xs
xsm
sm
md
lg

จะรับมืออย่างไรเมื่อเป็น “ทอนซิลอักเสบ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยามเมื่ออากาศมีการเปลี่ยนแปลงคราใด บางคนที่มีความไวต่ออากาศ ก็อาจจะมีการเจ็บหรือระคายคอได้ แต่ในระหว่างที่มีอาการที่ว่านี้ อาจจะมีอะไรที่มากกว่านั้น ซึ่งก็คือ อาการ ‘ทอนซิลอักเสบ’ นั่นเอง โดยภาวะที่ว่าเป็นอย่างไร มาดูข้อมูลคร่าว ๆ กัน

‘ทอนซิลอักเสบ’  เกิดจากต่อมน้ำเหลือง 2 ต่อม ที่อยู่ข้างซ้ายและขวาในลำคอใกล้กับโคนลิ้น ที่มีหน้าที่หลักในการจับและทำลายเชื้อโรคที่จะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเดินอาหาร มีการติดเชื้อแบคทีเรียและได้รับเชื้อไวรัสต่าง ๆ

ซึ่งภาวะ “ทอนซิลอักเสบ” จากการติดเชื้อแบคทีเรีย จะพบได้บ่อยในช่วงเด็กเล็กตั้งแต่อายุ 2 ปีขึ้นไปจนถึงช่วงวัยรุ่นตอนกลาง ส่วนสาเหตุที่เกิดจากไวรัสจะพบในเด็กเล็กมากกว่า ส่วนวัยผู้ใหญ่มีโอกาสเกิดได้น้อย เนื่องจากเด็กวัยเรียนมักมีการสัมผัสอยู่ใกล้ชิดกับเพื่อนและชอบเล่นสนุกสนาน จึงทำให้ต้องเผชิญกับเชื้อโรคมากมายและเสี่ยงต่อการติดเชื้อทอนซิลอักเสบมากกว่า


โดย ภาวะ “ทอนซิลอักเสบ”  จะมีอาการดังนี้

-ต่อมทอนซิลบวมแดง กดแล้วจะเกิดอาการเจ็บ
-กลืนอาหารลำบาก หรือเจ็บคอเวลากลืน
-ปวดศีรษะ
-มีไข้ หนาวสั่น
-เสียงแหบหรือเสียงเปลี่ยน เนื่องมาจากภาวะทอนซิลโต
-มีกลิ่นปาก
- คลำต่อมน้ำเหลืองที่คอบวมแล้วโต กดเจ็บได้
-ปวดร้าวที่หู
-อาจมีอาการอาเจียนหลังรับประทานอาหาร

ดูแลตนเอง เมื่อทอนซิลอักเสบ

สำหรับการดูแลตนเองเมื่อมีอาการนั้น โดยรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ดื่มน้ำสะอาดหรือน้ำอุ่นมาก ๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รับประทานอาหารย่อยง่าย

ขณะเดียวกันนั้น พยายามอย่าอยู่ใกล้ชิดผู้ป่วย และระวังอย่าให้ผู้ป่วยไอ จาม รด รวมไปถึงอย่าใช้ของร่วมกับผู้ป่วย งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ และการสัมผัสฝุ่นควัน

การป้องกันจากภาวะทอนซิลอักเสบ

-ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมจานหรือดื่มน้ำร่วมแก้วกับผู้อื่นที่อาจมีการสัมผัสน้ำลายของอีกฝ่าย

-หมั่นล้างมือให้สะอาด โดยเฉพาะช่วงหลังเข้าห้องน้ำและช่วงก่อนรับประทานอาหาร

- เปลี่ยนแปรงสีฟันที่ใช้หลังจากป่วยเป็นทอนซิลอักเสบ

-ถ้ามีอาการป่วย ก็ควรพักรักษาตัวแต่ในบ้าน อยู่ให้ห่างจากผู้อื่น เพื่อไม่ให้เชื้อกระจายสู่ผู้อื่น

ขอบคุณข้อมูลจาก : pobpad.com, โรงพยาบาลรามคำแหง และ โรงพยาบาลศิครินทร์


กำลังโหลดความคิดเห็น