xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ใช่แค่แก้ง่วง! 5 ประโยชน์ดีๆ ที่คนดื่ม ‘กาแฟดำ’ อยากบอกต่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลายคนอาจมองว่ากาแฟเป็นเพียงเครื่องดื่มที่ช่วยให้หายง่วง แต่ในทางวิทยาศาสตร์ กาแฟดำที่ชงจากเมล็ดกาแฟแท้ๆ คือแหล่งของ "สารต้านอนุมูลอิสระ" ชั้นดีที่ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายไม่ให้ถูกทำลาย

1. เกราะป้องกันตับและหัวใจ
งานวิจัยพบว่ากาแฟดำมีสารประกอบที่ช่วยลดค่าเอนไซม์ตับที่ผิดปกติ และลดความเสี่ยงต่อโรคตับแข็งหรือไขมันพอกตับได้ดีมาก นอกจากนี้ การดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะยังช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคอัมพฤกษ์อัมพาต

2. เร่งระบบเผาผลาญ
สำหรับสายรักหุ่น คาเฟอีนในกาแฟดำจะช่วยกระตุ้นระบบเมตาบอลิซึม (Metabolism) ให้ทำงานเร็วขึ้น 3-11% ทำให้ร่างกายดึงไขมันสะสมออกมาใช้เป็นพลังงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะหากดื่มก่อนออกกำลังกาย จะช่วยให้เราออกกำลังกายได้นานขึ้นและเผาผลาญได้มากกว่าปกติ

3. บำรุงสมอง ห่างไกลอัลไซเมอร์
คาเฟอีนไม่ได้แค่ทำให้ตื่นตัว แต่ยังช่วยเพิ่มระดับโดปามีนในสมอง ซึ่งส่งผลดีต่ออารมณ์และสมาธิ งานวิจัยในกลุ่มผู้สูงอายุระบุว่า การดื่มกาแฟดำเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอัลไซเมอร์และโรคพาร์กินสันได้ถึง 30-60%

4. ลดความเสี่ยงเบาหวานประเภทที่ 2
กาแฟดำช่วยปรับสมดุลการตอบสนองต่ออินซูลินของร่างกาย ทำให้ร่างกายจัดการกับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น (ตราบเท่าที่คุณไม่ใส่น้ำตาลเพิ่มลงไปเอง)


ดื่มวันละกี่แก้วถึงจะพอดี?


ปริมาณที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดและไม่เกิดผลข้างเคียง (เช่น ใจสั่น หรือนอนไม่หลับ) คือ 3-4 แก้วต่อวัน (หรือรับคาเฟอีนไม่เกิน 400 มิลลิกรัม)

1-2 แก้วแรก: ช่วยเรื่องการตื่นตัวและระบบหัวใจ

3-4 แก้ว: ช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังต่างๆ

ข้อควรระวัง: หากดื่มเกิน 5 แก้วขึ้นไป อาจเริ่มส่งผลเสียต่อความดันโลหิตหรือทำให้เกิดอาการกระสับกระส่ายได้ในบางคน

ดื่มกาแฟตอนไหนดีที่สุด?

การดื่มกาแฟทันทีที่ตื่นนอนอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด เพราะร่างกายมีฮอร์โมน "คอร์ติซอล" (ฮอร์โมนแห่งความตื่นตัว) สูงอยู่แล้วในช่วงเช้าตรู่

ช่วงสาย (09:30 – 11:30 น.): เป็นช่วงที่ระดับคอร์ติซอลเริ่มลดลง การดื่มกาแฟช่วงนี้จะช่วยเติมพลังงานได้ถูกจังหวะที่สุด

ช่วงบ่าย (13:00 – 15:00 น.): ช่วยลดอาการง่วงนอนหลังมื้อเที่ยง และกระตุ้นสมาธิในการทำงานช่วงบ่าย

ก่อนออกกำลังกาย 30 นาที: เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญและพละกำลัง

คำแนะนำ: ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟหลัง 16:00 น. เป็นต้นไป เพื่อป้องกันไม่ให้คาเฟอีนไปรบกวนคุณภาพการนอนหลับของคุณ

หากคุณยังไม่ชินกับรสขม ลองเริ่มจากการชงแบบ "อเมริกาโน่เย็นไม่ใส่น้ำตาล" หรือใช้เมล็ดกาแฟคั่วอ่อน (Light Roast) ซึ่งจะมีรสสัมผัสเปรี้ยวผลไม้และดื่มง่ายกว่าคั่วเข้ม


กำลังโหลดความคิดเห็น