xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดทุนอาเซียนตื่นตัว เร่งพัฒนา CG ชี้ บจ.ไทยต้องรีบปรับปรุง 3 หมวด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดร. บัณฑิต นิจถาวร
•บรรษัทภิบาล บจ.ไทยเฉือนชนะ บจ.มาเลเซีย และ สิงคโปร์ ด้วยคะแนน 75.39
•มี 3 หมวด ที่ CG ของ บจ.ไทย รั้งที่ 3
•เผย17 บจ.ไทย ทำแต้มเกิน 90 คะแนน
•แนะต้องเร่งเครื่องพัฒนามาตรฐาน CG ด้านการกําหนดนโยบาย (Form) ควบคู่กับการนํานโยบายไปปฏิบัติจริงให้เกิดผลเป็นรูปธรรม (Substance) และจัดให้มีการรายงานผลการปฏิบัติ

ผลสํารวจการกํากับดูแลกิจการ บริษัทจดทะเบียนไทยตามโครงการ ASEAN CG Scorecard ประจําปี 2556/57 ปรากฎว่าบริษัทจดทะเบียนไทยยังรักษาความเป็นผู้นําที่ได้คะแนนเฉลี่ยสูงสุดตามมาตรฐาน ASEAN CG Scorecard โดยมีคะแนนเฉลี่ย 75.39 คะแนน รองลงมา คือ ประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 71.69 และ 71.68 ตามลําดับ
จากการจัดอันดับคะแนนของบริษัทจดทะเบียนในภูมิภาคอาเซียนที่ทําการสํารวจในโครงการนี้ จํานวน 529 บริษัท พบว่า มีบริษัทจดทะเบียนไทย จํานวน 4 แห่ง ติดใน TOP 10 และจํานวน 18 แห่ง ติดใน TOP 50
จากผลสํารวจเฉพาะบริษัทจดทะเบียนไทยจํานวน 100 บริษัท ที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงสุด 100 อันดับแรก ณ วันที่ 30 เมษายน 2556 โดยเป็นบริษัทที่มีข้อมูลเผยแพร่ในรายงานประจําปีฉบับภาษาอังกฤษบนเว็บไซต์ของแต่ละบริษัทนั้น พบว่า บจ.ไทย ได้รับคะแนนเฉลี่ย 75.39 คะแนน สูงกว่าปี 2555/56 ที่ได้คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 67.66 คะแนน
ดร. บัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) เปิดเผยว่า จากผลสํารวจแสดงถึงบริษัทจดทะเบียนไทยมีพัฒนาการที่ดีขึ้น รวมทั้งยังรักษาผู้นําของภูมิภาคอาเซียนไว้ได้ แสดงถึง ความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยมากขึ้น ซึ่งนอกจากประเด็นมีผลตอบแทนที่ดี ยังคำนึงการเป็น บจ.ที่บริหารกิจการด้วยหลักธรรมาภิบาล คำนึงถึงผลตอบที่ดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นอีกแรงจูงใจที่มีบทบาทดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของบริษัทจดทะเบียนไทยยังจะต้องพัฒนาต่อไปอีกในหลายประเด็น เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตลาดทุนของไทยในแง่การกํากับดูแลกิจการที่ดี โดยเฉพาะการพัฒนามาตรฐาน CG ทั้งในแง่การกําหนดนโยบาย (Form) ควบคู่ไปกับการนํานโยบายไปสู่การปฏิบัติจริงให้เกิดผลเป็นรูปธรรม (Substance) และจัดให้มีการรายงานผลการปฏิบัติให้สังคมได้รับทราบดังกล่าว
CG ไทยได้สูงสุด 2 หมวด
ที่น่าสนใจ คือในการพิจารณาคะแนนที่มี 5 หมวดนั้น บริษัทจดทะเบียนไทยได้คะแนนเฉลี่ยสูงสุด เมื่อเทียบกับประเทศในอาเซียนอีก 5 ประเทศ (อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม) ก็คือ หมวดสิทธิของผู้ถือหุ้น และการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน
ส่วนหมวดการคํานึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การเปิดข้อมูลและความโปร่งใส และหมวดความรับผิดชอบของคณะกรรมการนั้น ไทยได้รับคะแนนเป็นอันดับ 3 เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ซึ่งเป็น หมวดที่บริษัทจดทะเบียนไทยควรจะต้องเร่งพัฒนาต่อไป เพื่อสร้างความเชื่อมั่นมากขึ้นให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ และส่งเสริมให้หุ้นไทยเป็นหลักทรัพย์อาเซียนที่น่าลงทุน
สิ่งที่ต้องมีการปรับปรุงเร่งด่วน คือ การเปิดเผยข้อมูลการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นของกรรมการและผู้บริหารระดับสูง เปิดเผยบทบาทความรับผิดชอบของประธาน เปิดเผยเกณฑ์และกระบวนการประเมินคณะกรรมการ
เผย 17 บจ.ไทย ได้ 90 คะแนนขึ้นไป
ในการสำรวจครั้งนี้ ได้เปิดเผยรายชื่อบริษัทจดทะเบียนไทยที่ได้คะแนนเฉลี่ยเกิน 90 คะแนน มี 17 บริษัท คือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน), บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด ( มหาชน), บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน), บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน), บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน), บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ( มหาชน), บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน), บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียล กรุ๊ป จำกัด ( มหาชน) และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน).-สำนักข่าวไทย
และยังมีบริษัทจดทะเบียนไทยอีก 16 แห่ง ได้คะแนน 80-89 คะแนน และอีก 17 แห่งได้คะแนนระหว่าง 70-79 คะแนน
-ดร.วรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. , ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ตลท. ,ดร.บัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย, ชาลี จันทนยิ่งยง รองเลขาธิการ ก.ล.ต. , สุรงค์ บูลกุล นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย และ ยุทธ วรฉัตรธาร ประธานกรรมการและกรรมการตรวจสอบ บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ร่วมงานประกาศผลสำรวจการกำกับดูแลกิจการของ บจ.ไทย ตาม Asean CG Scorecard
ก.ล.ต. ผนึกตลาดหลักทรัพย์ฯ หนุนธุรกิจไทยสู่เวทีสากล
โครงการ Asean CG Scorecard เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนารวมตลาดทุน ASEAN Capital Markets Forum (ACMF) ซึ่งในการพัฒนาหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของภูมิภาคอาเซียนโดย ACMF นั้นเกิดขึ้นจากความร่วมมือของ ก.ล.ต. ในภูมิภาคอาเซียน
ดร.วรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่าการประเมินการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทย ตามโครงการนี้เป็นการช่วยยกระดับคุณภาพของบริษัทจดทะเบียนให้ตั้งอยุ่บนพื้นฐานของบรรษัทภิบาลที่ดีและมีมาตรฐานระดับสากล ซึ่งจะสร้างประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อนานาชาติเข้ามาทำธุรกิจ
ด้าน ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้กล่าวสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนไทยมีการพัฒนาด้านคุณภาพโดดเด่น โดยการพัฒนาไปสู่ความยั่งยืนด้วยการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Society, Governance) ซึ่งแนวคิดที่คำนึงถึงหลักการการพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนดังกล่าวนี้ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ จึงถือว่าเป็นโอกาสดีของบริษัทไทยที่จะดึงดูดการลงทุน พร้อมการสร้างเครือข่ายและพันธมิตรจากต่างประเทศ กล่าวได้ว่าเป็นการสร้างสมดุลด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
กำลังโหลดความคิดเห็น