หลายคนคงชอบเครื่องดื่มอย่าง ‘น้ำส้มคั้น’ เพราะมีรสหวานดื่มง่าย แถมดื่มแล้วยังมีประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย แต่รู้หรือไม่ว่าหากดื่มมากเกินไปก็อาจเกิดโทษได้เช่นกัน
ส้ม เป็นผลไม้รสเปรี้ยวที่ให้วิตามิน และแร่ธาตุมากมาย โดยประโยชน์ของส้มนั้นมีหลายอย่าง ได้แก่ เสริมสร้างคอลลาเจน ลดริ้วรอยบนใบหน้า สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เพิ่มความสดชื่น ฯลฯ
ประโยชน์ที่ได้จากการดื่มน้ำส้ม
1.ดื่มแล้วช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
2.เสริมสร้างกระดูก น้ำส้มสามารถเสริมสร้างแคลเซียม และวิตามินดีแก่ร่างกาย
3.คอลลาเจนในน้ำส้มช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ให้ผิวมีความยืดหยุ่น ไม่แห้งแตก
4.บำรุงผิวพรรณ ต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากในน้ำส้มมีวิตามินซีสูง
5.ช่วยรักษาโรคหัวใจ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งอองตาริโอตะค้นพบสารอาหารในน้ำส้มจะช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี เพิ่มคอเลสเตอรอลส่วนดี ป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบได้
6. ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ผลการวิจัยบอกว่า เวลาเราคั้นน้ำส้ม เรามักจะผ่าส้มเป็นสองซีก เพราะฉะนั้นเวลาเราคั้นน้ำออกมา น้ำจะมีรสชาติของเปลือกส้มมาด้วย ซึ่งรสชาติที่ได้จากเปลือกส้มจะมีสาร ไลมอนอยด์ สามารถต้านมะเร็งในช่องปาก คอ ปอด กระเพาะอาหาร ลำไส้ ผิวหนัง ตับ และเต้านม เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่า สารซิตรัสในส้มสามารถต้านการเกิดมะเร็งช่องปาก มะเร็งผิวหนัง มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม และมะเร็งกระเพาะอาหารได้ด้วย
7. ป้องกันโรคนิ่ว จากผลงานวิจัย ได้ศึกษาผลการดื่มน้ำส้มป้องกันการเกิดนิ่วในไต การดื่มน้ำส้มคั้นจะเพิ่มประมาณของสารซิเตรต ในน้ำปัสสาวะมีความเป็นกรดลดลง ลดการตกผลึกของกรดยูริก และแคลเซียมออกซาเลท ซึ่งเป็นส่วนจะทำให้เกิดก้อนนิ่วจึงลดการเสี่ยงในการเกิดโรคนิ่วในไตได้
โทษและข้อควรระวังจากการดื่มน้ำส้มมากเกินไป
- ฤทธิ์กรดของน้ำส้มคั้นแรงมาก ทำให้ฟันสึกหรอลงได้ โดยอาจทำให้เคลือบฟันเสียความแข็งแกร่งลงถึง 84%
- ไม่ควรดื่มตอนท้องว่าง เพราะอาจทำให้มีอาการจุกเสียดแน่นเฟ้อและท้องอืดได้ ควรดื่มหลังมื้ออาหารจะดีที่สุด
- น้ำส้มให้พลังงานสูง และมีปริมาณน้ำตาลเยอะ เพราะกว่าจะได้น้ำส้ม 1 แก้ว ต้องใช้ส้มหลายลูก หากดื่มในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน ฯลฯ ตามมาได้
- ผู้เป็นเบาหวานหรือโรคไตควรระมัดระวัง เพราะส้มมีน้ำตาลและโพแทสเซียมสูง
ดื่ม ‘น้ำส้ม’ อย่างไร ให้ได้ประโยชน์?
***ควรเลือกดื่มน้ำส้ม 100 % ไม่เติมน้ำตาลทราย น้ำเชื่อม เกลือ สีและกลิ่นเพิ่ม และควรดื่มน้ำส้มไม่เกินวันละ 240 มิลลิลิตร ซึ่งให้พลังงานเท่ากับ 110 แคลอรี่ แนะนำให้รับประทานส้มเป็นผลจะดีกว่า เพราะส้ม 1 ผล ให้พลังงานแค่ 56-62 แคลอรี่เท่านั้น แถมมีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายได้
ข้อมูลอ้างอิงประกอบจาก :
https://topwhiteimc.blogspot.com/2012/09/blog-post.html
http://www.skm.ssru.ac.th/news/view/198209