การส่งเสริมการกีฬา นับเป็นประเภทกิจกรรมที่องค์กรชั้นนำที่มีความพร้อมได้ดำเนินโครงการส่งเสริมหรือสนับสนุนด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งโดยเลือกประเภทกีฬาที่สนใจด้วยลักษณะโครงการระยะสั้นหรือระยะยาวอย่างต่อเนื่อง
อย่างเช่นกรณีที่สนามโปโล ฟุตบอล พาร์ค เมื่อเร็วๆ นี้ ซิตี้แบงก์ จัดกิจกรรม “ซิตี้ ฟุตบอล คลินิค” โดยคัดเลือกเยาวชนผู้ด้อยโอกาสจากองค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) และชุมชนในเขตกรุงเทพมหานคร กว่า 40 คน ให้ได้เรียนรู้ทักษะและเทคนิคเบื้องต้นของกีฬาฟุตบอลจากโค้ชทีมชาติไทย นำโดย ร.ต.ท.เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือฟุตบอลทีมชาติไทย, ใกล้รุ่ง ตรีจักร์สังข์ และสต๊าฟโค้ชระดับมืออาชีพ
เบื้องหลังความคิดชูกีฬาฟุตบอล
หัสยา หาสิตะพันธุ์ รองผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กร ธนาคารซิตี้แบงก์ เล่าให้ฟังถึงการที่ซิตี้แบงก์เข้ามาสนับสนุนกิจกรรมกีฬาฟุตบอล เพราะเห็นว่าเป็นกีฬายอดนิยมของคนไทย แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ปัจจุบันเด็กไทยให้ความสนใจและเอาจริงเอาจังมุ่งเป็นนักกีฬาน้อยลง แต่กลับใช้เวลาไปกับกิจกรรมอย่างอื่น
“ประกอบกับเมื่อ 2 ปีก่อน มีผลวิจัยชิ้นหนึ่งรายงานในสื่อมวลชนถึงผลสำรวจความต้องการของเด็กๆ ในวาระวันเด็ก ปรากฏว่า เด็กๆ บอกว่าอยากได้โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์และเกม แต่กลับไม่มีคนพูดถึงความต้องการอยากได้อุปกรณ์กีฬา หรือการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ อย่างการฝึกฝนเป็นนักกีฬา”
จากข้อมูลดังกล่าวได้สร้างแรงบันดาลใจให้ซิตี้แบงก์สนับสนุนกีฬาฟุตบอล เพื่อเป็นจุดดึงดูดให้เด็กๆ เยาวชนเอาเวลามาสนใจในเรื่องกีฬา รวมทั้งฝึกให้เด็กๆ มีศักยภาพ มีวินัย และรู้จักการสร้างทีมเวิร์กผ่านการเล่นกีฬา รวมทั้งช่วยลดปัญหาที่เด็กใช้เวลาให้ความสนใจไปกับสิ่งที่ไม่เหมาะสม
หัสยาชี้แจงว่า กิจกรรมนี้เริ่มปี 2556 เป็นปีแรกซิตี้แบงก์ได้สนับสนุนเป็นสปอนเซอร์กีฬาซีเกมส์เยาวชน ซึ่งเป็นกีฬาของกลุ่มเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ซิตี้แบงก์อยากให้การสนับสนุน รวมทั้งเชิญโค้ชฟุตบอลจากทีมฟุตบอลชาติไทย นำโดย เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง มาร่วมกิจกรรมซิตี้ฟุตบอลคลินิคในการฝึกสอนทักษะการเล่นฟุตบอลให้กับลูกๆ ของกลุ่มลูกค้าซิตี้แบงก์ประมาณ 50 คน
การส่งเสริมกิจกรรมกีฬาในปีที่ 2 ซิตี้แบงก์ได้ให้การสนับสนุนกีฬาเอเชียนเกมส์ ซึ่งเป็นทีมชาติชุดใหญ่แทน ขณะที่กิจกรรม “ซิตี้ฟุตบอลคลินิค” ในปีนี้ ได้เชิญเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งเป็นผู้จัดการโค้ชทีมชาติชุดเดิมมาเพิ่มทักษะให้กับเด็กๆ กลุ่มที่ขาดโอกาส เพราะเกียรติศักดิ์หรือ “ซิโก้” ถือเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ปกครองของเด็กๆ อีกด้วย
ส่วนความคาดหวังและการสานต่อในกิจกรรมซิตี้ฟุตบอลคลินิคของซิตี้แบงก์ หัสยามองว่า อยากจะทำต่อไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกันการสนับสนุนกีฬาฟุตบอลถือเป็นดำริของ มร.ดาเรน บัคลีย์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ทั้งนี้ซิตี้แบงก์ไม่อยากจะเป็นเพียงสปอนเซอร์ที่ให้การสนับสนุนกีฬาฟุตบอลเท่านั้น แต่มีความตั้งใจที่จะสร้างกิจกรรมนี้ให้กับลูกค้าและชุมชน ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับ CSR โดยแผนงานข้างหน้า หากจะต่อยอดกับเด็กๆ กลุ่มด้อยโอกาสกลุ่มเดิม คงต้องออกแบบหลักสูตรให้ดีขึ้น รวมทั้งขยายกิจกรรมในแบบเดียวกันในเด็กๆ กลุ่มอื่นมากขึ้น
“ซิโก้” คิดอย่างไรในการสร้างฝัน
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เกริ่นนำกับเด็กๆ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงเวลาเริ่มกิจกรรมว่า “ไม่ต้องการมาเสียเวลา 2 ชั่วโมงแล้วปล่อยผ่านไป วันนี้เป็นการปูพื้นฐานทั้งหมด ถ้าเราอยากมีในสิ่งที่ไม่มีก็ต้องฝึกทุกวัน พละกำลังไปฝึกเอาตอนอายุ 16-17 ปี แต่ตอนนี้เบสิกต้องแน่น เทคนิคต้องมี ขอให้ทุกคนตั้งใจในการฝึกเลี้ยงลูก การยิง-การส่งบอล ในแบบฉบับมาตรฐานของฟีฟ่ามาใช้ในวันนี้ด้วย”
“อยากให้พวกเรารู้ว่า ถ้าอยากประสบความสำเร็จในการเล่นฟุตบอล “มาก่อน กลับทีหลัง” หมายความว่า มาซ้อมก่อนโค้ช กลับทีหลังโค้ช”
“เมื่อเราเลือกที่จะเล่นฟุตบอล จะต้องทนต่อการฝึกซ้อมที่หนัก ต้องการให้พวกเรากลับไปคิดว่า ถ้าเราอยากจะเป็นนักฟุตบอลระดับทีมชาติ ต้องซ้อมหนัก เหนื่อย และร้อนแค่ไหน พวกเราต้องคิดด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้ครูมาจ้ำจี้จ้ำไชบอก”
“วันนี้พี่โก้ให้อาวุธประจำกายพวกเรา นักกีฬาขาแข้งต้องแข็งแรง เทคนิคอยู่ที่ตัวเราเอง ถ้าเราไม่ซ้อม อย่าหวังว่าคนอื่นจะมาบังคับให้พวกเราซ้อม วันนี้พวกเรากลับไปแล้วไปนอนฝัน ตั้งความฝัน ตั้งเป้าหมายว่าเราอยากไปเป็นทีมชาติ เราจะซ้อมเอง ขยันเอง”
“ถ้าได้ฟังจากพี่โก้แล้ว จะต้องมีวินัยและความฟิต ถ้าไม่มีวินัย ไม่มีความฟิต ไม่ต้องมาเจอกัน เพราะทีมชาติไม่ต้องการ ทีมชาติต้องการคนมีวินัยและความฟิต เก่งไม่กลัว ความเก่งสู้กันได้ พี่ซิโก้ไม่ต้องการคนเก่ง โอกาสข้างหน้าคงได้เจอกัน อยากให้พวกเราติดทีมชาติ หรือเล่นฟุตบอลอาชีพ ถ้ามาต้องมาเต็มร้อย ถ้าไม่เต็มร้อย อย่าเสียเวลา ถ้ามาเล่นเพื่อสนุกสนาน หรือเล่นไปวันๆ เล่นโชว์สาว หรือเล่นไม่จริงจัง ให้กลับไปเรียน”
ด้วยคำพูดของโค้ชทีมชาติไทยที่ทั้งปลุกทั้งท้าทายเยาวชนให้มีความฝันและความมุ่งมั่นใฝ่สูงสู่เส้นทางนักฟุตบอลทีมชาติในอนาคต ที่ต้องมีความอดทนและวินัยชั้นสูง
ผู้ถูกจุดประกายรู้สึกอย่างไร
ด.ช.พิพัฒน์ เวียงสุข หรือน้องอาม อายุ 12 ปี จากโรงเรียนปลูกจิต ตัวแทนเยาวชนจากชุมชนบ่อนไก่ เปิดใจหลังร่วมกิจกรรมซิตี้ ฟุตบอล คลินิคตลอด 2 ชั่วโมงว่า ความรู้เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลที่ได้รับในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงบอล โหม่งบอล ส่งบอล จะนำกลับไปใช้ฝึกฝนในเวลาซ้อมกับเพื่อนๆ ซึ่งเตะฟุตบอลหลังเลิกเรียนตอนเย็นเป็นประจำ ส่วนตัวมีความฝันอยากเป็นนักกีฬาทีมชาติในอนาคต
ด.ช.อภิชาติ สุวรรณฉิม หรือน้องแบงค์ อายุ 14 ปี จากโรงเรียนศรีอยุธยา ตัวแทนเยาวชนจากชุมชนหลังวัดปทุมวนาราม ภายใต้การดูแลขององค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) บอกว่า ปัจจุบันเป็นนักกีฬาฟุตบอลของรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี เล่นในตำแหน่งกองกลาง รู้สึกดีใจ ตื่นเต้น ที่ได้มาเรียนรู้ทักษะการเล่นกีฬาฟุตบอลจากพี่ซิโก้ โค้ชทีมชาติไทย ทั้งเลี้ยงบอล ส่งบอล ยิงบอล ได้รับเทคนิคต่างๆ เพิ่มขึ้น ทำให้มีแรงบันดาลใจที่จะสานฝันของตัวเองเป็นนักกีฬาในระดับทีมชาติให้ได้
ด.ญ.พัชราพร แถวพันธ์ หรือน้องฟ้า นักเรียนชั้นประถมปีที่ 5 โรงเรียนปลูกจิต ตัวแทนเยาวชนจากชุมชนบ่อนไก่ ปัจจุบันเป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน เล่นได้ทั้งกองหน้า กองหลัง เคยมีประสบการณ์การคัดเลือกเพื่อไปฝึกฝนทักษะฟุตบอลที่ประเทศสวีเดน แต่ไม่ผ่านเนื่องจากอายุไม่ถึงเกณฑ์และตัวเล็กเกินไป การเข้าร่วมกิจกรรม ซิตี้ฟุตบอล คลินิค วันนี้เธอได้ความรู้ เทคนิคด้านกีฬาฟุตบอลเพิ่มขึ้นจากโค้ชซิโก้ เกียรติศักดิ์ รู้สึกดีใจและสนุกมาก อนาคตอยากเป็นนักกีฬาทีมชาติ
ประเมินสถานการณ์มีความหวังแค่ไหน
“ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า แม้เยาวชนกลุ่มนี้จะเป็นเด็กขาดโอกาส แต่ถ้าพลิกมุมมอง เขามีโอกาสที่จะพลิกชีวิตได้ อย่าคิดว่าตัวเองขาดโอกาสตลอดไป เด็กอีกหลายคนยังไม่มีโอกาสเรียนรู้จากซิโก้ จากโค้ชรุ่ง แต่วันนี้ได้โอกาสที่ดีกว่าคนอื่นๆ
“ฉะนั้นเมื่อมีโอกาสแล้วอย่าปล่อยให้หลุดลอย เพราะโอกาสของคนเราชีวิตจะพลิกผันได้แค่ครั้งหนึ่งในชีวิต”
ซิโก้เผยว่า การสอนในวันนี้เหมือนกับเป็นทีมชาติเยาวชน แต่กีฬาฟุตบอลฝึกซ้อมเพียงวันเดียวให้เก่งไม่ได้ วันนี้จึงพยายามให้แนวความคิดและทัศนคติกับเด็กๆ ก่อนว่า เราให้อาวุธ แต่คุณจะเก่งหรือไม่เก่ง ขึ้นอยู่กับการครองตัว หรือการปฏิบัติตนที่มีวินัยกับการไปซ้อมต่อ ทุกๆ ที่ที่เราไป เราพยายามถ่ายทอดให้เหมือนกับนักกีฬา เพราะว่าวันหนึ่งเราเชื่อว่าเขาจะติดทีมชาติในอนาคต
“เราต้องให้แนวความคิด ทัศนคติกับเขาก่อนว่า อยากเป็นนักฟุตบอลในระดับไหน ถ้าเขารักจริงเขาก็ไปถึงได้ แต่ถ้าเขาไม่รักจริง เขาก็ปล่อย แต่เราเชื่อว่า ถ้าเราไม่พูด ถ้าเราไม่ย้ำ มันไม่มีประโยชน์ สอนก็แค่ 2 ชั่วโมง มันจะทำให้เปลี่ยนชีวิตคน”
ซิโก้มองด้วยว่า ปัจจุบันมีหลายๆ หน่วยงานที่ทำเป็นประจำ ในการเปิดโอกาสให้กับกีฬาฟุตบอลไม่ว่าการจัดคลินิก การจัดทัวร์นาเมนท์ หรือการจัดคัดเลือกนักเตะเพื่อเปิดประสบการณ์ในต่างประเทศ แต่ยังต้องช่วยกันหลายๆ ฝ่าย ส่วนตัวในฐานะกุนซือทีมชาติไทยอยากให้มีตัวเลือกมากๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเสาะแสวงหาเพราะคนเก่ง หรือช้างเผือกมักจะอยู่ในป่า
“วันนี้ไม่ว่าภาครัฐ เอกชน ค่อยๆ ปรับแนวความคิด ทัศนคติด้านซีเอสอาร์ ที่มีการเลือกทำโครงการส่งเสริมกีฬา เพื่อให้เด็กๆ ได้มีโอกาส วันนี้มีหลายๆ หน่วยงานที่เข้ามา ก็ขอบคุณแทนด้วย เพราะเราต้องการบุคลากรที่มาทดแทน ไม่ว่าภาครัฐ เอกชนก็ทำอยู่แล้ว ก็พยายามดูงบมาสนับสนุน ให้มองเด็ก เยาวชนเป็นหลัก เพราะว่าตอนนี้ ไทยลีกของเราก็ประสบความสำเร็จแล้ว เหลือระดับทีมเยาวชนที่ต้องมาทดแทน เพราะเหลือตัวผู้เล่นน้อยลง”
ส่วน “โค้ชรุ่ง” ใกล้รุ่ง ตรีจักร์สังข์ ซึ่งปัจจุบันใช้เวลาช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ฝึกสอนให้กับเยาวชนกล่าวว่า นำรูปแบบการฝึกซ้อมทีมชาติไทยมาสอนเด็กๆ จากการเข้าร่วมกิจกรรมซิตี้ฟุตบอล คลินิค ครั้งนี้พบว่าดูดีกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากเด็กกลุ่มนี้มีทักษะ ทำให้การเรียนการสอนง่ายขึ้น ส่วนตัวเห็นว่า ในจำนวนกว่า 40 คน ดูมีแววอยู่หลายคน
โค้ชรุ่งเผยด้วยว่า ส่วนตัวได้พูดคุยกับซิโก้และเห็นไปในแนวเดียวกันว่า อนาคตอยากจะลดงานลงมาทำงานกับทีมเยาวชนให้มากขึ้น เพื่อเป้าหมายในการสร้างระเบียบวินัยและพื้นฐานให้กับเด็ก จนส่งต่อให้กับทีมชาติชุดใหญ่ เนื่องจากซิโก้ได้รับการแต่งตั้งดูแลงานพัฒนารากหญ้าของฟุตบอลไทย ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ขณะนี้เรากำลังรอดูว่า หน่วยงานที่จะให้การสนับสนุนจะทำอะไรกันได้บ้าง
“เราใฝ่ฝันว่าอยากที่จะมาทำทีมเยาวชนกัน มันสามารถที่จะปรับปรุง เปลี่ยนแปลงพัฒนาตอนเป็นเด็กๆ ได้ง่ายกว่า ซึ่งเป็นแผนงานหากได้รับการสนับสนุนจากหลายๆ ฝ่าย ช่วยๆ กันคิดว่า คงได้เห็นบอลไทยในบอลโลก ในชาตินี้ เพราะฟุตบอลถ้าฝึกตอนที่อายุมากแล้วจะฝึกยาก ถ้าเรามาเน้นฝึกที่เยาวชน เราก็สามารถที่จะฝันไปถึงบอลโลกได้”
ขณะที่ ปวิณ รอดลอยทุกข์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ เชื่อว่าหลังการอบรม น้องๆ เยาวชน จะได้รับความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ รวมทั้งการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง การพัฒนาปฏิภาณไหวพริบ พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์เชิงสร้างสรรค์
“การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม ถือเป็นพันธกิจของบริษัทในการสร้างสังคมและชุมชนที่แข็งแกร่ง ที่ได้ดำเนินธุรกิจอยู่ และกีฬาฟุตบอลก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่ประชาชนคนไทยให้ความสนใจมายาวนาน ดังนั้นซิตี้ ประเทศไทยมีความภาคภูมิใจที่จะสานต่อและส่งเสริมให้การสนับสนุนทีมชาติไทยในปี 2557 นี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันให้ทีมชาติไทยเข้าร่วมแข่งขันในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ 2014 และการแข่งขันซูซูกิคัพ รวมทั้งยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนและส่งเสริมเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติในด้านกีฬา ตลอดจนด้านอื่นๆ อีกด้วย”
นอกเหนือจากการจัดกิจกรรมในวันนั้น ทางซิตี้ยังมีโครงการต่อเนื่อง ในการเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรม “Citi Like & Share Sport Charity” ผ่านเฟซบุ๊ก https://th-th.facebook.com/CitiThailand คือทุกคลิ๊กจากการกดไลก์หรือแชร์หน้าเพจของกิจกรรมนี้ ซิตี้จะร่วมบริจาคเป็นเงิน 9 บาท เพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์กีฬาและลูกฟุตบอลไปมอบให้กับเยาวชนผู้ด้อยโอกาสในชุมชนต่างๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร
suwatmgr@gmail.com
อย่างเช่นกรณีที่สนามโปโล ฟุตบอล พาร์ค เมื่อเร็วๆ นี้ ซิตี้แบงก์ จัดกิจกรรม “ซิตี้ ฟุตบอล คลินิค” โดยคัดเลือกเยาวชนผู้ด้อยโอกาสจากองค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) และชุมชนในเขตกรุงเทพมหานคร กว่า 40 คน ให้ได้เรียนรู้ทักษะและเทคนิคเบื้องต้นของกีฬาฟุตบอลจากโค้ชทีมชาติไทย นำโดย ร.ต.ท.เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือฟุตบอลทีมชาติไทย, ใกล้รุ่ง ตรีจักร์สังข์ และสต๊าฟโค้ชระดับมืออาชีพ
เบื้องหลังความคิดชูกีฬาฟุตบอล
หัสยา หาสิตะพันธุ์ รองผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กร ธนาคารซิตี้แบงก์ เล่าให้ฟังถึงการที่ซิตี้แบงก์เข้ามาสนับสนุนกิจกรรมกีฬาฟุตบอล เพราะเห็นว่าเป็นกีฬายอดนิยมของคนไทย แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ปัจจุบันเด็กไทยให้ความสนใจและเอาจริงเอาจังมุ่งเป็นนักกีฬาน้อยลง แต่กลับใช้เวลาไปกับกิจกรรมอย่างอื่น
“ประกอบกับเมื่อ 2 ปีก่อน มีผลวิจัยชิ้นหนึ่งรายงานในสื่อมวลชนถึงผลสำรวจความต้องการของเด็กๆ ในวาระวันเด็ก ปรากฏว่า เด็กๆ บอกว่าอยากได้โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์และเกม แต่กลับไม่มีคนพูดถึงความต้องการอยากได้อุปกรณ์กีฬา หรือการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ อย่างการฝึกฝนเป็นนักกีฬา”
จากข้อมูลดังกล่าวได้สร้างแรงบันดาลใจให้ซิตี้แบงก์สนับสนุนกีฬาฟุตบอล เพื่อเป็นจุดดึงดูดให้เด็กๆ เยาวชนเอาเวลามาสนใจในเรื่องกีฬา รวมทั้งฝึกให้เด็กๆ มีศักยภาพ มีวินัย และรู้จักการสร้างทีมเวิร์กผ่านการเล่นกีฬา รวมทั้งช่วยลดปัญหาที่เด็กใช้เวลาให้ความสนใจไปกับสิ่งที่ไม่เหมาะสม
หัสยาชี้แจงว่า กิจกรรมนี้เริ่มปี 2556 เป็นปีแรกซิตี้แบงก์ได้สนับสนุนเป็นสปอนเซอร์กีฬาซีเกมส์เยาวชน ซึ่งเป็นกีฬาของกลุ่มเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ซิตี้แบงก์อยากให้การสนับสนุน รวมทั้งเชิญโค้ชฟุตบอลจากทีมฟุตบอลชาติไทย นำโดย เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง มาร่วมกิจกรรมซิตี้ฟุตบอลคลินิคในการฝึกสอนทักษะการเล่นฟุตบอลให้กับลูกๆ ของกลุ่มลูกค้าซิตี้แบงก์ประมาณ 50 คน
การส่งเสริมกิจกรรมกีฬาในปีที่ 2 ซิตี้แบงก์ได้ให้การสนับสนุนกีฬาเอเชียนเกมส์ ซึ่งเป็นทีมชาติชุดใหญ่แทน ขณะที่กิจกรรม “ซิตี้ฟุตบอลคลินิค” ในปีนี้ ได้เชิญเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งเป็นผู้จัดการโค้ชทีมชาติชุดเดิมมาเพิ่มทักษะให้กับเด็กๆ กลุ่มที่ขาดโอกาส เพราะเกียรติศักดิ์หรือ “ซิโก้” ถือเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ปกครองของเด็กๆ อีกด้วย
ส่วนความคาดหวังและการสานต่อในกิจกรรมซิตี้ฟุตบอลคลินิคของซิตี้แบงก์ หัสยามองว่า อยากจะทำต่อไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกันการสนับสนุนกีฬาฟุตบอลถือเป็นดำริของ มร.ดาเรน บัคลีย์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ทั้งนี้ซิตี้แบงก์ไม่อยากจะเป็นเพียงสปอนเซอร์ที่ให้การสนับสนุนกีฬาฟุตบอลเท่านั้น แต่มีความตั้งใจที่จะสร้างกิจกรรมนี้ให้กับลูกค้าและชุมชน ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับ CSR โดยแผนงานข้างหน้า หากจะต่อยอดกับเด็กๆ กลุ่มด้อยโอกาสกลุ่มเดิม คงต้องออกแบบหลักสูตรให้ดีขึ้น รวมทั้งขยายกิจกรรมในแบบเดียวกันในเด็กๆ กลุ่มอื่นมากขึ้น
“ซิโก้” คิดอย่างไรในการสร้างฝัน
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เกริ่นนำกับเด็กๆ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงเวลาเริ่มกิจกรรมว่า “ไม่ต้องการมาเสียเวลา 2 ชั่วโมงแล้วปล่อยผ่านไป วันนี้เป็นการปูพื้นฐานทั้งหมด ถ้าเราอยากมีในสิ่งที่ไม่มีก็ต้องฝึกทุกวัน พละกำลังไปฝึกเอาตอนอายุ 16-17 ปี แต่ตอนนี้เบสิกต้องแน่น เทคนิคต้องมี ขอให้ทุกคนตั้งใจในการฝึกเลี้ยงลูก การยิง-การส่งบอล ในแบบฉบับมาตรฐานของฟีฟ่ามาใช้ในวันนี้ด้วย”
“อยากให้พวกเรารู้ว่า ถ้าอยากประสบความสำเร็จในการเล่นฟุตบอล “มาก่อน กลับทีหลัง” หมายความว่า มาซ้อมก่อนโค้ช กลับทีหลังโค้ช”
“เมื่อเราเลือกที่จะเล่นฟุตบอล จะต้องทนต่อการฝึกซ้อมที่หนัก ต้องการให้พวกเรากลับไปคิดว่า ถ้าเราอยากจะเป็นนักฟุตบอลระดับทีมชาติ ต้องซ้อมหนัก เหนื่อย และร้อนแค่ไหน พวกเราต้องคิดด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้ครูมาจ้ำจี้จ้ำไชบอก”
“วันนี้พี่โก้ให้อาวุธประจำกายพวกเรา นักกีฬาขาแข้งต้องแข็งแรง เทคนิคอยู่ที่ตัวเราเอง ถ้าเราไม่ซ้อม อย่าหวังว่าคนอื่นจะมาบังคับให้พวกเราซ้อม วันนี้พวกเรากลับไปแล้วไปนอนฝัน ตั้งความฝัน ตั้งเป้าหมายว่าเราอยากไปเป็นทีมชาติ เราจะซ้อมเอง ขยันเอง”
“ถ้าได้ฟังจากพี่โก้แล้ว จะต้องมีวินัยและความฟิต ถ้าไม่มีวินัย ไม่มีความฟิต ไม่ต้องมาเจอกัน เพราะทีมชาติไม่ต้องการ ทีมชาติต้องการคนมีวินัยและความฟิต เก่งไม่กลัว ความเก่งสู้กันได้ พี่ซิโก้ไม่ต้องการคนเก่ง โอกาสข้างหน้าคงได้เจอกัน อยากให้พวกเราติดทีมชาติ หรือเล่นฟุตบอลอาชีพ ถ้ามาต้องมาเต็มร้อย ถ้าไม่เต็มร้อย อย่าเสียเวลา ถ้ามาเล่นเพื่อสนุกสนาน หรือเล่นไปวันๆ เล่นโชว์สาว หรือเล่นไม่จริงจัง ให้กลับไปเรียน”
ด้วยคำพูดของโค้ชทีมชาติไทยที่ทั้งปลุกทั้งท้าทายเยาวชนให้มีความฝันและความมุ่งมั่นใฝ่สูงสู่เส้นทางนักฟุตบอลทีมชาติในอนาคต ที่ต้องมีความอดทนและวินัยชั้นสูง
ผู้ถูกจุดประกายรู้สึกอย่างไร
ด.ช.พิพัฒน์ เวียงสุข หรือน้องอาม อายุ 12 ปี จากโรงเรียนปลูกจิต ตัวแทนเยาวชนจากชุมชนบ่อนไก่ เปิดใจหลังร่วมกิจกรรมซิตี้ ฟุตบอล คลินิคตลอด 2 ชั่วโมงว่า ความรู้เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลที่ได้รับในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงบอล โหม่งบอล ส่งบอล จะนำกลับไปใช้ฝึกฝนในเวลาซ้อมกับเพื่อนๆ ซึ่งเตะฟุตบอลหลังเลิกเรียนตอนเย็นเป็นประจำ ส่วนตัวมีความฝันอยากเป็นนักกีฬาทีมชาติในอนาคต
ด.ช.อภิชาติ สุวรรณฉิม หรือน้องแบงค์ อายุ 14 ปี จากโรงเรียนศรีอยุธยา ตัวแทนเยาวชนจากชุมชนหลังวัดปทุมวนาราม ภายใต้การดูแลขององค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) บอกว่า ปัจจุบันเป็นนักกีฬาฟุตบอลของรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี เล่นในตำแหน่งกองกลาง รู้สึกดีใจ ตื่นเต้น ที่ได้มาเรียนรู้ทักษะการเล่นกีฬาฟุตบอลจากพี่ซิโก้ โค้ชทีมชาติไทย ทั้งเลี้ยงบอล ส่งบอล ยิงบอล ได้รับเทคนิคต่างๆ เพิ่มขึ้น ทำให้มีแรงบันดาลใจที่จะสานฝันของตัวเองเป็นนักกีฬาในระดับทีมชาติให้ได้
ด.ญ.พัชราพร แถวพันธ์ หรือน้องฟ้า นักเรียนชั้นประถมปีที่ 5 โรงเรียนปลูกจิต ตัวแทนเยาวชนจากชุมชนบ่อนไก่ ปัจจุบันเป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียน เล่นได้ทั้งกองหน้า กองหลัง เคยมีประสบการณ์การคัดเลือกเพื่อไปฝึกฝนทักษะฟุตบอลที่ประเทศสวีเดน แต่ไม่ผ่านเนื่องจากอายุไม่ถึงเกณฑ์และตัวเล็กเกินไป การเข้าร่วมกิจกรรม ซิตี้ฟุตบอล คลินิค วันนี้เธอได้ความรู้ เทคนิคด้านกีฬาฟุตบอลเพิ่มขึ้นจากโค้ชซิโก้ เกียรติศักดิ์ รู้สึกดีใจและสนุกมาก อนาคตอยากเป็นนักกีฬาทีมชาติ
ประเมินสถานการณ์มีความหวังแค่ไหน
“ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า แม้เยาวชนกลุ่มนี้จะเป็นเด็กขาดโอกาส แต่ถ้าพลิกมุมมอง เขามีโอกาสที่จะพลิกชีวิตได้ อย่าคิดว่าตัวเองขาดโอกาสตลอดไป เด็กอีกหลายคนยังไม่มีโอกาสเรียนรู้จากซิโก้ จากโค้ชรุ่ง แต่วันนี้ได้โอกาสที่ดีกว่าคนอื่นๆ
“ฉะนั้นเมื่อมีโอกาสแล้วอย่าปล่อยให้หลุดลอย เพราะโอกาสของคนเราชีวิตจะพลิกผันได้แค่ครั้งหนึ่งในชีวิต”
ซิโก้เผยว่า การสอนในวันนี้เหมือนกับเป็นทีมชาติเยาวชน แต่กีฬาฟุตบอลฝึกซ้อมเพียงวันเดียวให้เก่งไม่ได้ วันนี้จึงพยายามให้แนวความคิดและทัศนคติกับเด็กๆ ก่อนว่า เราให้อาวุธ แต่คุณจะเก่งหรือไม่เก่ง ขึ้นอยู่กับการครองตัว หรือการปฏิบัติตนที่มีวินัยกับการไปซ้อมต่อ ทุกๆ ที่ที่เราไป เราพยายามถ่ายทอดให้เหมือนกับนักกีฬา เพราะว่าวันหนึ่งเราเชื่อว่าเขาจะติดทีมชาติในอนาคต
“เราต้องให้แนวความคิด ทัศนคติกับเขาก่อนว่า อยากเป็นนักฟุตบอลในระดับไหน ถ้าเขารักจริงเขาก็ไปถึงได้ แต่ถ้าเขาไม่รักจริง เขาก็ปล่อย แต่เราเชื่อว่า ถ้าเราไม่พูด ถ้าเราไม่ย้ำ มันไม่มีประโยชน์ สอนก็แค่ 2 ชั่วโมง มันจะทำให้เปลี่ยนชีวิตคน”
ซิโก้มองด้วยว่า ปัจจุบันมีหลายๆ หน่วยงานที่ทำเป็นประจำ ในการเปิดโอกาสให้กับกีฬาฟุตบอลไม่ว่าการจัดคลินิก การจัดทัวร์นาเมนท์ หรือการจัดคัดเลือกนักเตะเพื่อเปิดประสบการณ์ในต่างประเทศ แต่ยังต้องช่วยกันหลายๆ ฝ่าย ส่วนตัวในฐานะกุนซือทีมชาติไทยอยากให้มีตัวเลือกมากๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเสาะแสวงหาเพราะคนเก่ง หรือช้างเผือกมักจะอยู่ในป่า
“วันนี้ไม่ว่าภาครัฐ เอกชน ค่อยๆ ปรับแนวความคิด ทัศนคติด้านซีเอสอาร์ ที่มีการเลือกทำโครงการส่งเสริมกีฬา เพื่อให้เด็กๆ ได้มีโอกาส วันนี้มีหลายๆ หน่วยงานที่เข้ามา ก็ขอบคุณแทนด้วย เพราะเราต้องการบุคลากรที่มาทดแทน ไม่ว่าภาครัฐ เอกชนก็ทำอยู่แล้ว ก็พยายามดูงบมาสนับสนุน ให้มองเด็ก เยาวชนเป็นหลัก เพราะว่าตอนนี้ ไทยลีกของเราก็ประสบความสำเร็จแล้ว เหลือระดับทีมเยาวชนที่ต้องมาทดแทน เพราะเหลือตัวผู้เล่นน้อยลง”
ส่วน “โค้ชรุ่ง” ใกล้รุ่ง ตรีจักร์สังข์ ซึ่งปัจจุบันใช้เวลาช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ฝึกสอนให้กับเยาวชนกล่าวว่า นำรูปแบบการฝึกซ้อมทีมชาติไทยมาสอนเด็กๆ จากการเข้าร่วมกิจกรรมซิตี้ฟุตบอล คลินิค ครั้งนี้พบว่าดูดีกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากเด็กกลุ่มนี้มีทักษะ ทำให้การเรียนการสอนง่ายขึ้น ส่วนตัวเห็นว่า ในจำนวนกว่า 40 คน ดูมีแววอยู่หลายคน
โค้ชรุ่งเผยด้วยว่า ส่วนตัวได้พูดคุยกับซิโก้และเห็นไปในแนวเดียวกันว่า อนาคตอยากจะลดงานลงมาทำงานกับทีมเยาวชนให้มากขึ้น เพื่อเป้าหมายในการสร้างระเบียบวินัยและพื้นฐานให้กับเด็ก จนส่งต่อให้กับทีมชาติชุดใหญ่ เนื่องจากซิโก้ได้รับการแต่งตั้งดูแลงานพัฒนารากหญ้าของฟุตบอลไทย ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ขณะนี้เรากำลังรอดูว่า หน่วยงานที่จะให้การสนับสนุนจะทำอะไรกันได้บ้าง
“เราใฝ่ฝันว่าอยากที่จะมาทำทีมเยาวชนกัน มันสามารถที่จะปรับปรุง เปลี่ยนแปลงพัฒนาตอนเป็นเด็กๆ ได้ง่ายกว่า ซึ่งเป็นแผนงานหากได้รับการสนับสนุนจากหลายๆ ฝ่าย ช่วยๆ กันคิดว่า คงได้เห็นบอลไทยในบอลโลก ในชาตินี้ เพราะฟุตบอลถ้าฝึกตอนที่อายุมากแล้วจะฝึกยาก ถ้าเรามาเน้นฝึกที่เยาวชน เราก็สามารถที่จะฝันไปถึงบอลโลกได้”
ขณะที่ ปวิณ รอดลอยทุกข์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ เชื่อว่าหลังการอบรม น้องๆ เยาวชน จะได้รับความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ รวมทั้งการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง การพัฒนาปฏิภาณไหวพริบ พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์เชิงสร้างสรรค์
“การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม ถือเป็นพันธกิจของบริษัทในการสร้างสังคมและชุมชนที่แข็งแกร่ง ที่ได้ดำเนินธุรกิจอยู่ และกีฬาฟุตบอลก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่ประชาชนคนไทยให้ความสนใจมายาวนาน ดังนั้นซิตี้ ประเทศไทยมีความภาคภูมิใจที่จะสานต่อและส่งเสริมให้การสนับสนุนทีมชาติไทยในปี 2557 นี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันให้ทีมชาติไทยเข้าร่วมแข่งขันในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ 2014 และการแข่งขันซูซูกิคัพ รวมทั้งยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนและส่งเสริมเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติในด้านกีฬา ตลอดจนด้านอื่นๆ อีกด้วย”
นอกเหนือจากการจัดกิจกรรมในวันนั้น ทางซิตี้ยังมีโครงการต่อเนื่อง ในการเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรม “Citi Like & Share Sport Charity” ผ่านเฟซบุ๊ก https://th-th.facebook.com/CitiThailand คือทุกคลิ๊กจากการกดไลก์หรือแชร์หน้าเพจของกิจกรรมนี้ ซิตี้จะร่วมบริจาคเป็นเงิน 9 บาท เพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์กีฬาและลูกฟุตบอลไปมอบให้กับเยาวชนผู้ด้อยโอกาสในชุมชนต่างๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร
suwatmgr@gmail.com