ดูแลตัวเองอย่างไร? เมื่อเป็นโรคภูมิแพ้

โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่ร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้มากกว่าปกติ
 
โดยภูมิแพ้เกิดขึ้นได้ในหลายส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร ซึ่งภูมิแพ้ต่าง ๆ เหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการ เช่น จาม ไอ คัดจมูกน้ำมูกไหล คันตา ตาแดง ตาบวม ผื่นคัน ผื่นแดง ลมพิษ ปวดท้อง อาเจียน แน่นหน้าอก หรืออาจหนักสุดถึงขั้นช็อกหมดสติ และเสียชีวิตได้

ทั้งนี้โรคภูมิแพ้เกิดได้จากปัจจัยภายในและภายนอก ได้แก่ กรรมพันธุ์ สารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ในสิ่งแวดล้อม เช่น ไรฝุ่น ฝุ่นละออง ละอองเกสร ขนสัตว์ ฝุ่นควัน แมลงชนิดต่าง ๆ หรืออาหารและยา เป็นต้น โดยเราจะได้รับสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ จากการที่เราหายใจเข้าไป การสัมผัส หรือจากการรับประทานอาหารเข้าไปนั่นเอง


วิธีดูแลตัวเอง เมื่อเป็นโรคภูมิแพ้

1.หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ และหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดอาการแพ้

2.ทำความสะอาดร่างกาย สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด

3.ทำความสะอาดบ้านพัก ที่อยู่อาศัย ห้องนอนเป็นประจำ เพื่อไม่ให้มีฝุ่นที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการแพ้ได้

4.ไม่นอนดึก นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน

5.ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ วันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3-5 วัน

6.รับประทานที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เน้นรับประทานผัก ผลไม้ และเลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุก สดใหม่

7.เสริมสร้างภูมิต้านทานร่างกายด้วยวิตามินเสริม เช่น วิตามินซี ซึ่งวิตามินซีมีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้สุขภาพแข็งแรง มีความจำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ป้องกันการเป็นหวัดได้อย่างดี อีกทั้งยังบรรเทาอาการแพ้ หอบหืด ไซนัส ได้, แร่ธาตุสังกะสี สามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี หรือเควอซิติน ซึ่งเควอซิตินจะช่วยในการต้านอาการแพ้และลดการอักเสบ ช่วยยับยั้งการปล่อยสารฮิสตามินซึ่งทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้ เป็นต้น

ทั้งนี้หากคุณมีอาการภูมิแพ้ ควรปรึกษาแพทย์และเข้ารับการตรวจวินิจฉัย จะได้ทราบว่าคุณแพ้อะไรกันแน่ เพื่อที่จะได้ป้องกันไม่ให้ภูมิแพ้มาสร้างความกังวลใจในชีวิตประจำวัน


ข้อมูลอ้างอิงจาก : เพจ อโรคยาวิถี Arokya Way