เมื่อไม่นานมานี้ได้มีกระแสเกี่ยวกับพยาธิปอดหนู ที่เป็นสาเหตุทำให้ข้าราชการสาววัย 40 ปี ตาบอดด้านขวา 1 ข้าง สาเหตุเกิดจากการรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เป็นประจำ โดยเฉพาะกุ้งแช่น้ำปลาที่เธอชอบ เช่นนั้น เรามาดูข้อมูลเกี่ยวกับพยาธิปอดหนูกันก่อนดีกว่า
“พยาธิปอดหนู” หรือ อีกชื่อหนึ่งเรียกว่า “พยาธิหอยโข่ง” พยาธิชนิดนี้เป็นพยาธิตัวกลมที่มีชื่อว่า "แองจิโอสตรองจิลัส แคนโทเนนซิส" (Angiostrongylus cantonensis) ปกติจะชอบเข้าไปอยู่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู เลยเรียกว่า “พยาธิปอดหนู”
เมื่อโตเต็มวัยจะมีรูปร่างลักษณะเรียว ยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร ตัวเมียจะมีลายเป็นเกลียวขาวสลับดำอยู่ในตัว ตัวผู้จะมีขนาดเล็กกว่าและที่หางจะมีแผ่นบาง ๆ เล็ก ๆ แผ่ออกมา ซึ่งพบได้ทุกภาคในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสานของประเทศไทย พยาธิชนิดนี้มักอยู่อาศัยอยู่ตามสัตว์น้ำจืด เช่น หอยน้ำจืด หอยโข่ง หอยขม หอยเชอรี่ กุ้งและปูน้ำจืด อีกทั้งยังอยู่ใน กบ ตะกวด นอกจากนี้พยาธิอาจปนเปื้อนมากับน้ำดื่ม ผักและผลไม้สดได้อีกด้วย
หากเรารับประทานแบบสุก ๆ ดิบ ๆ แล้วมีพยาธิอาศัยอยู่ และหากพยาธิเข้าไปอยู่ตามจุดสำคัญในร่างกาย เช่น ระบบประสาท สมอง ไขสันหลัง จะทำให้มีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และบางรายมีอาการรุนแรงมากจะมีอาการปวดศีรษะมาก คอแข็ง หลังแข็ง ชัก อาจเป็นอัมพาต ซึม หมดสติ หรือเสียชีวิตได้ และถ้าพยาธิไชเข้าตา ตาอาจจะอักเสบ มัว และบอดได้
การป้องกัน
- ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร
- ไม่รับประทานอาหารดิบ ๆ สุก ๆ และพืชผักผลไม้ หรือดื่มน้ำที่ไม่สะอาด
- รับประทานอาหารปรุงสุก สะอาดเท่านั้น
การรับประทานอาหารเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิต ดังนั้นอยากให้ทุกคนให้ความสำคัญและส่ใจดูแลร่างกายให้ดี ๆ เลือกรับประทานอาหารที่มีคุณภาพตามโภชนาการ และที่สำคัญที่สุดต้องรับประทานอาหารที่สุก สะอาด และปลอดภัยจากเชื้อโรค หมั่นล้างมือเป็นประจำ เพียงเท่านี้คุณจะปลอดภัยจากพยาธิตัวน้อยนี่ได้อย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงประกอบจาก : โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดลและหมอแล็บแพนด้า
ขอบคุณภาพจาก : โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร
ข่าวโดย : สมาพร ตุ้มเพ็ชร
