ปัจจุบัน คนไทยเป็นโรคเบาหวานมากขึ้น และเริ่มพบในกลุ่มที่มีอายุน้อยลง ซึ่งปัจจัยสำคัญของโรคเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีไขมัน และน้ำตาลสูงมากจนเกินไป รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน โรคเบาหวานมักพบในวัยทำงาน เนื่องจากเป็นวัยที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ กินอาหารไม่เป็นเวลา ทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์หลายชั่วโมงต่อวัน ขยับตัวน้อย นอนดึก และไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดเป็นปัญหาสะสมระยะยาว หลายคนอาจไม่รู้ว่า น้ำหนักที่ขึ้นเพียงเล็กน้อย ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงภัยเงียบอย่าง “โรคเบาหวาน” ที่กำลังเข้ามาโดยไม่รู้ตัว
พญ.ภัทรวรรณ โกมุทบุตร อายุรแพทย์เฉพาะทางโรคต่อมไร้ท่อและเมตะบอลิซึม โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า เบาหวาน เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายผลิตอินซูลินไม่เพียงพอ หรือเซลล์ในร่างกายดื้อต่ออินซูลิน ส่งผลให้น้ำตาลไม่สามารถเข้าสู่เซลล์ได้ตามปกติ และหากร่างกายมีไขมันสะสมมากเกินไป เซลล์ในร่างกายจะตอบสนองกับอินซูลินได้น้อยกว่าปกติ และส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
แล้วส่งผลเสียอย่างไร? เมื่อน้ำตาลในเลือดสูงอยู่ตลอดเวลา หากปล่อยไว้นานโดยไม่ปรับพฤติกรรม จะนำไปสู่ภาวะ เบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ร่วมด้วย เช่น โรคหัวใจ ไตวาย ตาบอด หรือปลายประสาทเสื่อม
ทุกคนสามารถลดความเสี่ยงเบาหวานด้วยเทคนิค 3 อ. ง่ายๆ คือ..
•อาหาร ควบคุมอาหาร รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม ควบคุมอาหาร จำกัดปริมาณและแคลอรี่ เลี่ยงอาหารที่ให้พลังงานสูง น้ำหวาน อาหารที่เติมน้ำตาล อาหารทอด กะทิ เบเกอรี่
•ออกกำลังกาย ขยับร่างกายสม่ำเสมอ
•อารมณ์ ปรับสมดุลทางอารมณ์ ไม่เครียด
เรียนรู้วิธีจัดการอารมณ์ หรือฝึกสมาธิ เพื่อลดความเครียด เพราะความเครียด จะทำให้ร่างกาย หลั่งฮอร์โมนติซอล ซึ่งจะกระตุ้นให้ระดับน้ำตาลในร่างกายสูงขึ้น
สุขภาพดีเริ่มต้นได้จากตัวเรา เพียงแค่ปรับพฤติกรรมเล็กๆ ในทุกวัน ก็สามารถลดความเสี่ยงโรคเบาหวานได้ เริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อชีวิตที่แข็งแรงและยั่งยืนในวันข้างหน้า
ศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อ โรงพยาบาลหัวเฉียว ให้บริการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน และให้การรักษาโรคเบาหวาน ครอบคลุมโรคแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น เบาหวานขึ้นตา โรคไต โรคหัวใจ และการเป็นแผลเรื้อรัง


