ช่วงนี้กระแสน้ำลำไยค่อนข้างมาแรงมาก ซึ่งผลไม้ชนิดนี้มีหลายสายพันธุ์ มีรสชาติหวาน อร่อย นิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มคลายร้อน ทำขนมต่าง ๆ เช่น ข้าวเหนียวเปียกลำไย ลำไยลอยแก้ว วุ้นลำไย ไอศกรีมลำไย เป็นต้น
โดยลำไยอุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน เส้นใย ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม วิตามินซี วิตามินบี 12 ฯลฯ ซึ่ง ลำไย 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 70 กิโลแคลอรี่
ทั้งนี้ ประโยชน์ของลำไยก็มีมากมาย ได้แก่
-ลำไยมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซีสูง ซึ่งมีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระตัวการทำให้เซลล์เสื่อมสภาพ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
-อุดมไปด้วยวิตามินบี 12 ที่มีส่วนช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง
-อุดมด้วย กาบา (Gaba) ที่มีส่วนช่วยให้ผ่อนคลาย ลดความเครียด หลับสบายขึ้น
-มีเส้นใยอาหาร ช่วยในเรื่องการขับถ่าย
-เป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง กินแล้วสดชื่นขึ้นทันที แก้อาการอ่อนเพลีย ฯลฯ
ข้อควรระวังในการกินลำไย คือ ควรกินแต่พอดี เพราะลำไยมีฤทธิ์ร้อน กินเยอะจะทำให้เกิดอาการร้อนใน อีกทั้งลำไยยังมีน้ำตาลสูง โดยลำไยประมาณ 9-10 ผล มีน้ำตาลเทียบเท่าประมาณ 3.5 ช้อนชาเลยทีเดียว ดังนั้นไม่ควรกินเกินครั้งละ 9-10 ผล เพราะจะทำให้ได้รับน้ำตาลมากเกินความต้องการของร่างกาย เพราะร่างกายคนเราต้องการน้ำตาลวันละ 24 กรัม หรือ 6 ช้อนชาเท่านั้น
นอกจากนี้ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ที่มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ท้องเสีย เจ็บคอ เป็นหวัด ไม่สบาย ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน เพราะอาจส่งผลต่อโรคได้
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงประกอบ : เว็บไซต์พบแพทย์
https://citly.me/RKS41