ในท่ามกลางของโรคโควิด-19 นั้น อาการที่เป็นสิ่งที่บ่งบอกของโรคได้ นั่นคือ ‘อาการปวดหัว ปวดศีรษะ’ ที่ถือว่าพบได้ค่อนข้างบ่อยทั้งในผู้ติดเชื้อ และ ผู้ที่ได้รับวัคซีน ซึ่งอาจจะมีอาการที่แตกต่างกันไป แต่ช้าก่อน เพราะในบางทีนั้น อาการดังกล่าวนั้น อาจจะสัมพันธ์หรือไม่เลยก็เป็นได้
ก่อนอื่นนั้น เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า อาการปวดหัวนั่นมีหลายรูปแบบ ซึ่งจากข้อมูลจาก Rama Channel ได้อธิบายถึงอาการปวดหัวไว้ดังนี้ว่า
1.โรคปวดศีรษะที่มีการพบมากที่สุด เป็นการปวดหัวที่เกิดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณรอบศีรษะ ซึ่งตำแหน่งที่มีการพบบ่อย คือบริเวณหน้าผากและขมับทั้ง 2 ข้าง ซึ่งในบางครั้งก็มีการร้าวมาที่ด้านหลังของศีรษะและต้นคอ รวมถึงบ่าและไหล่ร่วมด้วย ซึ่งมีความสัมพันธ์กับความเครียดด้วย
2.ปวดศีรษะจากโรคไมเกรน จะเป็นการปวดบริเวณขมับด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะ อาจจะมีการปวดสลับกันได้ แถมการปวดในบางครั้ง จะมีการปวดร้าวเข้ามาที่กระบอกตามาร่วมด้วย ซึ่งคนที่มีอาการนี้จะมีการคลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว หรือถ้ามีอาการปวด ถ้าอยู่ในที่แสงสว่างจ้า เสียงดัง หรือกลิ่นฉุน จะมีอาการแย่ลงร่วมด้วย
3.มีการปวดศีรษะตรงบริเวณโหนกแก้มของทั้งสองข้างลงมาจนถึงบริเวณหน้าผากด้วย หรือในบางครั้ง ก็ลามมาที่บริเวณตรงจมูก ซึ่งเป็นตำแหน่งของไซนัส ซึ่งถ้าปวดตรงบริเวณนี้ ก็จะเกิดการอักเสบของโรคดังกล่าวด้วย
4.ตรงบริเวณกราม มักมีการปวดตรงบริเวณหน้าใบหู ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการเคี้ยวอาหารร่วมด้วย ซึ่งในบางรายอาจจะไม่รู้ตัวว่ามีการกัดฟันในเวลานอน ทำให้ตื่นเช้าขึ้นมาอาจจะมีอาการปวดตรงบริเวณใบหู ซึ่งสัมพันธ์กับภาวพกระดูกกรามหน้าใบหูอักเสบได้
5.อาการปวดที่มาจากโรคหลอดเลือดสมอง หรือ โรคเนื้องอกสมอง ซึ่งจะมีอาการที่รุนแรงมากที่สุด ซึ่งในบางครั้งก็ส่งผลกระทบต่อการมองเห็นที่ผิดปกติหรือเห็นภาพซ้อน มองไม่ชัด หรือ มีการชาหรืออ่อนแรงของกล้ามเนื้อต่างๆ ของร่างกายร่วมด้วย แต่ถ้าเป็นอาการที่หนัก เช่น มีอาการชัก หรือ มีการปวดศีรษะที่มีไข้ร่วมด้วยนั้น ก็รีบควรไปพบแพทย์โดยด่วนเช่นกัน
ส่วนอาการปวดหัวเกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ยังไง สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดมาจากสาเหตุดังนี้
1.เชื้อไวรัสเข้าสู่สมองโดยผ่านปลายเส้นประสาทคู่ที่ 5 ในโพรงจมูก ทำให้เกิดการปวดศีรษะ
2.เชื้อไวรัสกระตุ้นร่างกายให้สร้างสารการอักเสบ ซึ่งมีผลโดยตรงกับระบบนำความปวดในสมอง ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะขึ้นมา
โดยทำการแยกการปวดศีรษะที่เกิดจากโรคโควิด-19 จากอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ไข้, เวียนศีรษะ, จมูกไม่ได้กลิ่น, ลิ้นไม่มีการรับรส, ไอ, หอบเหนื่อย, มีการปวดเมื่อย, ถ่ายเหลว และ เจ็บขณะกลืน
ส่วนอาการปวดศีรษะในผู้ป่วย COVID-19 มีลักษณะอย่างไร
โดยอาการของผู้ป่วยโควิด-19 นั้น จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มีความรุนแรงของอาการตั้งแต่ปวดปานกลางถึงปวดมาก และมักจะไม่ตอบสนองต่อยาแก้ปวด หรือมีอาการปวดศีรษะซํ้าหลังจากยาแก้ปวดหมดฤทธิ์ ซึ่งลักษณะการปวดเป็นแบบบีบรัดที่บริเวณขมับ หน้าผาก หรือรอบกระบอกตาทั้ง 2 ข้าง หรือปวดทั้งศีรษะ ซึ่งอาจจะพบลักษณะการปวดแบบปวดตุ๊บ ๆ คล้ายกับเส้นเลือดเต้นได้ ซึ่งการโน้มศีรษะไปด้านหน้า การไอ การจาม และการออกแรงจะทำให้อาการปวดศีรษะรุนแรงขึ้น ที่สำคัญอาการปวดศีรษะสามารถเกิดขึ้นได้นานถึง 2 สัปดาห์ ซึ่งอาการปวดศีรษะเป็นอาการทางระบบประสาทที่พบได้บ่อยในผู้ที่ติดเชื้อ COVID-19 โดยพบผู้ป่วยที่มีอาการปวดศีรษะหลังจากการติดเชื้อ COVID-19 มากถึง 30% ส่วนใหญ่ไม่เคยมีประวัติโรคปวดศีรษะมาก่อน และอาการปวดศีรษะมักจะพบภายใน 7 วันแรกหลังการติดเชื้อ
ถามว่าถ้าได้รับวัคซีนโควิด-19 จะพบการปวดศีรษะมากน้อยแค่ไหน โดยอาการดังกล่าวนี้ จะพบได้บ่อยเป็นลำดับต้นๆ หลังจากได้รับวัคซีน ซึ่งวัคซีนแต่ละชนิดจะมีผลข้างเคียงที่แตกต่างกัน โดยผู้สูงวัยจะพบอาการน้อยกว่าผู้ที่อายุน้อย ซึ่งการได้รับวัคซีนเข็ม 2 จะพบอาการได้น้อยกว่า
แต่ถ้ามีการปวดศีรษะต้องทำยังไง โดยทั่วไปอาการปวดศีรษะนั้น มักจะค่อยๆ หายไปเองใน 1 สัปดาห์ด้วยการทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล แต่ถ้าทานยาประเภทนี้แล้วยังไม่ได้ผล อาจจะต้องทานยาแก้ปวดบรรเทาอาการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์แทน
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผู้ที่เป็นไมเกรนและมีอาการปวดศีรษะไมเกรนกำเริบหลังได้รับวัคซีน แนะนำให้รับประทานยาพาราเซตามอล แต่ถ้าเป็นกรณีที่ปวดศีรษะรุนแรงพิจารณาใช้ยาในกลุ่ม NSAIDs หรือ ยากลุ่ม Triptans และถ้าอาการปวดศีรษะรุนแรงและไม่ดีขึ้นหลังจากการรับประทานยาแก้ปวด หรือมีอาการผิดปกติทางระบบประสาทอื่น ๆ ร่วมด้วย แนะนำให้พบแพทย์ทันที
ขอบคุณข้อมูลจาก : ช่อง Rama Channel และ นายแพทย์กีรติกร ว่องไววาณิชย์ อายุรแพทย์โรคสมองและระบบประสาท (โรคปวดศีรษะและใบหน้า) ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล