xs
xsm
sm
md
lg

“อะโวคาโด” ผลไม้มากประโยชน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลาย ๆ คน ก็ทราบกันดีว่า ผลไม้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการรักษาสุขภาพ ในแง่ต่าง ๆ อีกทั้งหากได้รับประทานสิ่งนี้เมื่อไหร่ ก็น่าจะนำเรื่องความชุ่มฉ่ำให้กับตัวเองอยู่ไม่มากก็น้อย แต่ก็มีอีกผลไม้ชนิดหนึ่งที่จะสร้างประโยชน์ให้กับร่างกายอยู่ประมาณหนึ่ง ซึ่ง “อะโวคาโด” ก็คือคำตอบของผลไม้ที่ว่ามานี้

มารู้จักกับ “อะโวคาโด” กัน


อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่ถือได้ว่ามีผลดีต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะมีทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายกว่า 20 ชนิด และมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มาก อีกทั้งยังมีประโยชน์ในอีกหลากหลายด้าน คือ บำรุงสมอง บำรุงดวงตา ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง ไปจนถึงประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่น

ในแง่ของรสชาติ อะโวคาโดมีรสจืดและมีปริมาณของไขมันที่สูง โดยอะโวคาโดปริมาณ 100 กรัม มีไขมัน 15 กรัม ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่า กินแล้วอ้วนแน่ๆ แต่การรับประทานอะโวคาโดนั้นไม่ได้ทำให้อ้วนหรือมีน้ำหนักตัวเพิ่ม เพราะไขมันในอะโวคาโดจัดเป็นไขมันชนิดที่ดี อีกทั้งยังมีน้ำตาลน้อยและมีไฟเบอร์สูง ทำให้รู้สึกอิ่มนาน ช่วยในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

ขณะเดียวกัน โดยปกติ ผลไม้ทั่วไปส่วนใหญ่ให้คาร์โบไฮเดรต แต่อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่ให้ไขมันดีในปริมาณที่สูง เพราะมีประโยชน์กับร่างกายมาก ซึ่งไขมันที่ว่านี้ก็คือ กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ที่ช่วยลดไขมันเลวในเลือด ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ นอกจากนี้ ยังมีสารอาหารชนิดอื่นที่มีประโยชน์อีกมากมาย

คุณค่าโภชนาการและสารอาหารในอะโวคาโด 100 กรัม (ประมาณ ½ ลูก)

พลังงาน 160 กิโลแคลอรี

ไขมันทั้งหมด 15 กรัม ซึ่งเป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 10 กรัม

คาร์โบไฮเดรต 9 กรัม ซึ่งเป็นใยอาหาร 7 กรัม
โปรตีน 2 กรัม

ในคุณค่าทางโภชนาการ อะโวคาโดมีวิตามินและแร่ธาตุสูง เช่น วิตามินบี ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินเค ช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือด วิตามินอี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบในร่างกาย โฟเลท ป้องกันภาวะซีดโลหิตจาง โพแทสเซียม ช่วยควบคุมความดันโลหิต เป็นต้น

ประโยชน์ของอะโวคาโดต่อสุขภาพ

เป็นแหล่งของกรดไขมันชนิดดี

อะโวคาโดมีไขมันชนิดดี คือ กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีประโยชน์ต่อหลอดเลือดแดง เพราะจะช่วยลดไขมันเลวในหลอดเลือด เช่น คอเลสเตอรอลชนิดแอลดีแอล และไตรกลีเซอไรด์ อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการลดโอกาสเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบและโรคหัวใจวายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้

บำรุงระบบประสาทและสมอง

ในวัยหนุ่มสาววัยทำงานที่ต้องใช้ทั้งแรงกายและแรงสมอง ควรรับประทานอะโวคาโดเป็นประจำ เพราะในอะโวคาโดมีกรดโอเลอิก ซึ่งมีผลดีและจำเป็นต่อระบบประสาทและสมอง โดยกรดไขมันชนิดนี้อาจช่วยลดความเหนื่อยล้าของสมอง และช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทให้มีประสิทธิภาพและตอบสนองได้ดีมากยิ่งขึ้น

ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง

ในอะโวคาโดมีวิตามินอี ซึ่งมีฤทธิ์ในการช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันเซลล์ในร่างกายไม่ให้ถูกทำลายจากมลพิษรอบตัวทั้งจากภายในและภายนอก ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมในผู้หญิงได้ เพราะในอะโวคาโดมีลูทีน ซึ่งเป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มของแคโรทีนอยด์

บำรุงและรักษาดวงตา

ในอะโวคาโด มีสารลูทีน และ สารซีแซนทีน ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อสุขภาพดวงตา ที่มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคทางดวงตาหลายชนิด ที่สำคัญคือ โรคต้อกระจก และโรคจุดรับภาพเสื่อม

มีโพแทสเซียมสูง

ในอะโวคาโด 100 กรัม จะมีโพแทสเซียมสูงถึง 14 เปอร์เซนต์ ซึ่งจากการวิจัยพบว่า หากเราได้รับโพแทสเซียมในปริมาณที่มากพอจะสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจ

นอกจากนั้นโพแทสเซียม ยังมีส่วนช่วยในการรักษาสมดุลของน้ำ กรด-ด่างในร่างกายของเราอีกด้วย

มีไฟเบอร์สูง

อะโวคาโดครึ่งลูกมีไฟเบอร์ 6-7 กรัม โดยแต่ละคนมีความต้องการไฟเบอร์ในปริมาณที่แตกต่างกันออกไป ในหนึ่งวัน ผู้หญิงควรได้รับไฟเบอร์ 25 กรัม และผู้ชายควรได้รับไฟเบอร์ 38 กรัม แค่รับประทานอะโวคาโดแค่ครึ่งลูกก็เกือบได้ไฟเบอร์ในปริมาณที่ต้องการในแต่ละวันแล้ว

ขอบคุณข้อมูลจาก : Pobpad.com และ theptarin.com


กำลังโหลดความคิดเห็น