xs
xsm
sm
md
lg

Top 5 อุตสาหกรรมกรีน โตเร็วที่สุด ในอเมริกา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


IBISWorld เปิดเผยรายงานผลการจัดอันดับ 5 อุตสาหกรรมกรีนในสหรัฐอเมริกา ที่มีการเติบโตเร็วที่สุด ในรายงานชื่อ Top 10 Fastest-Growth Industries ซึ่งแบ่งเป็นอุตสาหกรรมกรีน 5 อุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอีก 5 อุตสาหกรรม
รายงานชิ้นนี้แสดงให้เห็นการเคลื่อนไหวและการเติบโตของอุตสาหกรรมกรีนซึ่งเป็นของผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ของโลกที่ใส่ใจกับการปรับโมเดลธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเป็นโอกาสในการเติบโตของกิจการ
หลังจากที่เห็นได้ชัดว่าผู้บริโภคที่แสดงความกังวลต่อปัญหาของสิ่งแวดล้อมและปัญหาสุขภาพของตนเองไม่ได้มีท่าทีว่าจะลดน้อย แต่กลับมีความต้องการอย่างจริงใจต่อการมีส่วนร่วมในการดูแลและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

รายงานนี้ได้คัดเลือกอุตสาหกรรมกรีนตามมูลค่ารวมของภาคอุตสาหกรรม หรือบทบาทในการในการสนับสนุนมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวม
แนวคิดของการทำธุรกิจกรีนตามรายงานนี้ หมายถึงการคิดถึงการใช้กลยุทธ์กรีนในการทำธุรกิจที่ประเมินระหว่างทศวรรษที่ผ่านมาระหว่างปี 2002-2012 พบว่ามีตัวขับเคลื่อนมาจาก 2 ตัวหลัก คือ ต้นทุนด้านพลังงานที่สูงขึ้นมากจนไม่อาจจะยอมรับให้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินงานของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ได้อีกต่อไป กับความกังวลต่อปัญหาสภาพแวดล้อมของสาธารณชน

อุตสาหกรรมการผลิตแผงพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นอุตสาหกรรมที่เริ่มต้นนำอุตสาหกรรมอื่นในการเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมกรีนของโลก ด้วยอัตราการเติบโตกว่า 32% ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา
กลยุทธ์ของภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวนี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องการลดการพึ่งพาพลังงานน้ำมัน และพลังงานที่สร้างความสูญเปล่าทางธรรมชาติทั้งหลายสู่พลังงานกรีน ด้วยการที่รัฐบาลได้ให้เงินอุดหนุนอุตสาหกรรมกรีนอย่างต่อเนื่องและมากมาย เพื่อให้พลังงานแสงอาทิตย์สามารถก้าวขึ้นมาทดแทนพลังงานฟอสซิลเดิมให้ได้ และคาดว่าเงินอุดหนุนจากรัฐบาลนี้จะยังคงอยู่อย่างน้อย 5 ปีข้างหน้า จึงคาดว่ารายรับของอุตสาหกรรมแผงพลังงานแสงอาทิตย์จะเติบโตเฉลี่ย 8.2% ต่อปีในระยะต่อไป

อุตสาหกรรมกลุ่มที่สอง ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นอุตสาหกรรมกรีนโดดเด่นของ IBISWorld คือ อุตสาหกรรมการก่อสร้าง ซึ่งได้ตลาดจากความต้องการอาคารสีเขียว และอาคารแบบยั่งยืนมาช่วยชุบชีวิตหลังจากเกิดวิกฤติการณ์ซับ-ไพร์มที่หนักหนากับตลาดอสังหาริมทรัพย์
ความต้องการอาคารกรีนทำให้รายรับของภาคการก่อสร้างเติบโตกว่า 28.9% ในทศวรรษที่ผ่านมา และ เป็นการเติบโตถึง 18.9% เฉพาะในปี 2012
โดยส่วนใหญ่ของอุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นการช่วยพัฒนา ปรับปรุง สร้างอาคารที่ประหยัดพลังงาน ด้วยการใช้วัสดุก่อสร้างแบบใหม่ การออกแบบอาคารให้เป็นกรีน พร้อมกับได้อานิสงค์จากโครงการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐเช่นกัน ด้วยการให้รางวัลผู้ประกอบการที่ได้มาตรฐานการผลิตสินค้าตาม LEED และโครงการ Energy Star ในอีก 5 ปีข้างหน้าคาดว่าอุตสาหกรรมการก่อสร้างอาคารกรีนจะมีรายรับเฉลี่ยไม่น้อยกว่าปีละ 22.8%

ควบคู่กับความใส่ใจในปัญหาของสิ่งแวดล้อมโดยรวม ผู้บริโภคชาวอเมริกันได้เพิ่มการใส่ใจกับสุขภาพของตน โดยเฉพาะผลระทบจากการถูกรังสี UV และความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนังมากขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมครีมกันแดด ซึ่งทำให้ผิวสีแทนโดยไม่ต้องออกแดด ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตสูงถึง 22.7% และ 18.1% เฉพาะปี 2012 รวมทั้งคาดว่ารายรับของธุรกิจประเภทนี้จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10.7%

ในอีก 5 ปีข้างหน้า อุตสาหกรรมการออกกำลังกาย ทั้งแนวใหม่และแนวโยคะก็เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมบริการที่มีอัตราการเติบโตสูงมาก เพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของผู้คนที่หันมาดำเนินชีวิตตามแนวกรีน ไลฟ์ เน้นการมีชีวิตที่แข็งแรง ยืดหยุ่น คล่องตัว
อุตสาหกรรมการออกกำลังนี้มีอัตราการเติบโตกว่า 12.1% ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และ 5.1% เฉพาะปี 2012 โดยคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 4.8% ในอีก 5 ปีข้างหน้า

ท้ายที่สุด คือ อุตสาหกรรมบริการทางการศึกษา หรือ มหาวิทยาลัยที่ก้าวออกมาเป็นแนวหน้าของการพัฒนาสู่ยุคกรีนอีโคโนมีของสหรัฐฯ ทั้งด้วยการปรับหลักสูตรให้มีการศึกษาตามแนวคิดกรีนมากขึ้น การปรับโครงสร้างทางกายภาพและการบริหารจัดการสถาบันให้เป็นแนวทางกรีนมากขึ้น ทำให้ความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้เรียนที่ต้องการผ่านการศึกษาด้านนี้มากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น