ในวัน Car Free Day ตรงกับวันที่ 22 กันยายน ของทุกปี ซึ่งถือปฏิบัติกันทั่วโลกนั้น ทางรถไฟฟ้าบีทีเอส ระบบขนส่งมวลชนที่สะดวก รวดเร็ว ช่วยประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก็ได้ร่วมสนับสนุนการจัดกิจกรรม “Bangkok Car Free Day 2013 ร่วมทางทั่วไทย ร่วมใจลดใช้พลังงาน” ในวันเสาร์ที่ 21 และวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2556 เหมือนทุกปี
สุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการ และผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส แจ้งว่า เพื่อให้ผู้เดินทางด้วยรถจักรยานได้รับความสะดวก สามารถนำรถจักรยานขึ้นโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสได้ฟรี ตลอดสาย ในทุกสถานี ตั้งแต่เวลา 06.00 - 21.00 น. โดยจะให้ผ่านทางเข้า - ออกระบบทางประตูพิเศษ นำจักรยานเข้าขบวนรถได้ที่ตู้แรก หรือตู้สุดท้ายของขบวนรถ ซึ่งสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ฮอตไลน์ บีทีเอส โทร. 0 2617 6000
สำหรับงานในปีนี้ กรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สมาคมจักรยานแห่งประเทศไทย ชมรม / กลุ่มผู้ใช้จักรยานในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และชมรมจักรยานต่าง ๆ อีก 76 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีการรวมกลุ่มผู้ใช้จักรยานจาก 23 จุดทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งขบวนปั่นรณรงค์มุ่งสู่บริเวณท้องสนามหลวง ซึ่งเป็นจุดรวมตัวใหญ่ ตั้งแต่เวลา 06.00 และร่วมร้องเพลงชาติพร้อมกันทั่วประเทศพร้อมกับอีก 76 จังหวัด ซึ่งจัดกิจกรรมรณรงค์ในท้องถิ่นของตนเองพร้อมกันทั่วประเทศ แล้วเคลื่อนขบวนจักรยานสีธงไตรรงค์ที่ยาวที่สุดในโลก มุ่งไปสู่เซ็นทรัลเวิลด์ ถนนราชประสงค์ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้จักรยานเป็นอีกทางเลือกในการเดินทาง
“นับว่าเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลหันมาใช้รถขนส่งมวลชน และรถจักรยานเพิ่มขึ้น เพื่อลดการใช้พลังงาน ลดปัญหามลพิษทางอากาศ ที่เป็นปัญหาใหญ่ของโลกอยู่ในปัจจุบัน ตลอดจนเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรและลดการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการทำให้ผู้ใช้จักรยานมีสุขภาพแข็งแรง รวมทั้งร่วมช่วยลดมลพิษ ลดค่าใช้จ่าย ประหยัดพลังงาน และลดปัญหาภาวะโลกร้อน”สุรพงษ์ เลาหะอัญญา กล่าว
Car Free Day ลดใช้รถยนต์ส่วนตัว ช่วยลดพลังงานโลก
“คาร์ฟรีเดย์”......Car Free Day หลาย ๆ ประเทศทั่วโลก รวมทั้ง ประเทศไทย จะร่วมรณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันทิ้งรถบ้าน 1 วัน ถือว่าจะเป็นการกระตุ้นจิตสำนึกของการประหยัดพลังงานกันอีกครั้ง
“คาร์ฟรีเดย์” จัดครั้งแรกที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2537 โดยร่วมกับประชาชนใน 848 เมืองของ 25 ประเทศทั่วโลกผนึกกำลังรณรงค์ให้เกิดการตื่นตัวเพื่อลดพลังงาน หันไปใช้รูปแบบการเดินทางอื่นๆ แทนรถยนต์ส่วนตัว เช่น ใช้รถจักรยาน ใช้คาร์พูล ทางเดียวกันไปด้วยกัน (Car Pool) เดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน เช่น รถไฟฟ้า ใช้รถขนส่งสาธารณะ เช่น รถประจำทาง นอกจากลดการใช้น้ำมันแล้ว ยังช่วยเซฟเงินในกระเป๋า แถมมีข้อดีอีกมากมายทั้งลดปัญหามลพิษ ลดภาวะโลกร้อน ลดปัญหาการจราจรและอุบัติเหตุ นับแต่นั้นมาวันที่ 22 ก.ย. ของทุกปี ก็เป็น “คาร์ฟรีเดย์” ที่คนทั่วโลกรู้จัก
สำหรับประเทศไทยเริ่มรณรงค์ “คาร์ฟรีเดย์” เมื่อปี พ.ศ.2543 และวันที่ 22 ก.ย. นี้ เป็นอีกปี เมื่อกรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย จัดรณรงค์คาร์ฟรีเดย์กระตุ้นต่อมกันอีก ปีนี้เป็นปีที่ 10 ที่จัดต่อเนื่องกันมา โดยหวังให้คนไทยตื่นตัวเรื่องการประหยัดพลังงานกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการงดใช้รถยนต์ส่วนตัวไปทำงาน และใช้วิธีคาร์พูล หรือใช้บริการระบบขนส่งมวลชน เช่น รถไฟฟ้า รถโดยสารประจำทาง เรือโดยสาร และจักรยาน หวังให้ประชาชนตระหนักพร้อมปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดินทาง ตามเจตนารมณ์ “ลดใช้รถยนต์ ช่วยประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม”