เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้เกิดข่าวชิ้นหนึ่ง นั่นคือการจับกุมชายคนหนึ่งที่คิดว่าครอบครองสารเสพติด แต่สุดท้ายกลับพบว่าเป็นเรื่องโอละพ่อ เพราะสิ่ง ๆ นั้น คือสมุนไพร ‘การบูร’ นั่นเอง ซึ่งเชื่อได้เลยว่า หลาย ๆ คนอาจจะไม่ทราบว่า ‘การบูร’ นั้นคืออะไร และมีประโยชน์อะไร ฉะนั้นแล้วมาดูข้อมูลคร่าว ๆ ของสมุนไพรชนิดนี้กัน
“การบูร” คืออะไร
หากถามว่า ‘การบูร’ คืออะไร ก็คงสรุปคร่าว ๆ คือสิ่งที่ผลึกที่แทรกอยู่ในเนื้อไม้ของต้นการบูรที่มีอยู่ทั่วไปทั้งต้น โดยมักจะอยู่ตามรอยแตกของเนื้อไม้ และมีมากที่สุดในแก่นของราก รองลงมาคือส่วนแก่นของต้น ซึ่งส่วนที่อยู่ใกล้กับโคนต้นจะมีการบูรมากกว่าส่วนที่อยู่เหนือขึ้นมา
ขณะเดียวกัน ส่วนในใบและยอดอ่อนมีการบูรอยู่น้อย โดยในใบอ่อนจะมีน้อยกว่าใบแก่ ซึ่งผงการบูรนั้นจะมีลักษณะเป็นเกล็ดกลม ๆ ขนาดเล็ก เป็นสีขาวและแห้ง อาจจับกันเป็นก้อนร่วน ๆ และแตกง่าย เมื่อทิ้งไว้ในอากาศจะระเหิดไปหมด โดยจะมีรสปร่าเมา
ประโยชน์ของ "การบูร"
เมื่อ ’การบูร’ ถูกนำมาสกัดในรูปแบบต่าง ๆ ก็ย่อมเกิดประโยชน์ให้กับผู้ใช้ เช่น ถ้าสกัดเป็นน้ำมันการบูร ก็จะช่วยกระตุ้นความรู้สึกและทำให้จิตใจโล่งและปลอดโปร่ง อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ และทำให้ตื่นตัว และช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ เมารถ เมาเรือ ขณะเดียวกัน ถ้านำมาวางไว้ในห้องหรือตู้เสื้อผ้าช่วยไล่ยุง ไล่แมลง และแก้กลิ่นอับ
นอกจากนี้ น้ำมันการบูรก็ยังสามารถใช้มาถู และช่วยแก้รอยผิวหนังแตกในช่วงฤดูหนาวได้ อีกทั้งในส่วนกิ่งก้านและใบของต้นการบูร สามารถนำมาใช้แต่งกลิ่นอาหารและขนมต่าง ๆ ได้อีกเช่นกัน
สรรพคุณทางยาของ "การบูร"
‘การบูร’ ถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมของยาสมุนไพรไทย ในตำรับยาหอมต่าง ๆ เช่น ยาหอมเทพจิตร ยาหอมทิพโอสถ ยาประสะไพล ยาธาตุบรรจบ ยาประสะกานพลู ยามันทธาตุ ยาไฟประลัยกัลป์ ยาประสะเจตพังคี ยาธรณีสัณฑะฆาต ยาธาตุอบเชย หรือใช้ทำน้ำมันไพล ลูกประคบ พิมเสนน้ำ
-ช่วยแก้ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ แก้ปวด แก้เคล็ดบวม ขัดยอก แก้กระตุก แก้ปวดข้อ แก้ปวดเส้นประสาท
-เป็นยาบำรุงหัวใจ และช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด
-แก้พิษแมลงต่อย
-รักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง ช่วยสมานแผล แก้รอยผิวแตกในฤดูหนาว
-แก้ไข้หวัด ขับลม ขับเหงื่อ ขับเสมหะ ขับปัสสาวะ
-ฆ่าเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย แก้ปวดท้อง ท้องร่วง ขับน้ำเหลือง แก้เลือดลม
-บรรเทาอาการปวดประจำเดือน ช่วยขับน้ำคาวปลาในหญิงหลังคลอดบุตร
ข้อควรระวังในการใช้ "การบูร"
-สตรีมีครรภ์ห้ามรับประทาน
- ผู้ที่มีปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะขัด เป็นโรคริดสีดวงทวาร อุจจาระแข็งแห้งไม่ควรรับประทาน
-ห้ามใช้น้ำมันการบูรที่มีสีเหลืองและสีน้ำตาล เพราะมีความเป็นพิษ
-เมื่อรับประทานการบูร 0.5-1 กรัม จะมีผลทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ และภายในมีอาการแสบร้อนและอาจเกิดอาการเพ้อได้
-ถ้ารับประทานการบูร 2 กรัมขึ้นไปจะเกิดอันตรายทำให้อัตราการเต้นของหัวใจอ่อนลง และถ้ามีการรับประทานการบูร 7 กรัมขึ้นไปจะเป็นอันตรายถึงชีวิตนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงประกอบจาก : disthai.com และ medthai.com