การประกาศรายชื่อ 10 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ผ่านการประเมินความยั่งยืนให้เข้าเป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนี DJSI ประจำปี 2557นับเป็นข่าวสำคัญของตลาดหุ้นไทยที่มีจำนวนกิจการติดอันดับโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากปี 2555 ที่มี บจ.ไทยเพียง 2 บริษัทที่ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนี DJSI คือ ปูนซิเมนต์ไทยและปตท. และปี 2556 ได้เพิ่มอีก 2 บริษัทคือ พีทีที โกลบอล เคมิคอล และไทยออยล์
พอมาถึงปีนี้ พ.ศ.2557 ปรากฎว่ากิจการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งสามารถผ่านเกณฑ์การประเมินประจำปีและได้ติดกลุ่มดัชนีแห่งความยั่งยืน Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) มี 10 บริษัทที่จัดอยู่ในกลุ่ม DJSI Emerging Market และในจำนวนนี้มี 4 บริษัท ที่สามารถเปรียบเทียบกับบริษัทจดทะเบียนชั้นนำของโลกได้ระดับ DJSI World (ดูรายละเอียดในตาราง)
Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI เป็นดัชนีจัดอันดับผลการปฏิบัติงานด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก โดยมี RobecoSAM Corporate Sustainability Assessment ผู้ให้คำปรึกษาด้านการลงทุน เป็นผู้ประเมินและจัดอันดับ โดยมีเกณฑ์กำหนดว่า บริษัทที่จะเข้ารับการประเมินได้จะต้องเป็นบริษัทจดทะเบียน และมี Free Float Market Capitalization ใน Dow Jones Total Stock Market Index สูงสุด 2500 บริษัทแรก และกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในกลุ่มกำลังพัฒนา (Emerging Markets) สูงสุด 800 บริษัทแรก รวมทั้งสิ้น 3,395 บริษัททั่วโลก
ทั้งนี้ RobecoSAM จะส่งแบบสอบถามตามประเภทอุตสาหกรรมไปให้บริษัทที่มีศักยภาพ ซึ่งปีนี้มี 31 บริษัทในประเทศไทยที่ได้รับเชิญ เพื่อตอบคำถามเชิงลึกเกี่ยวกับแผนงานและกลยุทธ์ วิธีการบริหารจัดการ เป้าหมาย ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ตลอดจนผลการปฏิบัติงาน ที่ครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน คือ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม โดยจะมีการทบทวนและประกาศรายชื่อสมาชิกในกลุ่มดัชนี DSJI ในช่วงเดือนกันยายนทุกปี
“การได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนี DJSI จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจลงทุนในสายตาของผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นว่าบริษัทมีการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการสร้างผลประกอบการที่ดี อันจะส่งผลให้ธุรกิจสามารถเติบโตต่อเนื่องได้อย่างยั่งยืน ซึ่งนำไปสู่การสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ลงทุนในระยะยาว” บดินทร์ อูนากูล รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เคยยืนยันกับผมเช่นนี้
suwatmgr@gmail.com
ข้อคิด...
ปรากฎการณ์ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีนโยบายสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนมีการเรียนรู้และพัฒนากระบวนการบริหารด้วยหลักความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) และการมีบรรษัทภิบาล (CG)
เป็นการส่งเสริมกระบวนการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามหลักเกณฑ์สากลที่มีแนวโน้มไปในทางนี้ เกณฑ์การประเมินดัชนีความยั่งยืน DJSI ที่มุ่งประเมินศักยภาพการบริหารจัดการองค์กรกับความเสี่ยงใน 3 มิติที่มุ่งผลลัพธ์ด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งมีการเปรียบเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมแต่ละประเภท
ตัวอย่างศักยภาพการแข่งขันของปตท.สผ.จัดอยู่ในกิจการระดับบน 10% ในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซที่ถูกพิจารณาประเด็นเหล่านี้
1.ด้านธุรกิจ (ปริมาณสำรอง ต้นทุนการผลิต โครงสร้างปริมาณสำรองก๊าซ การบริหารจัดการความเสี่ยงและการกำกับดูแลองค์กร)
2.ด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม (ประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร การจัดการมลพิษ กลยุทธ์เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศของโลก)
3.ด้านการจัดการบุคลากรและสังคม (ความปลอดภัยและชีวอนามัย การพัฒนาบุคลากร การบริหารแรงงานและสิทธิมนุษยชน และการจัดการผลกระทบต่อชุมชน)
ในขณะที่ วีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่า “ไทยออยล์มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และได้เข้าร่วมรับการประเมิน DJSI มาตั้งแต่ปี 2554 เพื่อเปรียบเทียบผลการทำงานด้านความยั่งยืนของไทยออยล์กับเวทีโลก และเป็นโอกาสในการพัฒนาองค์กรให้ได้มาตรฐานอย่างแท้จริง ซึ่งในปี 2557 ไทยออยล์ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติงานโดยคำนึงถึงมิติด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและสังคมในทุกระดับของแต่ละสายงาน”
ผลการประเมินของ DSJI เป็นสิ่งที่ผู้บริหารสูงสุดของไทยออยล์มองว่าเป็นเสมือนรางวัลแห่งความสำเร็จและความภาคภูมิใจของพนักงานทุกคนก็จริง แต่ผมคิดว่านี่คือ การพิสูจน์อย่างมีน้ำหนักแก่นักลงทุนทั่วโลกเชื่อมั่นได้แน่นอน
suwatmgr@gmail.com
จากปี 2555 ที่มี บจ.ไทยเพียง 2 บริษัทที่ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนี DJSI คือ ปูนซิเมนต์ไทยและปตท. และปี 2556 ได้เพิ่มอีก 2 บริษัทคือ พีทีที โกลบอล เคมิคอล และไทยออยล์
พอมาถึงปีนี้ พ.ศ.2557 ปรากฎว่ากิจการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งสามารถผ่านเกณฑ์การประเมินประจำปีและได้ติดกลุ่มดัชนีแห่งความยั่งยืน Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) มี 10 บริษัทที่จัดอยู่ในกลุ่ม DJSI Emerging Market และในจำนวนนี้มี 4 บริษัท ที่สามารถเปรียบเทียบกับบริษัทจดทะเบียนชั้นนำของโลกได้ระดับ DJSI World (ดูรายละเอียดในตาราง)
Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI เป็นดัชนีจัดอันดับผลการปฏิบัติงานด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก โดยมี RobecoSAM Corporate Sustainability Assessment ผู้ให้คำปรึกษาด้านการลงทุน เป็นผู้ประเมินและจัดอันดับ โดยมีเกณฑ์กำหนดว่า บริษัทที่จะเข้ารับการประเมินได้จะต้องเป็นบริษัทจดทะเบียน และมี Free Float Market Capitalization ใน Dow Jones Total Stock Market Index สูงสุด 2500 บริษัทแรก และกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในกลุ่มกำลังพัฒนา (Emerging Markets) สูงสุด 800 บริษัทแรก รวมทั้งสิ้น 3,395 บริษัททั่วโลก
ทั้งนี้ RobecoSAM จะส่งแบบสอบถามตามประเภทอุตสาหกรรมไปให้บริษัทที่มีศักยภาพ ซึ่งปีนี้มี 31 บริษัทในประเทศไทยที่ได้รับเชิญ เพื่อตอบคำถามเชิงลึกเกี่ยวกับแผนงานและกลยุทธ์ วิธีการบริหารจัดการ เป้าหมาย ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ตลอดจนผลการปฏิบัติงาน ที่ครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน คือ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม โดยจะมีการทบทวนและประกาศรายชื่อสมาชิกในกลุ่มดัชนี DSJI ในช่วงเดือนกันยายนทุกปี
“การได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนี DJSI จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจลงทุนในสายตาของผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นว่าบริษัทมีการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการสร้างผลประกอบการที่ดี อันจะส่งผลให้ธุรกิจสามารถเติบโตต่อเนื่องได้อย่างยั่งยืน ซึ่งนำไปสู่การสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ลงทุนในระยะยาว” บดินทร์ อูนากูล รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เคยยืนยันกับผมเช่นนี้
suwatmgr@gmail.com
ข้อคิด...
ปรากฎการณ์ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีนโยบายสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนมีการเรียนรู้และพัฒนากระบวนการบริหารด้วยหลักความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) และการมีบรรษัทภิบาล (CG)
เป็นการส่งเสริมกระบวนการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามหลักเกณฑ์สากลที่มีแนวโน้มไปในทางนี้ เกณฑ์การประเมินดัชนีความยั่งยืน DJSI ที่มุ่งประเมินศักยภาพการบริหารจัดการองค์กรกับความเสี่ยงใน 3 มิติที่มุ่งผลลัพธ์ด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งมีการเปรียบเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมแต่ละประเภท
ตัวอย่างศักยภาพการแข่งขันของปตท.สผ.จัดอยู่ในกิจการระดับบน 10% ในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซที่ถูกพิจารณาประเด็นเหล่านี้
1.ด้านธุรกิจ (ปริมาณสำรอง ต้นทุนการผลิต โครงสร้างปริมาณสำรองก๊าซ การบริหารจัดการความเสี่ยงและการกำกับดูแลองค์กร)
2.ด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม (ประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร การจัดการมลพิษ กลยุทธ์เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศของโลก)
3.ด้านการจัดการบุคลากรและสังคม (ความปลอดภัยและชีวอนามัย การพัฒนาบุคลากร การบริหารแรงงานและสิทธิมนุษยชน และการจัดการผลกระทบต่อชุมชน)
ในขณะที่ วีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่า “ไทยออยล์มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และได้เข้าร่วมรับการประเมิน DJSI มาตั้งแต่ปี 2554 เพื่อเปรียบเทียบผลการทำงานด้านความยั่งยืนของไทยออยล์กับเวทีโลก และเป็นโอกาสในการพัฒนาองค์กรให้ได้มาตรฐานอย่างแท้จริง ซึ่งในปี 2557 ไทยออยล์ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติงานโดยคำนึงถึงมิติด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและสังคมในทุกระดับของแต่ละสายงาน”
ผลการประเมินของ DSJI เป็นสิ่งที่ผู้บริหารสูงสุดของไทยออยล์มองว่าเป็นเสมือนรางวัลแห่งความสำเร็จและความภาคภูมิใจของพนักงานทุกคนก็จริง แต่ผมคิดว่านี่คือ การพิสูจน์อย่างมีน้ำหนักแก่นักลงทุนทั่วโลกเชื่อมั่นได้แน่นอน
suwatmgr@gmail.com
