xs
xsm
sm
md
lg

“ยาฟาวิพิราเวียร์” ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะมีผลข้างเคียงที่ต้องระวัง!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) เป็นยาต้านไวรัสที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัส SARS CoV2 ที่ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ COVID-19 ปัจจุบัน

กรมการแพทย์เปิดเผยข้อบ่งชี้และผลข้างเคียงของการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ ระบุไม่ได้จ่ายยาฟาวิพิราเวียร์สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ทุกคน จะจ่ายให้สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์

ผลข้างเคียงที่พบบ่อยจาก “ยาฟาวิพิราเวียร์”


1. อาการคลื่นไส้อาเจียน
2. อาจทำให้ทารกในครรภ์พิการ หากรับประทานยาในช่วงตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก
3. มีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดผิดปกติ เมื่อรับประทานร่วมกับยาบางชนิด
4. มีผลต่อการทำงานของตับ ดังนั้นไม่ควรรับประทานร่วมกับยาฟ้าทลายโจร หรือยาที่มีผลต่อตับ

ผู้ป่วยที่ควรได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ ได้แก่


ผู้ป่วยที่มีภาวะปอดอักเสบ ที่มีอาการรุนแรง ผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 60 ปี มีโรคประจำตัว ดังนี้
- โรคปอดเรื้อรัง
- โรคตับ
- ไตเรื้อรัง
- โรคหัวใจและหลอดเลือด
- โรคหลอดเลือดสมอง
- เบาหวาน
- ผู้ป่วยที่มีภาวะอ้วนหรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง

วิธีการรับประทานยาฟาวิพิราเวียร์

- สำหรับผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 9 เม็ดทุก 12 ชั่วโมงในวันแรก และลดเหลือครั้งละ 4 เม็ด ทุก 12 ชั่วโมงในวันที่เหลือ
- ผู้ที่น้ำหนักมากกว่า 90 กิโลกรัม ขนาดยาจะสูงขึ้น โดยในวันแรกจะรับประทานครั้งละ 12 เม็ดทุก 12 ชั่วโมง และลดเหลือครั้งละ 5 เม็ด ทุก 12 ชั่วโมงในวันที่เหลือ

- สำหรับผู้ป่วยเด็กจะต้องมีการคำนวณขนาดยาตามน้ำหนักตัว ผู้ป่วยควรรับประทานยาตามวันและเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ระยะเวลาในการรักษาอยู่ที่ 5-10 วัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและการตอบสนองต่อการรักษาของผู้ป่วยแต่ละราย

ข้อมูลอ้างอิงจาก
- กรมการแพทย์ (dms.go.th)
- คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (rama.mahidol.ac.th)


ข่าวโดย : ฟ้า เต็มเปียง 


กำลังโหลดความคิดเห็น