xs
xsm
sm
md
lg

ถอดนิยาม “แนวคิดใหม่” ในการดูแลสุขภาพระดับพรีเมี่ยม ในราคาที่เข้าถึงได้ จากโรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 ที่พร้อมตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพแบบครบวงจร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กว่า 2 ปีกับเงินลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาทจากสามยักษ์ใหญ่อย่าง บริษัท ประกิต โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท สหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) และบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ที่จับมือร่วมทุนจนเกิดเป็น “โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62” ที่มาพร้อมกับ “แนวคิดใหม่” ในการดูแลสุขภาพ มุ่งการดูแลแบบองค์รวม และการรักษาที่มีประสิทธิภาพ โดยมีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง พร้อมตอบโจทย์ทุกการบริการในระดับพรีเมี่ยมด้วยราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งมีการเปิดอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา


เพราะเราเชื่อว่า…
การดูแลสุขภาพจะมองแค่วันนี้ไม่ได้

ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจเพื่อสร้าง “โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62” สู่การเป็นโรงพยาบาลระดับพรีเมี่ยม ที่มาพร้อมการรักษาที่สมบูรณ์แบบ ครบถ้วน ในราคาที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ นั่นถือเป็นปรัชญาและมุมมองที่ นายอภิรักษ์ อภิสารธนรักษ์ กรรมการบริหาร บริษัท ประกิต โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการบริหาร โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 รวมทั้งผู้ร่วมทุนอื่น ๆ ตั้งเป้าไว้ตั้งแต่จุดสตาร์ทเมื่อปี 2562 ทั้งยังเล็งเห็นถึง “ปัญหา” จากพื้นที่บริเวณตั้งแต่เชิงสะพานพระโขนงถึงสี่แยกบางนา ที่มีชุมชนอยู่อย่างหนาแน่น แต่กลับยังไม่มีโรงพยาบาลที่เพียงพอต่อการให้บริการ ในขณะเดียวกันบนทำเลว่างเปล่านี้ ก็ยังมองเห็น “โอกาส” ที่จะต่อยอดและเติบโตในอนาคต

นายอภิรักษ์ อภิสารธนรักษ์ กรรมการบริหาร บริษัท ประกิต โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
“การที่เรารวมตัวกันเปิดโรงพยาบาล เรามองเห็นเทรนด์ในตลาด 2-3 เทรนด์ เทรนด์แรกคือ Middle Income หรือชนชั้นกลาง โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่เราเรียกว่า Premium Middle Income เป็นกลุ่มที่ใหญ่ ซึ่งพอมี Middle Income ที่ใหญ่ ก็เลยมองว่า มันเป็นโอกาสที่จะนำเสนอมุมมองใหม่ ๆ

ส่วนเทรนด์ที่สองคือ Aging Society หรือสังคมผู้สูงวัย ที่ในอนาคต 1 ใน 4 ของประชากรประเทศไทยจะกลายเป็นผู้สูงวัย ซึ่งการดูแลสุขภาพก็จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญ ส่วนสุดท้ายคือในตลาดภูมิภาค ประเทศไทยถือว่ามี Position ที่ดีที่สุดในการที่จะเป็น Medical Hub หรือศูนย์กลางบริการทางการแพทย์ให้กับคนในภูมิภาคอื่น ก็เลยทำให้เรามองว่า เทรนด์เหล่านี้ มันเป็น Mega Trends และมันเกิดขึ้นแน่ ๆ เลยเป็นโอกาสที่ดีที่เราน่าจะทำธุรกิจที่ตอบโจทย์ Mega Trends”

นายแพทย์สุนทร ศรีทา ผู้บริหารและผู้อำนวยการโรงพยาบาลรวมใจรักษ์
ชู “แนวคิดใหม่” ในการดูแลสุขภาพ
ออกแบบการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง

อย่างไรก็ตาม แม้อยู่ในฐานะน้องใหม่ของตลาดธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน แต่นายแพทย์สุนทร ศรีทา ผู้บริหารและผู้อำนวยการโรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 ก็ให้คำตอบด้วยความมั่นใจว่า ณ ตอนนี้ ความพร้อมในการให้การรักษาอย่างเต็มรูป ถือว่ามีเต็ม 100% ทั้งในแง่ของศักยภาพก็ต้องบอกว่า ไม่เป็นรองโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำอื่น ๆ ของประเทศไทย

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมาพร้อมกับ “แนวคิดใหม่ในการดูแลสุขภาพ” ซึ่งก็คือการออกแบบรักษาที่เฉพาะเจาะจงเป็นรายบุคคล (Personalization) อีกหนึ่งทางเลือกใหม่สำหรับผู้ใช้บริการ

“การออกแบบดูแลรักษาเฉพาะบุคคล (Personalization) จะไม่ใช้แค่แพทย์ที่จบการเทรนนิ่งทั่วไป ศัลยกรรมทั่วไป อายุรกรรมทั่วไป กุมารแพทย์ทั่วไป แต่จะรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอนุสาขา เฉพาะโรค ที่จบแบบทั่วไปแล้วจะต้องไปเทรนด์เฉพาะโรคอีก 1-3 ปี แล้วแต่สาขา เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่า คุณมาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ คุณจะไม่ได้เจอแค่แพทย์เฉพาะทาง แต่เจอแพทย์เฉพาะโรค”




ยืนหนึ่งเรื่องการใช้เทคโนโลยี
ตอบโจทย์คนเมืองยุคใหม่

อีกหนึ่งจุดเด่นที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ คือการคัดเลือกและสรรหาเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย และได้มาตรฐาน เช่น เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง CT Scan ที่มีจำนวนสไลซ์ 443 สไลซ์ ถ่ายด้วยระบบภาพถ่ายแบบ 3D ช่วยลดปริมาณรังสีได้กว่า 80% เครื่อง MRI CLINICAL 3.0T TESLA สามารถลดเวลาในการตรวจสูงสุดถึง 50% ห้องปฏิบัติการตรวจสวนหลอดเลือดหัวใจ CATH LAB AZURION 5 C12

ควบคู่ไปกับระบบซอฟแวร์การบริการที่ทันสมัย ทั้งระบบ Hospital Information Systems ระบบบริหารบุคลคล รวมทั้งระบบ Artificial intelligence(AI) เพื่อความรวดเร็ว ถูกต้อง และลดความผิดพลาดจากการทำงานของบุคคล ทำให้การรักษาพยาบาลมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งยังพร้อมมุ่งสู่การเป็นโรงพยาบาลไร้กระดาษ (Paperless Hospital)

“ทุกอย่างเราอยู่บนระบบดิจิทัล มาโรงพยาบาลนี้ที่เราจะให้คนไข้มีแค่ใบเสร็จ ใบรับรองแพทย์ แล้วก็ Wristband ที่เป็นกระดาษ แต่ถ้าคุณสามารถรับ PDF จากสมาร์ทโฟนได้ ใบเสร็จกับใบรับรองแพทย์ก็ส่งเป็น PDF ได้เลย หมอเราใช้ไอแพดในการตรวจคนไข้  การสั่งยา  สั่งการรักษาอะไรต่างๆ  ผ่านระบบคอมพิวเตอร์หมดเลย  เพราะฉะนั้นระบบมันก็จะรวดเร็ว  ขณะเดียวกันก็สามารถป้องกันความผิดพลาดจากการจดบันทึกได้ด้วย ระบบของเราจึงมีคุณภาพมาก” ผู้บริหารและผู้อำนวยการโรงพยาบาล กล่าวเสริม

พญ.จันทรตรี ดารกานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน)
การดูแลรักษาสุขภาพที่ออกแบบมาเฉพาะคุณ
ช่วยให้ผู้ป่วยอุ่นใจทั้งเรื่องโรค และค่าใช้จ่าย

อย่างไรก็ตาม ด้วยผู้ป่วยแต่ละคนมีปัจจัยที่ส่งผลต่อการรักษาแตกต่างกัน เช่น การใช้ชีวิต อาหารการกิน และการตอบสนองต่อการรักษา การออกแบบการรักษาจึงจำเป็นต้องออกแบบมาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยรายนั้น ๆ จริง ๆ ด้วยเหตุนี้ “โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62” จึงมีแพทย์ประจำหอผู้ป่วยในลักษณะของ co-ordinating doctor ที่มีความเข้าใจและใกล้ชิดกับตัวผู้ป่วยค่อนข้างมาก

โดยแพทย์หญิงจันทรตรี  ดารกานนท์ กรรมการผู้อำนวยการบริษัท สหยูเนี่ยน จำกัด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า  แพทย์ประจำหอผู้ป่วยจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการดูแลรักษาตลอด 24 ชั่วโมง หากมีการส่งต่อให้แพทย์เฉพาะทางท่านอื่น ๆ แพทย์ผู้เป็นเจ้าของไข้จะเป็นผู้ดูแลประสานงาน ทำให้มีความต่อเนื่องในการรักษา รวมถึงช่วยตรวจสอบและเฝ้าระวังค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการตรวจรักษาส่วนเกินที่ไม่จำเป็นอีกด้วย

“หมอคุยกับหมอมันจะทำให้วิธีการมันเร็วขึ้น โดยโรงพยาบาลหลายแห่งจะใช้พยาบาล เวลามีอะไรผิดปกติก็ให้พยาบาลโทรมาหาหมอ ซึ่งพยาบาลจะดูได้ไม่ละเอียดเท่าหมอ  ตรงนี้บางโรงบาลก็ทำได้แต่เขาจะทำได้เฉพาะจุด  เช่น  ICU  แต่แพทย์ประจำหอผู้ป่วย ทุกจุดเหมือนโรงพยาบาลเรา โรงพยาบาลไหนที่ทำได้ ยกเว้น ในต่างประเทศอย่างอเมริกาก็มีระบบนี้อยู่”

หรือแม้แต่กลับบ้านไปก็ยังมีบริการต่อเนื่องด้วยระบบ “หมอประจำครอบครัว (Family Doctor)” ซึ่งสามารถขอคำปรึกษาปัญหาสุขภาพผู้ป่วยหรือสมาชิกในครอบครัวได้ตลอดเวลา และตลอดชีวิต โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ

นายณัฐพล เดชวิทักษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน)
หวังสร้างเครือข่ายทางไกล
เพิ่มการเข้าถึงการรักษา

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงการเดินทางในก้าวต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้ นายณัฐพล เดชวิทักษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลว่า “โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62” จะเน้นไปที่เรื่องเทคโนโลยี ซึ่งในอนาคตคงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมทั้งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ทั้งเทคโนโลยีในการรักษา การบริหารจัดการ และการสื่อสารกับคนไข้

“อย่าง TeleHealth เรามองว่า ในปัจจุบันน่าจะมีความสำคัญมากขึ้นในการที่จะทำให้คนไข้สามารถเข้าถึงการรักษาได้โดยที่ไม่ต้องเข้ามาที่โรงพยาบาล นั่นก็เป็นเรื่องหนึ่งที่เราจะเน้น ไม่ว่าจะเป็นรถ Ambulance ของเรา ห้องที่เตรียมไว้สำหรับการสื่อสารกับผู้ป่วยฉุกเฉินข้างนอก ซึ่งเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ แม้กระทั่งว่า ในอนาคตเราคิดถึงขั้นว่า จะสามารถคุยกับคนไข้หรือคุยกับหมอที่อยู่ต่างจังหวัดได้”

“ถ้าเครื่องมือระบบการสื่อสารของเรามันสามารถที่จะทำให้หมอเฉพาะทางของเราสื่อสารกับคุณหมอที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลได้ แล้วสามารถที่จะช่วยเหลือคนไข้ได้   ผมคิดว่าเป็นมุมหนึ่งที่เรามองเพื่อทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงการรักษาอย่างกว้างขวางขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางที่เรามองไว้”


ส่วนการขยายสาขา ในฐานะหนึ่งในผู้ร่วมทุน นายณัฐพล มองว่า การขยับขยายสาขาในอนาคตคงไม่ใช่แบบ Physical แต่จะเป็นการขยายสาขาแบบ Visual มุ่งสู่การสร้างเครือข่ายผ่านระบบสื่อสาร

“เดี๋ยวนี้ 5G กำลังจะมา พอ 5G มาทุกอย่างจะเปลี่ยนไปเยอะ และรวดเร็ว เราคิดว่า ในอนาคตด้วยกระแสเทคโนโลยี สาขาที่เป็น Physical อาจจะมีเป็นความสำคัญน้อยลง แต่ว่า ความร่วมมือกับโรงพยาบาลอื่น ๆ ทั่วประเทศผ่านระบบสื่อสารความเร็วสูง อันนั้นจะเป็นไปได้” นายณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย

ติดต่อโรงพยาบาลรวมใจรักษ์ https://bit.ly/3SkChK1

(บทความประชาสัมพันธ์)


กำลังโหลดความคิดเห็น