อย่างที่ทราบกันดีว่า การสูบบุหรี่ย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แถมยังส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพผู้อื่นด้วย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังพบข้อมูลใหม่เช่นเดียวกันว่ายังมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 แถมยังให้อาการทรุดหนักอีกด้วย
โดยทางนายแพทย์ขจรศักดิ์ แกห้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เผยว่า จากการตรวจสอบและมีการบังคับใช้กฎหมายในช่วงที่มีการระบาดของโรคดังกล่าว พบว่า ได้มีกลุ่มทุนธุรกิจยาสูบได้อาศัยวิกฤติทำการแจ้งให้ร้านค้าโชห่วยจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ทำการลดราคาบุหรี่ รวมถึงมีบริการจัดส่งฟรีให้กับผู้ที่กักตัวอยู่บ้านในช่วงเฝ้าระวังโรคนั้น
กรมควบคุมโรค จึงขอเตือนประชาชนว่า อย่าตกเป็นเหยื่อให้กับธุรกิจลักษณะนี้ เพราะการสูบบุหรี่ทุกแบบ จะส่งผลโดยตรงต่อปอด และระบบทางเดินหายใจ และยิ่งในสถานการณ์โควิด-19 ระบาดด้วยแล้ว ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการแพร่กระจายและโอกาสติดเชื้อด้วย เพราะในขณะตอนที่สูบจะเป็นช่วงที่ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งจากประวัติของผู้ป่วยโรคดังกล่าว ก็มีประวัติในการสูบบุหรี่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะมีสุขภาพปอดที่ไม่ดี ก็จะทำให้อาการทรุดหนัก และเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิตได้
3 โรคหลักที่เกิดจากการสูบบุหรี่
1.โรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง
เนื่องด้วยในบุหรี่มีสารพิษจำนวนมากที่ทำให้เลือดมีความหนืดมากขึ้น แล้วทำให้เกล็ดเลือดเกาะตัวกันง่ายขึ้น ทำให้ระดับไขมันในเลือดผิดปกติ จนทำให้มีไขมันชนิดไม่ดีเพิ่มขึ้น และให้ไขมันดีลดลง แถมยังเกิดอนุมูลอิสระจำนวนมาก ที่เป็นสาเหตุของการอักเสบและแข็งตัวของหลอดเลือดิ โดยเฉพาะสารนิโคติน ที่ทำให้หลอดเลือดทั่วร่างกายตีบแคบ แล้วเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอและก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่มีในควันบุหรี่ ทำให้เม็ดเลือดจับออกซิเจนได้น้อยลง ส่งผลให้หัวใจขาดออกซิเจน เกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้ และหากเกิดกับเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง จะทำให้สมองเสื่อม หลอดเลือดสมองตีบหรือแตก นำไปสู่การเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตได้
2.โรคมะเร็งปอด
สำหรับโรคนี้ ในช่วงระยะแรกๆ จะไม่มีอาการ และผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมาพบแพทย์เมื่อมีอาการของมะเร็งที่ลุกลามมากแล้ว ซึ่งอาการที่พบได้ อาทิเช่น ไอเป็นเลือด น้ำหนักลด หอบเหนื่อย ปวดกระดูก มีอาการบวมบริเวณหน้า คอ แขน และอกส่วนบนจากก้อนมะเร็งกดทับเส้นเลือดดำใหญ่ เป็นต้น โดยสาเหตุนั้น เป็นเพราะสารพิษในบุหรี่ทำให้เยื่อบุหลอดลมปอดเกิดการระคายเคือง และหากสูบบุหรี่เป็นระยะเวลานานหรือสูบบุหรี่จัด จะทำให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์หลอดลมจนเป็นเซลล์มะเร็งได้
3.โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
โรคนี้ เป็นสิ่งต่อเนื่องจากโรคถุงลมโป่งพอง โดยเกิดมาจากการที่เนื้อปอดหรือถุงลมเกิดการภาวะระคายเคืองและถูกทำลายจากสารพิษในควันบุหรี่ (70%) หรือสารเคมีอื่นๆ ซึ่งทำให้ปอดเกิดขาดประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนออกซิเจน บวกกับมีการสร้างเสมหะมากจึงเกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ และร่วมกับเยื่อบุหลอดลมหนาตัวขึ้นจนตีบแคบ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ จึงเกิดอาการหอบเหนื่อย หายใจลำบาก โดยในรายที่เป็นมากจะไม่สามารถทำงานหรือทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติเพราะเหนื่อยมาก จนต้องนอนอยู่กับที่และรับออกซิเจนช่วยตลอดเวลา และจะทรมานจากการหอบเหนื่อยจนกว่าจะเสียชีวิต