“อาการไอแห้ง” สัญญาณของสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกาย

หากคุณเกิดพลาดไปโดนสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายเมื่อไหร่ นั่นคือสัญญาณของการเจ็บป่วยนั่นเอง ซึ่ง “ภาวะอาการไอแห้ง” นั้น ก็เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยในคนเรา ซึ่งถ้าเรามีการป้องกัน ก็อาจจะช่วยให้พ้นอาการดังกล่าวได้

“ภาวะไอแห้ง” คืออะไร

ก่อนอื่น ต้องทราบก่อนว่า ภาวะไอ หมายถึง การที่ร่างกายกำจัดสิ่งแปลกปลอม หรือ บางอย่างที่ทำให้เกิดการระคายเคืองในร่างกายออกในรูปแบบของสารคัดหลั่ง ซึ่งจัดอยู่ในประเภทของโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ซึ่งการไอนั้นเกิดจากหลายสาเหตุ บางครั้งสาเหตุอาจจะมาจากการเกิดโรคแทรกซ้อน โดยสิ่งที่น่ากลัวของโรคนี้คือ สามารถที่จะแพร่เชื้อออกไปยังผู้อื่นได้ โดยการไอจะถูกปล่อยสารคัดหลั่ง ไม่ว่าจะเป็นน้ำลาย น้ำมูก ที่จะลอยไปในอากาศ

ส่วน “ภาวะไอแห้ง” นั้น เป็นอาการไอแบบไม่มีเสมหะ ผู้ไอจะมีอาการไอแห้งและคันคอ เหมือนมีสารแปลกปลอมอยู่ในคอ ซึ่งบางรายอาจจะมีอาการเจ็บหน้าอกร่วมด้วย

ขณะเดียวกัน ก็มีปัจจัยอื่นร่วมด้วย คือ

- สูบบุหรี่
-อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษติดต่อกันเป็นเวลานาน เช่น เจอฝุ่นควัน
-อาจเป็นผลจากบางปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคหืด กรดไหลย้อน เสมหะในคอ โรคภูมิแพ้ โควิด-19

การรักษา

-ใช้ยา
-ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
-กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ
-ดื่มน้ำให้เพียงพอ
-ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ

การป้องกัน “ภาวะไอแห้ง”

-ดื่มน้ำมาก ๆ
-นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
-พยายามหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ร่างกายได้พักอย่างแท้จริง
-รับประทานยาตามแพทย์สั่ง
-หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นอาการไอ

แต่อย่างไรก็ตาม หากมีอาการไอ ที่กินเวลาถึง 3–4 สัปดาห์ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาให้หายขาด รวมถึงหากมีอาการไอแห้งร่วมกับอาการอื่นที่รุนแรงขึ้น เช่น มีไข้ เจ็บหน้าอก ไอเป็นเสียงหวีด หายใจลำบากหรือหายใจไม่อิ่ม ไอเป็นเลือด ไอแบบมีเลือดเจือปน หรือมีอาการคล้ายขาดน้ำ นั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงประกอบจาก : โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลพญาไท และ pobpad.com