อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ บริษัทอีเว้นท์อันดับ 7 ของโลก 3 ปีซ้อน ประกาศเจตนารมย์ผ่านความร่วมมือกับโครงการ “ห่วงใคร ให้ใส่หมวก” โดย สสส. เดินหน้าสร้าง "องค์กรต้นแบบ ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย 100% โดยให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยต่อพนักงาน และกระตุ้นจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม
เกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เนื่องจากธุรกิจของอินเด็กซ์ฯ เป็นธุรกิจที่ดำเนินอยู่ภายใต้ ไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ เพราะฉะนั้น คนหรือบุคลากร คือ ทรัพยากรที่สำคัญขององค์กร ที่ผ่านมา ทางอินเด็กซ์ฯ จึงตระหนักถึงนโยบายในด้านการดูแล รักษาความปลอดภัยสำหรับพนักงานในการทำงานทุกระดับ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับงานโครงสร้าง ระบบแสง เสียงในงานอีเว้นท์ต่างๆ โดยเข้มงวดในการตรวจเช็คระบบของอุปกรณ์อย่างเคร่งครัด ให้ความใส่ใจรายละเอียด แม้กระทั่งในเรื่องเครื่องแต่งกาย
เช่น มีออกแบบให้เป็นสีสะท้อนแสง กางเกงขายาว รองเท้าหุ้มส้นเพื่อปฎิบัติงานในเวลากลางคืน รวมถึงยังมีหมวกนิรภัย เป็นอุปกรณ์เสริมช่วยเพิ่มความปลอดภัยในเวลาเซตอัพงานอีกด้วย และทางบริษัทฯ ยังมีการทำประกันอุบัติเหตุคุ้มครองทั้งพนักงาน ลูกค้า และผู้เข้าชมงานอีกด้วย เหล่านี้ คือ นโยบายที่ทางบริษัทฯ ที่ให้ความใส่ใจ ให้ความสำคัญกับเรื่องของความปลอดภัยในทุกมิติของงาน”
ภายหลังจากทางคณะทำงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เปิดตัวโครงการ “ห่วงใคร ให้ใส่หมวก”และเดินหน้ารณรงค์เชิญชวนทั้งภาครัฐ เอกชน รวมถึงในระดับท้องถิ่น เพื่อร่วมเป็น "องค์กรต้นแบบ ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย 100%"
ทางอินเด็กซ์ฯ ตระหนักถึงอันตรายจากความประมาทไม่สวมหมวกนิรภัยในขณะขับขี่จักรยานยนต์บนท้องถนน ทั้งยังพบความเสียหายมากมาย บาดเจ็บสาหัสจนถึงขั้นเสียชีวิตภายหลังเกิดอุบัติเหตุ ถึงแม้บางครั้งอาจเป็นการปะทะเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งสอดคล้องกับผลการสำรวจอัตราการสวมหมวกนิรภัยของคนไทยโดยมูลนิธิไทยโรดส์ (Thai roads) ตั้งแต่ ปี 2553 - 2555 ที่พบว่า คนไทยมีแนวโน้มสวมหมวกนิรภัยน้อยกว่า 50% และลดลงอย่างน่าเป็นห่วง โดยในปี 2553 สวมหมวกเพียง 44% ปี 2554 อยู่ที่ 46% และปี 2555 ลดลงเหลือเพียง 43%
จึงเป็นที่มาที่ทำให้อินเด็กซ์ฯ เข้าร่วมเป็น "องค์กรต้นแบบ ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย 100%" โดยตั้งเป้าจะรณรงค์ให้พนักงานของอินเด็กซ์ฯ และบริษัทในเครือปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด พร้อมขยายผลไปยังครอบครัว และคนรอบข้างของพนักงานอีกด้วย การเริ่มต้นที่องค์กรและขยายไปยังครอบครัว ก็ถือเป็นการค่อยๆ ปลูกสร้างวางรากฐานความรับผิดชอบต่อตนเอง และสังคมอย่างยั่งยืน” นายเกรียงกานต์กล่าว
สืบเนื่องจากเข้าร่วมเป็นองค์กรต้นแบบในโครงการนี้ ทางอินเด็กซ์ฯ ได้เตรียมแผนการสื่อสารภายในองค์กรเพื่อรณรงค์ ให้ความรู้ พร้อมทั้งการปลูกจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความเข้าใจถึงความสำคัญของการสวมหมวกกันน็อค การขับขี่อย่างปลอดภัยบนท้องถนน ยังเห็นว่าเป็นการปลูกจิตสำนึกให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย
