‘เสียวฟัน’ ทำยังไงดี?

ใครเป็นบ้างเวลาที่กินของร้อน ของเย็น หรือแม้แต่อาหารที่มีรสเปรี้ยว มักจะมีอาการจี๊ดและแปล็บขึ้นมาบริเวณฟัน ทำให้หมดสนุกในการกินไปชั่วขณะเลยทีเดียว ซึ่งอาการดังกล่าวอาจจะเตือนว่าคุณกำลังมีปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันอยู่ก็เป็นได้
โดยอาการเสียวฟันเกิดจากผิวหน้าฟันหรือชั้นเคลือบฟันสึกกร่อนหรือบางลง จึงทำให้เนื้อฟันถูกเปิดออก ซึ่งเนื้อฟันจะมีท่อฟันที่นำไปสู่โพรงประสาทฟัน และเมื่อเนื้อฟันสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นภายนอก เช่น ความร้อน ความเย็น ความเป็นกรด จึงเกิดอาการเสียวฟันได้

อาการเสียวฟันเกิดได้จากหลายสาเหตุปัจจัย เช่น การมีปัญหาในช่องปากต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นฟันสึก ฟันร้าว ฟันบิ่น ฟันผุ เหงือกร่น เหงือกอักเสบ เหงือกบวม โรคปริทันต์ เป็นต้น

นอกจากนี้แล้วอาการเสียวฟันอาจมาจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น พฤติกรรมชอบรับประทานอาหารรสเปรี้ยว รับประทานอาหารที่เป็นกรด การแปรงฟันไม่ถูกวิธี แปรงฟันรุนแรงเกินไป ใช้แปรงที่มีขนแปรงแข็งจนเกินไป นอนกัดฟัน ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นที่มาทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้


วิธีแก้และป้องกัน อาการ “เสียวฟัน”

1.แปรงฟันให้ถูกวิธี วันละ 2 ครั้ง

2.ใช้แปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่ม เพราะการใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็งเกินไป อาจทำให้คอฟันสึกได้ และควรเปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่ทุก ๆ 6 เดือน

3.ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง

4.หลีกเลี่ยงอาหารร้อนจัด เย็นจัด อาหารหรือเครื่องดื่มที่มีรสเปรี้ยว และเครื่องดื่มที่มีกรด เช่น น้ำอัดลม โซดา เป็นต้น

5.ใช้ยาสีฟันที่ช่วยบรรเทาอาการเสียวฟัน

6.พบทันตแพทย์เป็นประจำทุก ๆ 6 เดือน หรืออย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง //หากมีอาการเสียวฟันมาก ควรรีบพบทันตแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาที่มาของอาการเสียวฟัน จะได้รักษาได้ทันท่วงที