ในท่ามกลางอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยนั้น สิ่งหนึ่งที่ต้องกังวลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือ ‘อาการเจ็บคอ’ ที่อาจจะสร้างความกังวลใจให้กับทั้งผู้ป่วย และคนรอบข้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกัน แท้ที่จริงแล้ว ‘อาการเจ็บคอ’ มีกี่ประเภทกันแน่ เรามาดูข้อมูลกัน
อาการเจ็บคอ คืออะไร?
อาการเจ็บคอ หรือ Sore Throat เป็นอาการเจ็บป่วยอย่างหนึ่งของร่างกาย ที่สร้างความเจ็บปวด แสบร้อน หรือ ระคายเคืองเนื้อเยื่อในลำคอ จนทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น คออักเสบ, ต่อมทอนซิลอักเสบ, กล่องเสียงอักเสบ หรือส่วนอื่น ๆ ในลำคอเกิดการอักเสบและระคายเคือง จนเกิดความลำบากในการกลืนอาหารและน้ำ รวมถึงการเปล่งเสียง
โดยอาการเจ็บคอส่วนใหญ่มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจส่วนต้น แต่ก็มีบางกรณีที่อาการเจ็บคอเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเกิดจากการสูดดมมลพิษเข้าไป ซึ่งก็ก่อให้เกิดอาการดังกล่าวได้เช่นเดียวกัน
สาเหตุของอาการเจ็บคอ
สำหรับอาการเจ็บคอนั้น อาจสามารถแบ่งได้หลายสาเหตุ ดังนี้
1. คออักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
สำหรับการเจ็บคอในสาเหตุนี้ ส่วนใหญ่ จะมีอาการเจ็บคอ ครั่นเนื้อ ครั่นตัว มีไข้ต่ำๆ ไอ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล บริเวณผนังลำคอด้านหลัง ลิ้นไก่ จะมีอาการอักเสบบวมแดด
2. คออักเสบจากเชื้อไวรัส
ผู้ป่วยในลักษระนี้ จะมีอาการ มีไข้ต่ำ จนถึงสูง บางครั้งหนาวสั่นบ้าง ครั้นเนื้อ ครั้นตัว เจ็บแสบคอไม่มากนัก อาจมีน้ำมูกใสๆ และคัดจมูก มีอาการปวดกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย ภายในช่องคอแดงเล็กน้อย
3. คออักเสบจากเชื้อรา
การมีอาการคออักเสบจากเชื้อรา มักมีอาการเจ็บคอ คอแห้ง น้ำลายไหลมาก แต่จะมีอาการแตกต่างกับสองสาเหตุแรก คือมีแผ่นขาวคล้ายนมที่จับเป็นก้อน ติดแน่นกับเยื่อบุผนังคอด้วยค่ะ
4. เกิดจากการสิ่งที่ก่อให้เกิดระคายเคืองคอ
อาการเจ็บคอในลักษณะนี้ มักเกิดจากการกระทำของตัวเราเองที่ไปกระตุ้น ให้เกิดอาการเจ็บคอขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ เนื่องจากควันของบุหรี่จะไปกระตุ้นให้เราเจ็บคอ, การดื่มแอลกอฮอล์, การใช้เสียงที่ผิด ไม่ว่าจะเป็นการใช้เสียงติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ๆ หรือ การตะโกน ซึ่งอาจจะทำให้สายเสียงเกิดการอักเสบ และนำไปสู่อาการเจ็บคอได้ รวมไปถึง ภาวะโรคกรดไหลย้อน ซึ่งกรดอาจไหลย้อนขึ้นมาที่ผนังคอ ทำให้เยื่อบุและกล้ามเนื้อของผนังคอมีการอักเสบ ทำให้มีอาการเจ็บคอเป็น ๆ หาย ๆ ได้
ดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อมีอาการเจ็บคอ
เมื่อผู้ป่วยรู้สึกเจ็บคอหรือรู้สึกระคายเคืองในลำคอ ให้ผู้ป่วยปฏิบัติตนด้วยวิธีแก้เจ็บคอที่ถูกต้อง ดังนี้
สิ่งที่ควรทำ เมื่อมีอาการเจ็บคอ
-รับประทานอาหารอ่อน เพื่อถนอมเนื้อเยื่อที่อักเสบในลำคอ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม
-ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 6 แก้ว เพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับลำคอ
-ควรทำความสะอาดลำคอหลังรับประทานอาหารทุกครั้ง โดยการกลั้วคอด้วยน้ำเกลือหรือน้ำเปล่า ทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง รวมถึงการแปรงฟันด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เศษอาหารตกค้างอยู่ในลำคอ
-นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น
-จัดสิ่งแวดล้อมให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
-รับประทานหรือใช้ยาแก้เจ็บคอให้ตรงเวลาและสม่ำเสมอ
-ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
สิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เมื่อมีอาการเจ็บคอ
-งดการรับประทานอาหารรสจัด รสเผ็ด หรืออาหารที่มีไขมันสูง ทั้งอาหารผัดและทอด
-งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา และกาแฟ
-งดใช้เสียงชั่วคราว หรือใช้เสียงให้น้อยที่สุด
-หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ คือ ที่ๆตลบอบอวลไปด้วยฝุ่น ควัน และสิ่งระคายเคือง และ พื้นที่ที่มีอากาศเย็นมาก ๆ หรืออากาศแห้งมาก ๆ
-ไม่ควรใช้ภาชนะร่วมกับคนอื่น เพราะเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียอาจแพร่สู่คนอื่นได้
การป้องกันอาการเจ็บคอ
สำหรับการป้องกันตนเองจากเชื้อโรคและปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอาการเจ็บคอ ทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
-หลีกเลี่ยงการสัมผัสของที่ใช้ร่วมกันหลายคนหรือบ่อยครั้ง ควรล้างมือบ่อย ๆ เพื่อกำจัดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียสะสม ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการติดเชื้อโรคหวัดหรือโรคอื่น ๆ ได้
-ไม่ใช้ช้อนรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่นหรือดื่มน้ำจากแก้วเดียวกัน เพราะโรคบางโรคสามารถแพร่ผ่านน้ำลายได้ เช่น โรคติดเชื้อโมโนนิวคลีโอซิส
-หลีกเลี่ยงสารที่อาจก่อให้เกิดภูมิแพ้ เช่น เกสรดอกไม้ เชื้อรา และฝุ่น
-เลี่ยงการรับควันบุหรี่ไม่ว่าจากการสูบเองหรือจากผู้อื่นที่อาจส่งผลระคายเคืองต่อคอจนมีอาการเจ็บ และยังเป็นสาเหตุของการเกิดเนื้องอกบริเวณลำคอได้
-รักษาความชื้นในบ้านไม่ให้อากาศแห้ง และดื่มน้ำให้เพียงพอไม่ให้คอแห้ง
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงประกอบจาก : พบแพทย์ดอทคอม, ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และ doctorraksa.com