จากกรณีที่ เฟซบุ๊ก "หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์FC" หรือ "นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์" แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธได้ออกมาโพสต์เผยเคสผู้ป่วยมะเร็งปอดหญิง วัย 65 ปี สรุปไว้ว่า ผู้ป่วยรายนี้ไม่มีอาการ ไม่เคยสูบบุหรี่
แต่หายใจควันธูปต่อเนื่อง เป็นมะเร็งปอดระยะ2A ( มะเร็งปอดระยะ2A คือมะเร็งขนาด4-5 เซนติเมตร และไม่แพร่กระจายเข้าต่อมน้ำเหลือง หลังผ่าตัดมีโอกาสรอดชีวิตที่ 5 ปี ร้อยละ60) ติดตามผู้ป่วย 7 ปีหลังผ่าตัด ไม่พบมะเร็งปอดกลับมาใหม่ ถือว่าหายขาดจากโรคนี้ (ดูรูป) ผู้ป่วยได้เลิกจุดธูปหลังผ่าตัดปอด" (https://rb.gy/vvqq70)
เชื่อแน่ว่าหลายคนคงทราบดีว่า การจุดธูปเพื่อแสดงความเคารพนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นประเพณีของคนไทยมาอย่างช้านาน
แต่การจุดธูปในแต่ละครั้งนั้นจะปล่อยฝุ่นละอองและมลพิษมากมาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพไม่ว่าจะเป็นก่อให้เกิดการระคายเคืองตา ระบบทางเดินหายใจ หรือไปถึงก่อให้เกิดมะเร็งได้เลยทีเดียว
สารอันตรายที่อยู่ในธูป
ในธูปนั้นมีสารมลพิษหลายชนิดที่ส่งผลต่อสุขภาพ เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ที่มีฤทธิ์ทำให้เกิดการระคายเคือง ปวดศรีษะ และอาจหมดสติได้หากสูกดมในระยะเวลานาน
อีกทั้งยังมี สารเบนซีน(Benzene) 1,3-บิวทาไดอีน (1,3-Butadiene) เบนโซเอไพรีน(Benzo(a)pyrene) สาร 3 ชนิดนี้เกิดจากการเผาไหม้ของกาว ขี้เลื่อย และน้ำหอมจากธูป ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งเม็ดเลือด มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
วิธีการป้องกัน หากหลีกเลี่ยงไม่ได้
- หลีกเลี่ยงการจุดธุปบริเวณที่อากาศไม่ถ่ายเท
- ใช้ธูปขนาดสั้นเพื่อให้เกิดควันที่น้อยกว่าขนาดยาว
- จุดธูปเหนือทิศลมเพื่อลดการสัมผัสควันธูป
- หลังจุดธูปหรือสัมผัสธูปควรล้างมือให้สะอาด
- ใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูก
กลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงควันจากธูป
กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังอันตรายจากควันธูปเป็นพิเศษ คือ เด็ก คนชรา คนท้อง และบุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้มีกลไกลการต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายไม่เหมือนปกติ อาจก่อให้เกิดอาการผิดปกติได้
การเกิดโรคร้ายจากการจุดธูปนั้นอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคนเนื่องจากมีหลายปัจจัยที่จะก่อให้เกิดขึ้นได้ทั้งระยะเวลา พันธุกรรม หรือแม้แต่การระบายอากาศในสถานที่ที่มีการจุดธูปเกิดขึ้น หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงการจุดธูปได้แล้ว สิ่งที่ดีที่สุดคือการหาวิธีการป้องแทน
ข่าวโดย : พงษ์ศักดิ์ วัฒนศฤงฆาร


