ปัจจุบันการใช้ชีวิตติดหน้าจอโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก หรือ แท็บเล็ต เป็นสิ่งที่หลายคนอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนี่อาจทำให้เราได้รับอันตรายจากแสงสีฟ้าโดยไม่รู้ตัว
แสงสีฟ้า (Blue light) คือแสงที่เรามองเห็นอยู่ทุก ๆ วัน ซึ่งเราสามารถพบได้ทั้งในแสงแดด และแสงจากมนุษย์สร้างขึ้น เช่น หน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต ทีวี หลอดไฟ LED เป็นต้น
โดยแสงสีฟ้า มีแสงสีฟ้าที่ดีและแสงสีฟ้าที่มีโทษ แสงสีฟ้าที่ดีจะช่วยทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนออกมาช่วยทำให้เรากระปรี้กระเปร่า ตื่นตัว ช่วยในเรื่องความจำ ช่วยปรับนาฬิกาชีวิต เช่น ตื่นเป็นเวลา นอนเป็นเวลา ทำให้ร่างกายทำงานเป็นปกติ เป็นต้น
ส่วนแสงสีฟ้าเป็นโทษ จะอยู่ในช่วงคลื่นที่ 415-455 nm ซึ่งแสงสีฟ้ามีพลังงานสูง สามารถทะลุดวงตาได้ตั้งแต่กระจกตา เลนส์ตา ไปจนถึงจอประสาทตา
โดยอันตรายของแสงสีฟ้าก็คือ จะส่งผลเสียทำให้ปวดตา ตาล้า ตาแห้ง ตาพร่า แสบตา ระคายเคืองตา น้ำตาไหล เกิดความผิดปกติของค่าสายตา รวมไปถึงจอประสาทตาเสื่อมลงได้ในอนาคต
9 เคล็ดลับป้องกันดวงตาจากแสงสีฟ้า
1.หลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่มีแสงจ้ามาก ๆ หากเลี่ยงไม่ได้ควรหาอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ร่ม แว่นกันแดด หมวก เป็นต้น
2.สวมแว่นตาที่เป็นเลนส์ป้องกันแสงสีฟ้า ขณะจ้องหน้าจออุปกรณ์ดิจิทัล
3.ติดฟิลม์กรองแสงบนอุปกรณ์ดิจิทัล
4.พักสายตาเป็นระยะ โดยใช้สูตร 20-20-20 คือ ทุก ๆ 20 นาที ให้หยุดพักสายตา 20 วินาที โดยการมองไกลออกไป 20 ฟุต เพื่อเป็นการผ่อนคลายสายตา
5.ปรับความสว่างหน้าจอให้ไม่สว่างและไม่มืดจนเกินไป
6.ไม่ใช้อุปกรณ์ดิจิทัลในที่มืด เช่น ปิดไฟเล่นโทรศัพท์ก่อนนอน เป็นต้น นอกจากจะทำให้ตาได้รับผลกระทบจากแสงสีฟ้าแล้ว ยังทำให้นอนหลับยากด้วย
7.ใช้น้ำตาเทียมหยอดตา ป้องกันการตาแห้ง
8.ตรวจสุขภาพตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อวัดความดันตา ตรวจเช็คจอประสาทตา และความผิดปกติอื่น ๆ ทางด้านสายตา
9.รับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา เช่น ลูทีน ซีแซนทีน ซึ่งพบได้ในผักผลไม้หลายชนิด เช่น เก๋ากี้ กะหล่ำ ผักโขม ถั่วลันเตา ข้าวโพด แครอท คะน้า ผักบุ้ง ปวยเล้ง อะโวคาโด ฟักทอง ฯลฯ เป็นต้น