฟิศก็ไม่น่าแปลกใจอะไร แต่ที่ทำให้ประหลาดใจคือ บัตรของพนักงานทุกคนจะสามารถใช้ในการเข้าออกออฟฟิศของกูเกิลได้ทุกแห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 100 แห่ง จาก 50 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 50,000 คน
การตกแต่งเน้นสไตล์ไทยๆ ต้อนรับด้วยหัวรถตุ๊กๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของไทยที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกจดจำ รวมไปถึงภาพเขียนจากศิลปินและนักเขียนชั้นนำระดับโลก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเก็บบรรยากาศหลากหลายอารมณ์ต่างๆ ของผู้ใช้ชาวไทยมาไว้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นภาพบนผนังและการตกแต่งห้องประชุมต่างๆ ที่สอดแทรกความเป็นไทยอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับวัสดุต่างๆ ที่ใช้ล้วนมาจากแห่งในท้องถิ่น รวมถึงไม้ที่มาจากป่าปลูกและไม้ที่นำกลับมาใช้ใหม่
เอมี่ กุลโรจน์ปัญญา หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรและมวลชนสัมพันธ์ อินโดนีเซีย และอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง Google เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศที่ 3 จาก 5 ประเทศ ที่กูเกิลเข้าไปเปิดออฟฟิศอย่างเป็นทางการ ซึ่งประกอบไปด้วย สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ตามลำดับ โดยการเลือกเข้าไปเปิดออฟฟิศนั้นกูเกิลจะพิจารณาจากประเทศที่มีศักยภาพและโอกาสทางธุรกิจ
สำหรับประเทศไทยนอกเหนือไปจากศักยภาพในการใช้งานอินเทอร์เน็ต และมีอัตราการเติบโตทางด้านออนไลน์สูงแล้ว กูเกิลยังพบว่ามีการเติบโตของการใช้งานเสิร์ชเอนจินเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นบริการอย่าง AdWords แผนที่ และ YouTube ประเทศไทยก็ได้รับการต้อนรับที่ดีเช่นกัน และกลายเป็นเครื่องมือค้นหาหลักเป็นอันดับ 2 รองจาก Google
คอนเซ็ปต์ของออฟฟิศกูเกิลในเมืองไทยจะเน้นสร้างบรรยากาศการทำงานแบบเน้นการแบ่งปันความคิดระหว่างกัน แต่ละคนจะต้องมีความคิดสร้างสรรค์ รักที่จะเรียนรู้และชอบความท้าทายกับสิ่งใหม่ๆ ซึ่งเป็นบุคลิกแบบที่เรียกว่า Googley โดยไฮไลต์อยู่ที่ทุกวันศุกร์ 16.00 น. ทุกคนจะต้องหยุดทำงานเพื่อมารวมตัวกัน พูดคุยกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ สังสรรค์ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ในมุมสบายๆ แบบเป็นกันเอง
ไม่ใช่เพียงมุมเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ออฟฟิศของบรรดา Googlers น่าทำงาน เพราะนอกจากนี้ยังมีมุมสำหรับออกกำลังกาย เก้าอี้โต๊ะพูล นวดผ่อนคลาย เครื่องเล่นวิดีโอเกม และที่สำคัญ Googlers จะมีอาหารให้รับประทานฟรี (ยังไม่นับรวมขนมขบเคี้ยวอีกสารพัด) ครบ 3 มื้อจากครัวเยาวราชคาเฟ่ที่ปรุงกันสดๆ ให้อิ่มท้องกัน ส่วนมื้อเย็นใครไม่รับประทานจะใส่กล่องกลับบ้านก็ไม่ว่ากัน ซึ่งเยาวราชคาเฟ่นั้นถือเป็นหนึ่งในคาเฟ่จาก 150 คาเฟ่ที่กูเกิลมีอยู่ ไม่นับรวมครัวเล็กครัวน้อยอีกกว่า 650 แห่งทั่วโลก น่าปลื้มไหมล่ะ
พรทิพย์ กองชุน หัวหน้าฝ่ายการตลาด Google ประเทศไทย กล่าวว่า ไม่ใช่เพียงแค่ออฟฟิศเท่านั้นที่กูเกิลใส่ความเป็นไทยเข้าไป เพราะออฟฟิศใหม่นี้นอกจากจะเป็นบ้านแบบถาวรแล้ว กูเกิลยังจะใช้เป็นฐานบัญชาการที่มุ่งเน้นเข้าถึงหัวใจของคนไทยมากที่สุด ด้วยการพัฒนาสิ่งต่างๆ ให้มีความเหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมามีการปรับผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับผู้ใช้ชาวไทยไปแล้วกว่า 45 ผลิตภัณฑ์ มี Doodle สำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะ 15 แบบ และยังแปลผลิตภัณฑ์ต่างๆ อีก 55 ผลิตภัณฑ์ให้เป็นภาษาไทย
“ภาษาไทยเป็นหนึ่งใน 40 ภาษาหลัก ที่มุ่งให้ทุกผลิตภัณฑ์ของกูเกิลได้รับการแปลไปสู่ภาษาต่างๆ ที่ครอบคลุมถึง 99% ของประชากรที่ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก นอกจากนี้กูเกิลยังได้จัดทีมงานด้านภาษาขึ้นมาเฉพาะเพื่อให้คนไทยสามารถค้นหาคำได้จากคำที่คุ้นเคย และได้รับผลการค้นหาที่ถูกต้องและตรงความต้องการมากที่สุด รวมไปถึงการใช้เสียงภาษาไทยในการค้นหา”
นอกจากนี้ยังกระตุ้นให้คนไทยสร้างเนื้อหาภาษาไทยบนเว็บ เพื่อเป็นการพัฒนาเนื้อหาที่เป็นภาษาไทยให้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงงานด้านซีเอสอาร์อย่างโครงการ “Women Will เธอทำได้” เครื่องมือให้ผู้หญิงไทยหนึ่งล้านคนพัฒนาทักษะเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นบนอินเทอร์เน็ต และ “Google Ads Grants สำหรับองค์กรไม่แสวงหากำไร” ที่จะให้องค์กรเหล่านี้สามารถโฆษณากิจกรรมทางด้านสังคมได้
อริยะ พนมยงค์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ ประจำประเทศไทย กูเกิล กล่าวว่า ในส่วนบริการต่างๆ ทางธุรกิจของกูเกิลได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยกูเกิลมีส่วนช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มบีแล้วกว่า 150,000 ราย เพื่อใช้ออนไลน์ในการทำธุรกิจผ่านเว็บไซต์ฟรี นับจากนี้กูเกิลจะต่อยอดสิ่งที่ทำนี้ไปเรื่อยๆ ส่วนในเรื่องของการพัฒนาด้านอื่นนั้น ในปีหน้ากูเกิลจะมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์การใช้งานผ่านมือถือให้ดียิ่งขึ้น สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนไทย
การเปิดบ้านแบบถาวรของกูเกิลในครั้งนี้ ยังนับเป็นส่วนน้อยที่ได้เรียนรู้ว่าองค์กรระดับโลกนี้ทำอะไรไปบ้าง ส่วนภาพรวมส่วนใหญ่นั้นคงต้องไปถามบรรดา Googlers ที่นั่งทำกันอยู่ เพราะพวกเขาเหล่านี้มีส่วนในการขับเคลื่อนให้กูเกิลเติบโตไปข้างหน้า แต่หากใครที่คิดว่าตนเองมีแนวคิดแบบ Googley แล้วต้องการเป็น Googlers ก็ลองส่งใบสมัครดู แต่เตือนไว้ก่อนว่าปีๆ หนึ่งมีจดหมายเข้ามาสมัครงานที่กูเกิลมากกว่า 2 ล้านฉบับ คงต้องแย่งชิงกันสักหน่อย
Company Related Link :
