ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านจากฤดูหนึ่ง ไปอีกฤดูหนึ่งนั้น เรียกว่าส่งผลต่อสุขภาพของเราไปพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพร่างกาย หรือ องค์ประกอบรอบข้าง ซึ่งจะทำให้กระทบอย่างไม่จำเป็น ซึ่งหากเราได้มีการดูแลสุขภาพในช่วงฤดูกาลนี้นั้น ก็คงจะดีไม่น้อย และเตรียมพร้อมสู้ศึกกับฤดูฝนต่อไปเช่นเดียวกัน
ก่อนอื่นเลยต้องดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง จะเป็นในรูปแบบไหนก็ได้ เช่น เดิน วิ่ง หรือ เข้าฟิตเนส ก็ว่ากันไปได้ตามสะดวก ซึ่งนอกจากจะเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยป้องกันในเรื่องของโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจต่าง ๆ เช่น โรคหลอดลมอักเสบ, โรคปอดบวม และโดยเฉพาะโรคหวัด ที่มักจะมาในช่วงฤดูดังกล่าวนี้
โดยการออกกำลังกายในแต่ละวัน ให้ออกอย่างน้อย วันละ 30 นาที เป็นจำนวนอย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งในระยะเวลาแค่นี้ ก็น่าจะเพียงพอให้กับร่างกายแล้ว
ซึ่งการออกกำลังกายนั้น ควรเริ่มจากเบา ๆ และระยะเวลาน้อยก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาไปเรื่อย ๆ ในแต่ละสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้ทำการปรับตัว จากนั้นจึงค่อยๆ ปรับความแรงขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องหนักหรือเหนื่อยมากนัก และที่สำคัญคือ สถานที่ออกกำลังกายนั้น จะต้องไม่ร้อนมากด้วย ขณะเดียวกัน ในระหว่างที่ออกกำลังกายนั้น ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ
และสิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือ การรับประทานอาหาร ควรเน้นอาหารจำพวกผักให้หลากหลาย จะเน้นการลวก ต้ม หรือ ผัก ก็ได้ หรือรับประทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ องุ่น สับปะรด หรือมะละกอ เพราะจะช่วยให้เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้
นอกจากนี้ แนะนำว่าควรให้ทำตามข้อปฎิบัติดังต่อไปนี้ เพื่อจะช่วยให้ดูแลให้ร่างกายในช่วงหน้านี้ให้ดียิ่งขึ้น ดังนี้
-ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร เพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย เพิ่มการไหลเวียนโลหิต และทำให้เซลล์ภายในร่างกายไม่ขาดน้ำ
-นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
-เวลาที่อยูนอกข้างนอก ก็ควรพกร่ม และเสื้อกันฝน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเปียกฝน และลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นหวัด
-รักษาร่างกายให้แห้งอยู่เสมอ เมื่อเปียกฝน ควรรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที เพื่อให้ร่างกายเกิดความอบอุ่น ลดความเสี่ยงต่ออาการปอดบวม หรือโรคผิวหนัง
-ไม่แนะนำให้เข้าไปในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นจุดศูนย์รวมของเชื้อโรคนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นฉี่หนู หรือพยาธิต่างๆ
-ระวังไม่ให้โดนยุงกัด เนื่องจากโรคไข้เลือดออกระบาดง่ายในช่วงหน้าฝน ควรทายากันยุง หรือนอนกางมุ้ง หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่มืด และอับชื้น
-ดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ เช่น ชาสมุนไพร เพราะนอกจากช่วยคลายความหนาวเย็นให้กับร่างกายแล้ว ยังมีคุณสมบัติต้านการเกิดการอักเสบ ป้องกันไม่ให้เป็นหวัดคัดจมูก ลดน้ำมูก และแก้เจ็บคอ
-แนะนำว่าให้กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ เพื่อช่วยลดการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ ที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหารและลำไส้ เช่น อาหารเป็นพิษ
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลวิภาวดี และ muangthai insurance