จากกรณีที่มีนักร้องชายท่านหนึ่งเกิดการติดเชื้อวัณโรคมาจากเพื่อนสนิทที่เสียชีวิตไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่อาการเพิ่งแสดงออกเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งหลายๆ คน ก็อาจจะติดเชื้อภาวะดังกล่าวได้อย่างไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน ฉะนั้นแล้ว เรามาทำความเข้าใจกับภาวะโรคนี้กัน เพื่อจะเป็นการป้องกันโรคได้ไปในตัว
“วัณโรค” คืออะไร
สำหรับ “วัณโรค” นั้น เป็นโรคที่ติดเชื้อแบคทีเรียผ่านทางอากาศ โดยเชื้อที่ว่านี้ คือ ไมโคแบคทีเรียม ทูเบอร์คูโลซิส ซึ่งผู้ที่ติดเชื้อโดยส่วนใหญ่นั้น มักจะไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมา ยังอยู่ในสภาพปกติ แต่มักจะแสดงอาการที่ปอด เพราะเชื้อแบคทีเรียที่ว่านี้ จะมีการติดต่อผ่านทางระบบหายใจ จนทำให้เชื้อเช้าปอดได้ง่ายในที่สุดนั่นเอง
เชื้อวัณโรคติดต่อได้อย่างไร
โดยเชื้อวัณโรคเข้าสู่ร่างกายผ่านการหายใจรับเชื้อโรคที่ปะปนอยู่ในอากาศ ขณะที่ผู้ป่วยไอ จาม บ้วนน้ำลาย หรือขากเสมหะ ซึ่งเชื้อดังกล่าวจะกระทบไปในอากาศหรือกระจายอยู่ตามวัตถุ ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ
ดังนั้น สมาชิกในครอบครัว ผู้ร่วมอาศัย รวมถึงเพื่อนร่วมงานที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยวัณโรค โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคพิษสุราเรื้อรัง โรคเอดส์ ควรระมัดระวัง และรีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองวัณโรคว่าได้รับเชื้อหรือมีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด
อาการเตือนของ “วัณโรค”
-มีการไอติดต่อกันนาน 2 สัปดาห์
-น้ำหนักลด เบื่ออาหาร
-ไอหรือเสมหะมีเลือดปน
-มีอาการไข้เรื้อรัง หรือมีไข้โดยไม่ทราบสาเหตุ
-เหงื่อออกมาในตอนกลางคืน
-เกิดอาการอ่อนเพลีย
-ผิวหนังซีด เหลือง
ข้อควรปฏิบัติในผู้ป่วยวัณโรค
-กินยาให้ครบตามที่แพทย์กำหนด
-ผู้ป่วยควรแยกห้องนอนและหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้อื่นในช่วงแรกของการรักษา
-ในขณะที่ไอหรือจาม จะต้องใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูก และ บ้วนเสมหะลงในภาชนะที่ปิดมิดชิด แล้วนำไปทิ้งในถังขยะเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
-รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทาน
-ออกกำลังกายได้ตามความเหมาะสม
-อยู่ในสถานที่หรือห้องที่มีลักษณะโปร่ง โล่ง มีหน้าต่างที่สามารถถ่ายเทอากาศได้สะดวก
ข้อควรหลีกเลี่ยงเมื่อป่วยเป็นวัณโรค
-งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
-ทำการหลีกเลี่ยงการใช้ยาอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับอักเสบจากการใช้ยา
-หลีกเลี่ยงการเดินทางในที่สาธารณะที่มีผู้คนแออัด เช่น โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า หรือการเดินทางด้วยยานพาหนะร่วมกับผู้อื่นเป็นเวลานาน
-หลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์และการใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเอสโตรเจนในระหว่างรักษาวัณโรค เพราะจะทำให้การคุมกำเนิดไม่ได้ผล
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท, โรงพยาบาลรวมแพทย์ฉะเชิงเทรา และ โรงพยาบาลศิครินทร์