xs
xsm
sm
md
lg

รับมือกับ “ไมเกรน” อาการปวดหัวสุดทรมาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลาย ๆ คน คงอาจจะมีอาการเจ็บป่วยเรื้อรังกับตัว มากบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่บุคคลกันไป ซึ่งบางรายก็อาจจะเป็นความเคยชินไปแล้ว แต่ก็ยังเรื้อรังอยู่ดี ซึ่งก็รวมไปถึง “ภาวะไมเกรน” ที่หลาย ๆ คน เป็นกัน ซึ่งสาเหตุและวิธีคลายอาการนั้นป็นอย่างไร มารับทราบข้อมูลไปพร้อม ๆ กัน

“ไมเกรน” คืออะไร

ภาวะอาการไมเกรน เกิดมาจากความผิดปกติชั่วคราวของระดับสารเคมีในสมอง ทำให้ก้านสมองถูกกระตุ้น จนทำให้หลอดเลือดในเยื่อหุ้มสมองมีการบีบและคลายตัวมากกว่าปกติ และส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวตุ้บ ๆ หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจียน แพ้แสง จากก้านสมองที่ถูกกระตุ้นนั่นเอง


อาการของ “ไมเกรน”

-มีการปวดศีรษะประมาณครึ่งซีก อาจเป็นตรงบริเวณขมับหรือท้ายทอย แต่บางครั้งก็อาจเป็นสองข้างพร้อมกันหรือเป็นสลับข้างกันได้

-ลักษณะการปวดศีรษะส่วนมากจะปวดตุ๊บๆ นานๆครั้งหรึอเกิน 20นาที (ยกเว้นจะได้รับประทานยา) แต่บางครั้งถ้าเป็นรุนแรง อาจปวดนานเป็นวัน ๆ หรือสัปดาห์ก็ได้ผู้ป่วยบางรายอาจมีปวดตื้อๆสลับกับปวดตุ๊บๆในสมองก็ได้

-อาการปวดศีรษะมักรุนแรง และส่วนมากจะมีการคลื่นไส้ หรืออาเจียนร่วมด้วยเสมอ โดยอาจเป็นขณะปวดศีรษะ ก่อนหรือหลังปวดศีรษะก็ได้ บางรายมีอาการคลื่นไส้อาเจียนมากจนรับประทานอะไรไม่ได้

-อาการนำจะเป็นอาการทางสายตา โดยจะมีอาการนำมาก่อนปวดศีรษะราว 10-20 นาที เช่น เห็นแสงเป็นเส้นๆ ระยิบระยับ แสงจ้าสะท้อน หรือเห็นภาพบิดเบี้ยวนำมาก่อน


ปัจจัยของการเกิด ”ไมเกรน”

-ภาวะความเครียด

-การอดนอน

- ขาดการพักผ่อน หรือทำงานมากเกินไป

-เกิดอาการขึ้นขณะมีระดู หรือรับประทานยาคุมกำเนิด

-เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์

-อาหารบางชนิดเช่น กล้วยหอม เนยแข็ง และช็อกโกแลต


3 พฤติกรรมควรทำ สำหรับคนเป็นไมเกรน

1.หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น

ก่อนอื่นเราต้องรู้ตัวเองก่อนว่าอะไรคือปัจจัยกระตุ้นที่ส่งผลกับอาการปวดของเราได้มากที่สุด เช่น การนอนไม่เพียงพอ มีความเครียด การอยู่ในที่อากาศร้อนหรือเย็นเกินไป การมองแสงจ้า เป็นต้น

สำหรับคุณผู้หญิง อาจมีปัจจัยกระตุ้นมาจากฮอร์โมนเฮสโตรเจน และการมีประจำเดือน

2.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ข้อนี้เป็นข้อแนะนำยอดนิยมที่ช่วยป้องกันได้หลายโรค เนื่องจากช่วยในการปรับระดับสารเคมีในร่างกาย ทำให้ร่างกายทำงานได้เป็นปกติ และยังทำให้เกิดการหลั่งสารแห่งความสุข หรือเอ็นดอร์ฟิน อีกด้วย

แต่การออกกำลังกายก็ไม่ควรหักโหม หรือทำอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีวันพัก แนะนำให้เริ่มด้วยการเดินเร็ว หรือการขี่จักรยานใกล้บ้าน หรือกิจกรรมง่าย ๆ ก่อน และควรหมั่นสังเกตตัวเองอยู่เสมอ เนื่องจากสำหรับบางคนแล้ว การออกกำลังกายที่หนักหรือต่อเนื่องเกินไป อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ปวดหัวไมเกรนได้

3.ควรหยุดพัก 10 – 20 นาที เมื่อเริ่มรู้สึกปวดหัวไมเกรน

หากเกิดอาการเมื่อไหร่ ควรแนะนำให้พักในห้องที่มืดและมีอากาศเย็น ไม่อับหรือชื้น มีบรรยากาศเงียบสงบ

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามีอาการปวดหัวไมเกรนยังรุนแรงอย่างต่อเนื่องและไม่ทุเลาลง ควรรีบไปพบแพทย์

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงประกอบจาก : โรงพยาบาลพระราม 9 และ โรงพยาบาลธนบุรี


กำลังโหลดความคิดเห็น