xs
xsm
sm
md
lg

สัญญาณภัยเงียบของ ... ภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอตีบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอตีบ คือ เส้นเลือดแดงใหญ่ที่คอซึ่งส่งเลือดไปเลี้ยงสมองตีบแคบลง โดยปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ ความดันโลหิตสูง โรคอ้วนลงพุง ไขมันในเลือดสูง และโรคเบาหวาน ทำให้เกิดภาวะนี้หนาขึ้นอย่างผิดปกติของผนังหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ โดยเมื่อการหนาที่ผิดปกติของผนังหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอมากเกินกว่า 50% อาจก่อให้เกิดอาการอัมพฤกษ์ อัมพาตได้

นพ.ภัทรวุฒิ เรืองวานิช อายุรแพทย์ประสาทวิทยา อนุสาขาโรคหลอดเลือดสมอง คลินิกอายุรกรรม โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดกับเพศชายและผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีอายุยังน้อยแต่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ที่เป็นโรคอ้วนลงพุง โรคความดันโรคหิตสูง โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ผู้ที่สูบบุหรี่ เป็นต้น ซึ่งสัญญาณเตือนของภาวะหลอดเลือดที่คอตีบ อาจไม่มีสัญญาณเตือนอะไรให้เห็นเลย แต่หากเกิดอาการ BEFAST (เดินเซ ภาพซ้อน หน้าเบี้ยว แขน–ขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด) ควรรีบเข้าพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อทำการหาสาเหตุและการตรวจหลอดเลือดสมองที่บริเวณคอ ด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง CDUS (Carotid Duplex Ultrasonography) รวมถึงวางแผนการรักษาที่ตรงจุด

ผู้ที่ควรได้รับการตรวจหลอดเลือดใหญ่บริเวณคอด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง Carotid duplex ultrasonography

• ผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต เพื่อดูรอยโรคของหลอดเลือดแดง Carotid และติดตามผลเป็นระยะ

• ผู้ป่วยที่เคยมีอาการสมองขาดเลือดไปเลี้ยงชั่วคราว (TIA)

• ผู้ป่วยที่มีภาวะผิดปกติที่หลอดเลือดแดง Carotid ทั้งรายที่มีอาการและไม่มีอาการของโรคหลอดเลือดสมองที่มีการขาดเลือดเฉพาะที่

• ผู้ที่ต้องผ่าตัดใหญ่โรคหลอดเลือดอื่นๆ เช่น ผ่าตัดตัดต่อหลอดเลือดแดงหัวใจในรายที่มีหลอดเลือดแดงหัวใจอุดตัน เพื่อตรวจประเมินค่าก่อนนำผู้ป่วยไปผ่าตัด

• ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และเบาหวาน

การป้องกันภาวะหลอดเลือดที่คอตีบ สามารถทำได้โดย..

• ควบคุมไขมันในเลือด โรคเบาหวาน ความดันสูง ควรควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

• ควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เป็นโรคอ้วน

• งดสูบบุหรี่

• หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ภาวะหลอดเลือดที่คอตีบจะสามารถรักษาได้โดยการใช้ยา การผ่าตัดที่เส้นเลือดบริเวณเส้นเลือดแดงใหญ่ที่คอเพื่อเลาะผนังที่หนาผิดปกติ หรือการใส่ขวดเลือดเพื่อช่วยในการขยายเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นเลือด และหากเกิดอาการของอัมพฤกษ์ ต้องทำการกายภาพบำบัดร่วมด้วย ทั้งนี้ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง


กำลังโหลดความคิดเห็น